How Bogus Scientific Studies Are Cr

How Bogus Scientific Studies Are Created

As mentioned in my “Introduction to Alternative Cancer Treatments” article, over a period of 42 years, the tobacco industry spent over $220 million funding over 1,500 scientific studies, yet not a single one of these studies could find a relationship between tobacco and lung cancer, heart disease, etc. As I mentioned in that article, a group of high school students with a phone book could prove a relationship between tobacco and lung cancer. My point to mentioning this fact was that scientists are more than willing to accept money to do bogus scientific studies.

In fact you can almost always predict what conclusions a “scientific” study will come to by knowing just one key fact: “who funded the study.” The person who funded the study will always get the conclusion they want. People who loosely call themselves “scientists” will always make sure of that.

The pharmaceutical industry, with their total control over the National Institutes of Health (NIH), National Cancer Institute (NCI), Food and Drug Administration (FDA), etc. have also funded many, many millions of dollars of bogus scientific studies. In fact, their budget is in the billions of dollars every year!! Couple this with their control of the media and you have the situation we are in today.

It is the Prime Directive of medical research to do two things:
First, make it appear there is “scientific evidence” for orthodox cancer treatments, orthodox heart disease prevention treatments, etc., and
Second, make it appear there is “no scientific evidence” for alternative cancer treatments, alternative heart disease prevention treatments, and so on.

But how can a scientist not find value in a nutrient that treats cancer or heart disease when the truth of the matter is that this substance does have value? That is what this web page is about.

This web page will summarize a number of different tactics and tricks that scientists can use to insure that their masters who fund their studies get exactly what they want.

Tactics, Tricks and Fraud in Scientific Studies

Using Synthetic Versions of a Nutrient In the Study

In many studies of nutrients, especially vitamins, synthetic versions of the nutrient were used in the study. Synthetic versions of a vitamin do not have nearly the effect on a disease as a quality-processed natural version of the same nutrient. For example:

A new landmark study suggests that pregnant women should ask their physicians for a prenatal supplement that contains natural vitamin E for optimal health insurance. According to this new research, the human placenta can deliver natural vitamin E to the fetus in much greater concentration (3.5 to one) than the synthetic supplement.
Natural and synthetic vitamin E are not the same. Previous research has shown natural vitamin E is better retained and more biologically active than synthetic. To identify the kind of vitamin E in a supplement, it is necessary to read the ingredients listed on the label. Natural vitamin E begins with “d,” as in “d-alpha-tocopherol.” The synthetic version begins with “dl.
http://www.pslgroup.com/dg/63882.htm
The Dosage is Too Low

When the news media blasts to the world that a particular vitamin or other nutrient “does not work” at preventing or treating a disease, they may mention the dosage of the product used by the orthodox scientist, but they won’t mention the real world dosage used by alternative medicine practitioners. Frequently, the orthodox “study” only used a small fraction of the dosage generally used by alternative medicine.

Isolating a Natural Substance That Works in Synergy With Other Nutrients

Scientists like to study one nutrient at a time, ignoring that in raw, whole foods, this nutrient may be the best nutrient in isolation, but in fact this nutrient only works in combination with several other key nutrients in the raw, whole food. For example, orthodox scientists may study Vitamin A, by itself, instead of the effect of fresh, properly prepared carrot juice. By isolating one substance, they can then generalize that they have proven that the entire natural food has no effect on prevention or treatment.

Isolating and Studying the Wrong Nutrient

There are many thousands of phytonutrients in plants. No one has a clue how many of them there are. Most of them have not been identified or isolated. Few of them have ever been tested for treating cancer. With glyconutrients, the situation may even be worse. Glyconutrients may some day be found to be more effective at curing cancer than phytonutrients.

When massive evidence suggests that carrot juice is one of the best treatments for cancer, scientists quickly try to guess what it is about carrots that kills cancer cells so well.

It might be beta carotene, it might be alpha carotene. No one knows for sure. It might be a combination of 20 different things, only 4 of which have been isolated and identified as of this date.

