กระต่าย (อังกฤษ: Hare, Rabbit) จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อันดับกระต่าย (Lagomorpha) ในวงศ์ Leporidae
กระต่ายแม้จะมีฟันแทะเหมือนกับสัตว์ฟันแทะ (Rodentia) แต่ถูกจัดออกมาเป็นอันดับต่างหาก เนื่องมีจำนวนฟันที่ไม่เท่ากัน เพราะกระต่ายมีฟันแทะที่ขากรรไกรบน 2 แถว เรียงซ้อนกันแถวละ 2 ซี่ ฟันกรามบนข้างละ 6 ซี่ และฟันกรามล่างข้างละ 5 ซี่ เมื่อเวลาเคี้ยวอาหาร กระต่ายจะใช้ฟันทั้ง 2 ด้านเคี้ยวสลับกันไป ต่างจากสัตว์ฟันแทะโดยทั่วไปที่เคี้ยวเคลื่อนหน้าเคลื่อนหลัง ซึ่งสามารถเขียนเป็นสูตรได้ว่า (1 frac{2}{2},C frac{0}{0},P frac{3}{2},M frac{2}{3}) X 2 = 28
กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดเล็ก มีขนปุกปุยทั่วลำตัว มีหางกลมสั้น มีใบหูยาวเมื่อเทียบกับสัตว์อื่น ซึ่งวิวัฒนาการมาใช้สำหรับฟังเสียงได้เป็นอย่างดี และยังมีประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นที่ดีมาก กระต่ายมีขาหน้าที่มี 5 นิ้ว ขาหลังมี 4 นิ้ว มีสะโพกที่ยาวและทรงพลัง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ จึงสามารถกระโดดได้เป็นอย่างดี ใต้ฝ่าเท้ามีขนนุ่ม ๆ รองรับอยู่ เพื่อมิให้เกิดเสียงเมื่อเคลื่อนไหว เป็นสัตว์ที่ตื่นตกใจง่ายและมีความว่องไวปราดเปรียวมากในการระแวดระวังภัย นอกจากนี้แล้วตาของกระต่ายยังมีหนังตาหรือเปลือกตาถึง 3 ชั้นด้วยกัน
กระต่ายเป็นสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหารเท่านั้น ต่างจากสัตว์ฟันแทะที่กินได้ทั้งเนื้อและพืช อาหารของกระต่ายได้แก่ หญ้าและพืชผักชนิดต่าง ๆ อายุขัยโดยเฉลี่ยของกระต่ายจะอยู่ที่ 2-3 ปี นับเป็นสัตว์ที่สืบพันธุ์เร็วมาก โดยปีหนึ่ง ๆ กระต่ายสามารถออกลูกได้ถึง 2-3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 2-3 ตัว กระต่ายในธรรมชาติ มักอาศัยอยู่ในที่ราบโล่งที่เป็นทุ่งหญ้ามากกว่าป่าทึบ โดยขุดโพรงใต้ดินเป็นรังและที่อยู่อาศัย ลูกกระต่ายป่าในธรรมชาติ เมื่อแรกเกิดจะลืมตา และในวันรุ่งขึ้นก็สามารถวิ่งและกระโดดได้เลย เมื่อกระต่ายตัวเมียจะคลอดลูก จะแยกออกจากรังเดิมไปขุดรังใหม่ เพื่อป้องกันลูกอ่อนจากกระต่ายตัวผู้ ซึ่งอาจฆ่าลูกกระต่ายเกิดใหม่ได้ โดยจะกัดขนตัวเองเพื่อปูรองรับลูกใหม่ที่จะเกิดขึ้นมา
กระต่ายกระจายพันธุ์ไปในทุกภูมิภาคทั่วโลก ไม่เว้นแม้กระทั่งเขตอาร์กติก ยกเว้นโอเชียเนียและทวีปออสเตรเลีย แบ่งออกได้เป็น 11 สกุล (ดูในตาราง) ในประเทศไทยพบเพียงชนิดเดียว คือ กระต่ายป่า(Lepus peguensis)
กระต่ายโดยธรรมชาติ เป็นสัตว์ที่อยู่สุดปลายของห่วงโซ่อาหาร ด้วยเป็นอาหารของสัตว์กินเนื้อชนิดต่าง ๆ เช่น หมาป่า, หมาจิ้งจอก, แมวป่า, เสือชนิดต่าง ๆ, หมาใน, ชะมด, เพียงพอน รวมถึงงูขนาดใหญ่ด้วย เช่น งูหลามและงูเหลือม กระต่ายเป็นสัตว์ที่ผูกพันกับมนุษย์มาเป็นเวลานาน ด้วยการเป็นสัตว์ที่ถูกล่าเพื่อเป็นอาหารและเกมกีฬาโดยเฉพาะในแถบทวีปยุโรป ในเชิงวัฒนธรรมและความเชื่อ ชาวตะวันตกเชื่อว่า การพกขากระต่ายจะนำมาซึ่งโชคดี ชาวจีนและชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า กระต่ายเป็นเทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ มีหน้าที่ปรุงยาอายุวัฒนะ เป็นสัตว์เลี้ยงของฉางเอ๋อ เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ การมอบรูปลักษณ์ของกระต่ายจึงถือเป็นการมอบความปรารถนาให้โชควาสนาให้แก่กัน
