There is a high level of awareness

There is a high level of awareness of activities concerning information privacy (what
information is protected, how information is shared and who has access) among Facebook
users. The vast majority of respondents (77.4 per cent) believe they are cautious in what
they say and do on the social networking site, reflecting high security consciousness. This
result contrasts with Rosenblum (2007), who reports that social networking users openly
and freely live their lives online. However, the finding is more in line with a recent study
conducted by Madden and Smith (2010), showing growing vigilance and consciousness
of one’s behaviour on social networking websites. The results of this study shows older
Facebook users are more likely to be cautious in what they say and do on Facebook in
comparison to younger Facebook users. Previous research shows older individuals tend to
be less tech savvy, causing them to be more cautious in their online behaviour. Older Facebook
users will generally look for more information and reassurance before they engage in
online activity and become more aware in the process (Chaffey et al., 2009). Facebook users
who have changed their privacy settings are more aware of activities concerning privacy
on Facebook in comparison to those who have not changed their settings. However, both
those who have changed and those who have not changed their settings are cautious in
what they say and do online. This finding implies an awareness of privacy risks on the
social networking site by those who have not changed their privacy settings, but also
suggests these Facebook users are not concerned enough to actually change their settings,
resembling the privacy paradox (Barnes, 2006).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระดับของการรับรู้ของกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนตัว (ที่มีป้องกันข้อมูล การใช้ข้อมูลร่วม และใครเข้า) ใน Facebookผู้ใช้ ผู้ตอบ (ร้อยละ 77.4) ส่วนใหญ่เชื่อว่า พวกเขาจะระมัดระวังในสิ่งพวกเขาพูด และทำในเว็บไซต์เครือข่ายสังคม สะท้อนให้เห็นถึงสำนึกความปลอดภัยสูง นี้ผลความแตกต่างกับ Rosenblum (2007), ซึ่งรายงานว่า สังคมเครือข่ายผู้ใช้อย่างเปิดเผยและอิสระชีวิตออนไลน์ อย่างไรก็ตาม การค้นหาจะสอดคล้องกับการศึกษาล่าสุดโดย Madden และสมิธ (2010), แสดงสติและระมัดระวังมากขึ้นของพฤติกรรมในลักษณะบนเว็บไซต์เครือข่ายสังคม ผลการศึกษานี้แสดงรุ่นเก่าผู้ใช้ Facebook มักจะระมัดระวังในสิ่งที่พวกเขาพูด และทำใน Facebook ในเปรียบเทียบกับผู้ใช้ Facebook คน แสดงงานวิจัยก่อนหน้านี้ที่คนรุ่นเก่ามักจะเทคนิคน้อยเข้าใจ ทำให้พวกเขาต้องระมัดระวังมากขึ้นในพฤติกรรมของพวกเขาออนไลน์ได้ เฟสบุ๊คเก่าผู้ใช้จะโดยทั่วไปแล้วหาข้อมูลเพิ่มเติมและ reassurance ก่อนที่พวกเขามีส่วนร่วมในกิจกรรมออนไลน์ และตระหนักมากขึ้นในกระบวนการ (Chaffey et al., 2009) ผู้ใช้ Facebookที่มีการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของพวกเขาจะตระหนักถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวบน Facebook โดยผู้ที่ได้เปลี่ยนแปลงการตั้งค่า อย่างไรก็ตาม ทั้งสองผู้ที่มีการเปลี่ยนแปลงและผู้ที่ได้เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าจะระมัดระวังในสิ่งที่พูด และทำออนไลน์ ค้นหานี้หมายถึงการมีจิตสำนึกของความเป็นส่วนตัวความเสี่ยงในการเว็บไซต์เครือข่ายสังคม โดยผู้ที่ได้เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว แต่ยังแนะนำผู้ใช้ Facebook เหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องพอที่จะ เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าคล้าย paradox ความเป็นส่วนตัว (Barnes, 2006)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีระดับสูงของการรับรู้ของกิจกรรมที่เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
(สิ่งที่เป็นข้อมูลที่มีการป้องกันวิธีการที่ข้อมูลจะถูกใช้ร่วมกันและที่มีการเข้าถึง) หมู่ Facebook