Nevertheless, such a possibility will

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธีสร้างการศึกษาปลอมตามที่กล่าวถึงในบทความ "แนะนำให้ทางคมนาคม" ของฉัน เป็นเวลา 42 ปี อุตสาหกรรมยาสูบใช้กว่า 220 ล้านเหรียญเงินทุนการศึกษากว่า 1,500 ยังไม่เป็นหนึ่งเดียวของการศึกษาเหล่านี้สามารถหาความสัมพันธ์ระหว่างยาสูบและปอดมะเร็ง โรคหัวใจ ฯลฯ เป็นบทความที่ กลุ่มของนักเรียนพร้อมสมุดโทรศัพท์สามารถพิสูจน์ความสัมพันธ์ระหว่างโรคมะเร็งปอดและยาสูบ จุดของฉันจะกล่าวถึงข้อเท็จจริงนี้เป็นนักวิทยาศาสตร์ยินดีที่กว่าจะยอมรับได้เช่นการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ปลอมในความเป็นจริงคุณสามารถมักคาดสรุปว่าการศึกษา "วิทยาศาสตร์" จะมาได้รู้ความจริงสำคัญเพียงหนึ่ง: "ผู้สนับสนุนการศึกษา" ผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาจะได้รับข้อสรุปที่พวกเขาต้องการเสมอ ผู้ที่หลวม ๆ โทรหาเอง "นักวิทยาศาสตร์" จะเสมอให้แน่ใจว่าอุตสาหกรรมยา กับการควบคุมแห่งชาติสถาบันของสุขภาพสหรัฐอเมริกา ได้เริ่มชาติมะเร็งสถาบัน (ต้น), อาหาร และยา (FDA), ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีทุนจำนวนมาก หลายล้านดอลลาร์ของปลอมการศึกษา ในความเป็นจริง งบประมาณเป็นพันล้านดอลลาร์ทุกปี!! ใช้คู่กับสื่อการควบคุมของพวกเขา และคุณมีสถานการณ์ที่เรามีในวันนี้เป็นคำสั่งสำคัญของวิจัยทางการแพทย์การทำ:แรก ให้ปรากฏ มี "หลักฐานทางวิทยาศาสตร์" ดั้งเดิมรักษา การรักษาการป้องกันโรคหัวใจดั้งเดิม ฯลฯ และสอง ทำให้มันปรากฏ เป็น "ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์" สำหรับรักษามะเร็งทางเลือก การรักษาการป้องกันโรคหัวใจอื่น และอื่น ๆแต่วิธีที่นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถหาค่าในสารอาหารบำบัดโรคมะเร็งหรือโรคหัวใจที่เมื่อความจริงของเรื่องคือการ ที่สารนี้มีค่า เว็บนี้มีอะไรเกี่ยวกับที่อยู่เว็บนี้จะสรุปกลยุทธ์ที่แตกต่างกันและเทคนิคที่นักวิทยาศาสตร์สามารถใช้เพื่อประกันว่า ของต้นแบบที่กองทุนการศึกษาได้รับสิ่งที่เขาต้องยุทธวิธี เทคนิค และการทุจริตในการศึกษาใช้รุ่นสังเคราะห์สารอาหารในการศึกษาในการศึกษามากมายของสารอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามิน สารอาหารสังเคราะห์รุ่นถูกใช้ในการศึกษา เป็นวิตามินสังเคราะห์รุ่นไม่มีเกือบผลโรคธรรมชาติรุ่นคุณภาพการประมวลผลของสารเดียวกัน ตัวอย่างเช่น:สถานการศึกษาแนะนำให้ หญิงตั้งครรภ์ควรถามแพทย์สำหรับอาหารเสริมสำหรับสตรีตั้งครรภ์ที่ประกอบด้วยวิตามินอีธรรมชาติสำหรับการประกันสุขภาพที่เหมาะสม ตามการวิจัยใหม่นี้ รกมนุษย์สามารถให้วิตามินอีธรรมชาติกับทารกในครรภ์ในมากเข้มข้นมากขึ้น (3.5 