กระต่าย (อังกฤษ: ฮา กระต่าย) จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลังชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอันดับกระต่าย (Lagomorpha) ในวงศ์ Leporidaeกระต่ายแม้จะมีฟันแทะเหมือนกับสัตว์ฟันแทะ (Rodentia) แต่ถูกจัดออกมาเป็นอันดับต่างหากเนื่องมีจำนวนฟันที่ไม่เท่ากันเพราะกระต่ายมีฟันแทะที่ขากรรไกรบน 2 แถวเรียงซ้อนกันแถวละ 2 ซี่ฟันกรามบนข้างละ 6 ซี่และฟันกรามล่างข้างละ 5 ซี่เมื่อเวลาเคี้ยวอาหารกระต่ายจะใช้ฟันทั้ง 2 ด้านเคี้ยวสลับกันไปต่างจากสัตว์ฟันแทะโดยทั่วไปที่เคี้ยวเคลื่อนหน้าเคลื่อนหลังซึ่งสามารถเขียนเป็นสูตรได้ว่า (1 frac { 2 } { 2 } { 0 } { 0 } C frac P frac { 3 } { 2 } M frac { 2 } { 3 }) X 2 = 28กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดเล็กมีขนปุกปุยทั่วลำตัวมีหางกลมสั้นมีใบหูยาวเมื่อเทียบกับสัตว์อื่นซึ่งวิวัฒนาการมาใช้สำหรับฟังเสียงได้เป็นอย่างดีและยังมีประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นที่ดีมากกระต่ายมีขาหน้าที่มี 5 นิ้วขาหลังมี 4 นิ้วมีสะโพกที่ยาวและทรงพลังเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อจึงสามารถกระโดดได้เป็นอย่างดีใต้ฝ่าเท้ามีขนนุ่มๆ รองรับอยู่เพื่อมิให้เกิดเสียงเมื่อเคลื่อนไหวเป็นสัตว์ที่ตื่นตกใจง่ายและมีความว่องไวปราดเปรียวมากในการระแวดระวังภัยนอกจากนี้แล้วตาของกระต่ายยังมีหนังตาหรือเปลือกตาถึง 3 ชั้นด้วยกันกระต่ายเป็นสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหารเท่านั้นต่างจากสัตว์ฟันแทะที่กินได้ทั้งเนื้อและพืชอาหารของกระต่ายได้แก่หญ้าและพืชผักชนิดต่างๆ อายุขัยโดยเฉลี่ยของกระต่ายจะอยู่ที่ 2-3 ปีนับเป็นสัตว์ที่สืบพันธุ์เร็วมากโดยปีหนึ่งๆ กระต่ายสามารถออกลูกได้ถึง 2-3 ครั้งครั้งละประมาณ 2-3 ตัวกระต่ายในธรรมชาติมักอาศัยอยู่ในที่ราบโล่งที่เป็นทุ่งหญ้ามากกว่าป่าทึบโดยขุดโพรงใต้ดินเป็นรังและที่อยู่อาศัยลูกกระต่ายป่าในธรรมชาติเมื่อแรกเกิดจะลืมตาและในวันรุ่งขึ้นก็สามารถวิ่งและกระโดดได้เลยเมื่อกระต่ายตัวเมียจะคลอดลูกจะแยกออกจากรังเดิมไปขุดรังใหม่เพื่อป้องกันลูกอ่อนจากกระต่ายตัวผู้ซึ่งอาจฆ่าลูกกระต่ายเกิดใหม่ได้โดยจะกัดขนตัวเองเพื่อปูรองรับลูกใหม่ที่จะเกิดขึ้นมากระต่ายกระจายพันธุ์ไปในทุกภูมิภาคทั่วโลกไม่เว้นแม้กระทั่งเขตอาร์กติกยกเว้นโอเชียเนียและทวีปออสเตรเลียแบ่งออกได้เป็น 11 สกุล (ดูในตาราง) ในประเทศไทยพบเพียงชนิดเดียวคือกระต่ายป่า (กลุ่มดาวกระต่ายป่า peguensis)กระต่ายโดยธรรมชาติ เป็นสัตว์ที่อยู่สุดปลายของห่วงโซ่อาหาร ด้วยเป็นอาหารของสัตว์กินเนื้อชนิดต่าง ๆ เช่น หมาป่า, หมาจิ้งจอก, แมวป่า, เสือชนิดต่าง ๆ, หมาใน, ชะมด, เพียงพอน รวมถึงงูขนาดใหญ่ด้วย เช่น งูหลามและงูเหลือม กระต่ายเป็นสัตว์ที่ผูกพันกับมนุษย์มาเป็นเวลานาน ด้วยการเป็นสัตว์ที่ถูกล่าเพื่อเป็นอาหารและเกมกีฬาโดยเฉพาะในแถบทวีปยุโรป ในเชิงวัฒนธรรมและความเชื่อ ชาวตะวันตกเชื่อว่า การพกขากระต่ายจะนำมาซึ่งโชคดี ชาวจีนและชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า กระต่ายเป็นเทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ มีหน้าที่ปรุงยาอายุวัฒนะ เป็นสัตว์เลี้ยงของฉางเอ๋อ เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ การมอบรูปลักษณ์ของกระต่ายจึงถือเป็นการมอบความปรารถนาให้โชควาสนาให้แก่กัน
การแปล กรุณารอสักครู่..