ผู้ใช้ ส่วนใหญ่ของผู้ตอบแบบสอบถาม (77.4 เปอร์เซ็นต์)
เชื่อว่าพวกเขามีความระมัดระวังในสิ่งที่พวกเขาพูดและทำในเว็บไซต์เครือข่ายทางสังคมสะท้อนให้เห็นถึงจิตสำนึกความปลอดภัยสูง นี้ผลขัดแย้งกับ Rosenblum (2007) ที่รายงานว่าผู้ใช้เครือข่ายสังคมอย่างเปิดเผยได้อย่างอิสระและชีวิตของพวกเขาออนไลน์ แต่การค้นพบเป็นมากขึ้นสอดคล้องกับผลการศึกษาล่าสุดที่จัดทำโดยหัวเสียและสมิ ธ (2010) แสดงให้เห็นถึงการเฝ้าระวังการเจริญเติบโตและจิตสำนึกของพฤติกรรมของคนในเว็บไซต์เครือข่ายสังคม ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นที่มีอายุมากกว่าผู้ใช้ Facebook มีแนวโน้มที่จะต้องระมัดระวังในสิ่งที่พวกเขาพูดและทำบน Facebook ในการเปรียบเทียบกับผู้ใช้Facebook ที่อายุน้อยกว่า วิจัยก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าผู้ที่มีอายุมากกว่ามีแนวโน้มที่จะมีความเข้าใจเทคโนโลยีน้อยทำให้พวกเขาจะต้องระมัดระวังมากขึ้นในการทำงานออนไลน์ของพวกเขา Facebook เก่าผู้ใช้ทั่วไปจะมองหาข้อมูลเพิ่มเติมและความมั่นใจก่อนที่พวกเขามีส่วนร่วมในกิจกรรมออนไลน์และตระหนักมากขึ้นในกระบวนการ(Chaffey et al., 2009) ผู้ใช้ Facebook ที่มีการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของพวกเขามีความตระหนักมากขึ้นของกิจกรรมที่เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวบน Facebook ในการเปรียบเทียบกับผู้ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนการตั้งค่าของพวกเขา อย่างไรก็ตามทั้งผู้ที่มีการเปลี่ยนแปลงและผู้ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนการตั้งค่าของพวกเขามีความระมัดระวังในสิ่งที่พวกเขาพูดและทำออนไลน์ การค้นพบนี้แสดงถึงความตระหนักในความเป็นส่วนตัวมีความเสี่ยงในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมโดยผู้ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของพวกเขาแต่ยังแสดงให้เห็นเหล่านี้ผู้ใช้Facebook ที่มีความกังวลไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าจริงของพวกเขาคล้ายขัดแย้งความเป็นส่วนตัว(บาร์นส์, 2006)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีระดับสูงของการรับรู้ของกิจกรรมเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว ( สิ่งที่
ข้อมูลได้รับการคุ้มครองแล้ว ข้อมูลที่ใช้ร่วมกันและผู้ที่มีการเข้าถึงของผู้ใช้ Facebook

ส่วนใหญ่ของผู้ตอบแบบสอบถาม ( 77.4 เปอร์เซ็นต์ ) เชื่อว่าพวกเขาจะระมัดระวังในสิ่งที่พวกเขาพูด และทำ
บนเว็บไซต์เครือข่ายทางสังคมที่สะท้อนให้เห็นถึงจิตสำนึกความปลอดภัยสูง ผลนี้
แตกต่างกับโรเซิ่นบลูม ( 2007 )ที่รายงานว่า ผู้ใช้เครือข่ายทางสังคมอย่างเปิดเผย
และอิสระในชีวิตออนไลน์ อย่างไรก็ตาม การเป็นมากขึ้นสอดคล้องกับผลการศึกษาล่าสุดที่จัดทำโดย Madden
และ Smith ( 2010 ) แสดงการเติบโตของความระมัดระวังและมีสติ
ของพฤติกรรม ในเว็บไซต์เครือข่ายทางสังคม ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ Facebook เก่า
มีแนวโน้มที่จะระมัดระวังในสิ่งที่พวกเขาพูด และทำบน Facebook ใน
เปรียบเทียบกับน้องที่ผู้ใช้ Facebook งานวิจัยก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าคนรุ่นเก่ามักจะ
จะน้อยกว่าเทคนิคชาญ , ก่อให้เกิดพวกเขาจะระมัดระวังมากขึ้นในพฤติกรรมออนไลน์ของพวกเขา ผู้ใช้ Facebook
รุ่นเก่ามักจะมองหาข้อมูลเพิ่มเติมและความมั่นใจก่อนที่พวกเขามีส่วนร่วมใน
กิจกรรมออนไลน์และตระหนักมากขึ้นในกระบวนการ ( chaffey et al . , 2009 ) ผู้ใช้ Facebook
ที่เปลี่ยนการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของพวกเขาจะทราบว่ากิจกรรมเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
บน Facebook ในการเปรียบเทียบกับผู้ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนการตั้งค่าของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ทั้ง
ผู้ที่เปลี่ยนไป และผู้ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนการตั้งค่าของพวกเขาจะระมัดระวังในสิ่งที่พวกเขาพูด และทำ
ออนไลน์ การค้นพบนี้แสดงถึงการรับรู้ของความเป็นส่วนตัวความเสี่ยงบน
เว็บไซต์เครือข่ายสังคม โดยผู้ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของพวกเขา แต่ยังให้ผู้ใช้ Facebook
เหล่านี้จะไม่กังวลมากพอที่จะเปลี่ยนการตั้งค่าของพวกเขา
คล้าย Paradox ความเป็นส่วนตัว ( Barnes , 2006 )