การหนึ่ง) มากกว่าอาหารเสริมที่สังเคราะห์ธรรมชาติและสังเคราะห์วิตามินอีไม่เหมือนกัน ก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นธรรมชาติวิตามินอีจะดีกว่าสังเคราะห์สะสม และชีวภาพที่มากกว่า การระบุชนิดของวิตามินอีในอาหารเสริม จึงจำเป็นต้องอ่านส่วนผสมที่ระบุบนฉลาก วิตามินอีธรรมชาติเริ่มต้น ด้วย "d ใน"d-อัลฟา-tocopherol" รุ่นสังเคราะห์เริ่มต้น ด้วย "dlhttp://www.pslgroup.com/dg/63882.htmปริมาณต่ำ เกินไปเมื่อสื่อข่าวเมลไปทั่วโลกว่า เป็นเฉพาะวิตามินหรือสารอาหารอื่น ๆ "ไม่ได้" ที่ป้องกัน หรือรักษาโรค พวกเขาอาจพูดถึงปริมาณของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ โดยนักวิทยาศาสตร์ดั้งเดิม แต่พวกเขาจะไม่พูดถึงปริมาณจริงที่ใช้ โดยผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์ทางเลือก บ่อย "ศึกษา" ดั้งเดิมใช้ส่วนเล็กของปริมาณที่ใช้โดยทั่วไป โดยแพทย์ทางเลือกเท่านั้นแยกสารตามธรรมชาติที่ทำงานร่วมกันกับสารอาหารอื่น ๆนักวิทยาศาสตร์ต้องการศึกษาธาตุอาหารหนึ่งครั้ง ละเว้นว่า ในอาหารดิบ ทั้ง สารอาหารนี้อาจมีสารอาหารที่ดีที่สุดในแยกต่างหาก แต่ในความเป็นจริงสารนี้เฉพาะทำงานร่วมกับสารอาหารสำคัญอื่น ๆ หลายในอาหารดิบ ทั้งหมด เช่น นักวิทยาศาสตร์ดั้งเดิมอาจศึกษาวิตามินเอ ด้วยตัวเอง แทนผลของสด น้ำแครอทเตรียมอย่างถูกต้อง โดยแยกสารหนึ่ง พวกเขาสามารถแล้วทั่วไปที่พวกเขาได้พิสูจน์ว่า อาหารธรรมชาติทั้งหมดไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาการแยกและศึกษาสารอาหารไม่ถูกต้องมีสารอาหารในพืชหลายพัน ไม่มีใครมีเบาะแสจำนวนของพวกเขามี ไม่ได้ระบุ หรือแยกส่วน ไม่กี่ของพวกเขาได้เคยถูกทดสอบสำหรับรักษาโรคมะเร็ง กับ glyconutrients สถานการณ์อาจเลวร้ายยิ่ง Glyconutrients อาจวันพบมีเพิ่มเติมประสิทธิภาพในการรักษามะเร็งกว่าสารอาหารเมื่อหลักฐานใหญ่แนะนำว่า น้ำแครอทเป็นบริการที่ดีที่สุดสำหรับมะเร็ง นักวิทยาศาสตร์ได้อย่างรวดเร็วพยายามจะเดาว่า มันคืออะไรในแครอทที่ฆ่าเซลล์มะเร็งได้ดีเบต้าแคโรทีอาจ อาจเป็นอัลฟาแคโรทีน ไม่มีใครรู้ว่า อาจเป็นการรวมกันของสิ่งต่าง ๆ 20, 4 เท่านั้นที่มีการแยก และระบุวันที่นี้อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ที่จะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีปลอมวิทยาศาสตร์ศึกษาถูกสร้างขึ้นเป็นที่กล่าวถึงใน "ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการรักษาโรคมะเร็งทางเลือกของฉัน" บทความในช่วง 42 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมยาสูบใช้เวลากว่า $ 220 ล้านในการระดมทุนกว่า 1,500 ศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่ยังไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวของการศึกษาเหล่านี้สามารถหา