กระต่าย (อังกฤษ: กระต่ายกระต่าย) จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลังชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอันดับกระต่าย (Lagomorpha) ในวงศ์
(Rodentia) แต่ถูกจัดออกมาเป็นอันดับต่างหากเนื่องมีจำนวนฟันที่ไม่เท่ากันเพราะกระต่ายมีฟันแทะที่ขากรรไกรบน 2 แถวเรียงซ้อนกันแถวละ 2 ซี่ฟันกรามบนข้างละ 6 ซี่และฟันกรามล่างข้างละ 5 ซี่เมื่อเวลาเคี้ยวอาหารกระต่ายจะใช้ฟันทั้ง 2 ด้านเคี้ยวสลับกันไป ซึ่งสามารถเขียนเป็นสูตรได้ว่า (1 tfrac {2} {2}, C tfrac {0} {0} P tfrac {3} {2}, M tfrac {2} {3}) X 2 =
มีขนปุกปุยทั่วลำตัวมีหางกลมสั้นมีใบหูยาวเมื่อเทียบกับสัตว์อื่น กระต่ายมีขาหน้าที่มี 5 นิ้วขาหลังมี 4 นิ้วมีสะโพกที่ยาวและทรงพลังเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อจึงสามารถกระโดดได้เป็นอย่างดีใต้ฝ่าเท้ามีขนนุ่ม ๆ รองรับอยู่ 3
อาหารของกระต่าย ได้แก่ หญ้าและพืชผักชนิดต่าง ๆ 2-3 ปีนับเป็นสัตว์ที่สืบพันธุ์เร็วมากโดยปีหนึ่ง ๆ กระต่ายสามารถออกลูกได้ถึง 2-3 ครั้งครั้งละประมาณ 2-3 ตัวกระต่ายในธรรมชาติ ลูกกระต่ายป่าในธรรมชาติเมื่อแรกเกิดจะลืมตา เมื่อกระต่ายตัวเมียจะคลอดลูกจะแยกออกจากรังเดิมไปขุดรังใหม่ ซึ่งอาจฆ่าลูกกระต่ายเกิดใหม่ได้
ไม่เว้นแม้กระทั่งเขตอาร์กติกยกเว้นโอเชียเนียและทวีปออสเตรเลียแบ่งออกได้เป็น 11 สกุล (ดูในตาราง) ในประเทศไทยพบเพียงชนิดเดียวคือกระต่ายป่า (Lepus peguensis)
กระต่ายโดยธรรมชาติ ๆ เช่นหมาป่า, หมาจิ้งจอก, แมวป่า, เสือชนิดต่าง ๆ , หมาใน, ชะมด, เพียงพอนรวมถึงงูขนาดใหญ่ด้วยเช่นงูหลามและงูเหลือม ในเชิงวัฒนธรรมและความเชื่อชาวตะวันตกเชื่อว่าการพกขากระต่ายจะนำมาซึ่งโชคดีชาวจีนและชาวญี่ปุ่นเชื่อว่ากระต่ายเป็นเทพเจ้าแห่งดวงจันทร์มีหน้าที่ปรุงยาอายุวัฒนะเป็นสัตว์เลี้ยงของฉางเอ๋อเทพธิดาแห่งดวงจันทร์
การแปล กรุณารอสักครู่..