ความสัมพันธ์ระหว่างการสูบบุหรี่และมะเร็งปอด, โรคหัวใจและอื่น ๆ ขณะที่ผมกล่าวถึงในบทความที่เป็นกลุ่มของนักเรียนโรงเรียนมัธยมที่มีสมุดโทรศัพท์สามารถพิสูจน์ความสัมพันธ์ระหว่างบุหรี่และมะเร็งปอด จุดของฉันที่จะกล่าวถึงความเป็นจริงนี้คือการที่นักวิทยาศาสตร์มีมากกว่ายินดีที่จะรับเงินที่จะทำการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ปลอม. ในความเป็นจริงคุณมักจะสามารถทำนายสิ่งที่ข้อสรุปของการศึกษา "วิทยาศาสตร์" ที่จะมาถึงโดยรู้เพียงหนึ่งความจริงที่สำคัญ: "ที่ได้รับการสนับสนุน การศึกษา. "คนที่ได้รับทุนการศึกษาก็จะได้รับข้อสรุปที่พวกเขาต้องการ คนที่เรียกตัวเองอย่างอิสระ "นักวิทยาศาสตร์" มักจะทำให้แน่ใจว่า. อุตสาหกรรมยามีการควบคุมทั้งหมดของพวกเขามากกว่าสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) สถาบันมะเร็งแห่งชาติ (NCI), อาหารและยา (FDA) ฯลฯ นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนเป็นจำนวนมากหลายล้านดอลลาร์จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ปลอม ในความเป็นจริงงบประมาณของพวกเขาอยู่ในพันล้านดอลลาร์ทุกปี !! คู่นี้มีการควบคุมสื่อและคุณมีสถานการณ์ที่เราอยู่ในวันนี้. มันเป็นคำสั่งนายกของการวิจัยทางการแพทย์ที่จะทำสิ่งที่สอง: ครั้งแรกที่ทำให้มันปรากฏมี "หลักฐานทางวิทยาศาสตร์" สำหรับการรักษาโรคมะเร็งร์โธดอกซ์, โรคหัวใจออร์โธดอก การรักษาการป้องกัน ฯลฯ และประการที่สองทำให้มันปรากฏมี "ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์" สำหรับการรักษาโรคมะเร็งทางเลือก, การรักษาการป้องกันการเกิดโรคหัวใจทางเลือกและอื่น ๆ . แต่วิธีการที่สามารถนักวิทยาศาสตร์ไม่พบค่าในสารอาหารที่มีการบำบัดโรคมะเร็งหรือโรคหัวใจ โรคเมื่อความจริงของเรื่องก็คือว่าสารนี้จะมีค่า? นั่นคือสิ่งที่หน้าเว็บนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ. หน้าเว็บนี้จะสรุปจำนวนของกลยุทธ์ที่แตกต่างและเทคนิคที่นักวิทยาศาสตร์สามารถใช้เพื่อให้แน่ใจว่าต้นแบบของพวกเขาที่กองทุนการศึกษาของพวกเขาได้รับสิ่งที่พวกเขาต้องการ. กลยุทธ์เคล็ดลับและการทุจริตในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้สังเคราะห์ รุ่นของธาตุอาหารในการศึกษาได้ในหลายการศึกษาของสารอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินสังเคราะห์สารอาหารที่ถูกนำมาใช้ในการศึกษา รุ่นสังเคราะห์ของวิตามินเอไม่ได้มีผลกระทบเกือบเกี่ยวกับโรคเป็นรุ่นธรรมชาติที่มีคุณภาพการประมวลผลของสารอาหารที่เดียวกัน ตัวอย่างเช่นการศึกษาสถานที่ใหม่แสดงให้เห็นว่าหญิงตั้งครรภ์ควรถามแพทย์ของพวกเขาสำหรับอาหารเสริมก่อนคลอดที่มีวิตามินอีธรรมชาติสำหรับการประกันสุขภาพที่ดีที่สุด ตามการวิจัยใหม่นี้รกของมนุษย์สามารถส่งมอบวิตามินอีจากธรรมชาติเพื่อทารกในครรภ์มีความเข้มข้นมากขึ้น (3.5 ถึงหนึ่ง) มากกว่าอาหารเสริมสังเคราะห์. ธรรมชาติและสังเคราะห์วิตามินอีจะไม่เหมือนกัน วิจัยก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นวิตามินอีจากธรรมชาติจะยังคงอยู่ที่ดีขึ้นและมากขึ้นกว่าการใช้งานทางชีวภาพสังเคราะห์ เพื่อระบุชนิดของวิตามินอีในอาหารเสริมก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะอ่านส่วนผสมที่ระบุไว้บนฉลาก ธรรมชาติวิตามินอีที่เริ่มต้นด้วย "D" ในขณะที่ "D-อัลฟาโทโคฟีรอ." รุ่นที่สังเคราะห์ขึ้นต้นด้วย "DL. http://www.pslgroup.com/dg/63882.htm ปริมาณที่ต่ำเกินไปเมื่อข่าว ลั่นสื่อให้โลกเห็นว่าเฉพาะวิตามินหรือสารอาหารอื่น ๆ "ไม่ทำงาน" ในการป้องกันหรือรักษาโรคที่พวกเขาอาจจะพูดถึงปริมาณของสินค้าที่ใช้โดยนักวิทยาศาสตร์ออร์โธดอก แต่พวกเขาจะไม่พูดถึงปริมาณที่โลกแห่งความจริงที่ใช้โดย ผู้ปฏิบัติงานการแพทย์ทางเลือก ที่พบบ่อย, ออร์โธดอก "การศึกษา" ที่ใช้เพียงส่วนเล็ก ๆ ของปริมาณที่ใช้โดยแพทย์ทางเลือกโดยทั่วไป. แยกสารธรรมชาติที่ทำงานในการทำงานร่วมกันไปด้วยสารอาหารอื่น ๆนักวิทยาศาสตร์ต้องการศึกษาต่อหนึ่งสารอาหารในช่วงเวลาที่ไม่สนใจว่าในดิบอาหารทั้ง สารอาหารนี้อาจจะเป็นสารอาหารที่ดีที่สุดในการแยก แต่ในความเป็นจริงสารอาหารนี้จะทำงานเฉพาะในการทำงานร่วมกับสารอาหารอื่น ๆ ที่สำคัญหลายแห่งในดิบอาหารทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่นนักวิทยาศาสตร์สามารถศึกษาออร์โธดอกวิตามินเอด้วยตัวเองแทนของผลกระทบของสดน้ำแครอทจัดทำอย่างถูกต้อง โดยการแยกสารหนึ่งพวกเขาก็สามารถพูดคุยว่าพวกเขาได้พิสูจน์แล้วว่าอาหารธรรมชาติทั้งหมดไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษา. Isolating และการศึกษาสารอาหารที่ไม่ถูกต้องมีหลายพันของสารอาหารที่อยู่ในพืช ไม่มีใครมีเบาะแสจำนวนของพวกเขามี ที่สุดของพวกเขายังไม่ได้รับการระบุหรือแยก กี่ของพวกเขาเคยได้รับการทดสอบสำหรับการรักษาโรคมะเร็ง ด้วย glyconutrients สถานการณ์อาจจะเลวร้ายยิ่ง glyconutrients อาจบางวันจะพบว่ามีประสิทธิภาพมากขึ้นในการรักษาโรคมะเร็งกว่า phytonutrients. เมื่อหลักฐานขนาดใหญ่แสดงให้เห็นว่าน้ำแครอทเป็นหนึ่งในการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับโรคมะเร็งนักวิทยาศาสตร์ได้อย่างรวดเร็วพยายามที่จะคาดเดาว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับแครอทที่ฆ่าเซลล์มะเร็งให้ดี. มัน อาจจะมีเบต้าแคโรทีก็อาจจะมีอัลฟาแคโรทีน ไม่มีใครรู้ว่า มันอาจจะมีการรวมกันของ 20 สิ่งที่แตกต่างเพียง 4 แห่งที่ได้รับการแยกและระบุว่าเป็นของวันนี้. แต่เป็นไปได้เช่นจะ