MONEYBALL: DATA-DRIVEN BASEBALL on

MONEYBALL: DATA-DRIVEN BASEBALL on september 23, 2011, the film Moneyball opened in theaters across the United States starring Brad Pitt as Billy Beane, the iconoclastic general manager of Athletics. The film was based on the bestselling book by Michael Lewis that described baseball, how Beane led the underdog As, with one of the test budgets in Major League the next to win 103 games in 2002. Under Beane's watch, the As made the playoffs five times in eight seasons. a At the opening of the 2002 baseball season, the wealthiest team was the New York with payroll $126 million; the oakland As and Tampa Bay Devil Rays, each with payrolls of $41 million, were the poorest These meant that only the wealthiest teams could afford the best players A poor team, such as the As, could only afford what "better teams rejected and thus was almost certain to fail That is, until Billy Beane and Moneyball entered the picture. How did Beane do it? He took a close look at the data. Conventional baseball wisdom tained that big-name highly a and were main ingredients for winning. Beane and his assistant general manager Paul DePodesta used advanced statistical analysis of player and to prove that wrong. The prevailing metrics for predicting win losses, and player performance, such as batting averages, runs batted in, and stolen bases, were vestiges of the early years of baseball and the statistics that were available at that time. Baseball talent scouts used these metrics, as well a their gut intuition, to size up talent for their team Beane and DePodesta found that a different set of metrics, namely, the percentage of time a hitter was on base or forced opposing pitchers to throw a high number of pitches, was more predictive of a team's chances of winning a game. So Beane sought out affordable players who met these criteria (including those who drew lots of "walks") and had been overlooked or rejected by the well-funded teams. He didn't care if a player was overweight or seemed past his prime-he only focused on the numbers. Beane was able to field a consistently winning team by using advanced analytics to gain insights into each player's value and contribution to team success that other richer teams had overlooked. Beane and his data-driven approach to baseball had a seismic impact on the game. After

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

MONEYBALL: ปรับปรุงข้อมูลเบสบอลเมื่อ 23 กันยายน 2011 ฟิล์ม Moneyball เปิดในโรงภาพยนตร์ทั่วสหรัฐอเมริกาที่นำแสดงโดยแบรดพิตต์เป็น Billy Beane ผู้จัดการทั่วไป iconoclastic ของกรีฑา ภาพยนตร์ถูกนำมาจากหนังสือขายดี โดย Michael Lewis ที่อธิบายเบสบอล วิธี Beane นำรองเป็น มีงบประมาณในการทดสอบในวิชาหนึ่งลีถัดไปจะชนะเกมที่ 103 ในปี 2002 ภายใต้การดูของ Beane เป็นที่ทำการเพลย์ออฟห้าครั้งในซีซั่นที่แปด การเปิดฤดูกาลเบสบอล 2002 กลุ่มคนร่ำรวยนิวยอร์ก ด้วยค่าจ้าง $126 ล้าน โอ๊คแลนด์เป็น และแทมปาเบย์ปีศาจรังสี มีของ 41 ล้านดอลลาร์ ค่าจ้างอีก คนยากจนที่สุดเหล่านี้หมายความ ว่า เฉพาะคนร่ำรวยสามารถซื้อผู้เล่นที่ดีที่สุด ทีมไม่ดี เช่น As สามารถเฉพาะจ่ายอะไร "ดีกว่ากลุ่มคนที่ปฏิเสธจึง ถูกเกือบบางล้มเหลวที่จะ จนกว่า Billy Beane และ Moneyball ใส่รูปภาพ ไม่ Beane อย่างไรนั้น เขาเอาข้อมูลปิดตา ภูมิปัญญาดั้งเดิมเบสบอล tained ที่ big-name สูง และมีส่วนผสมหลักในการชนะ Beane และเขาจัดการทั่วไปผู้ช่วย Paul DePodesta ใช้วิเคราะห์ทางสถิติขั้นสูง ของผู้เล่น และ เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ถูกต้อง วัดค่าการคาดการณ์ชนะขาด และประสิทธิภาพของ player เช่นค่าเฉลี่ยตี รันฐาน batted ใน และการถูกขโมย มี vestiges ของช่วงปีแรก ๆ ของเบสบอลและสถิติที่ใช้อยู่ในขณะนั้น ลูกเสือเบสบอลความสามารถใช้เครื่องมือวัดเหล่านี้ เช่นเป็นสัญชาตญาณของลำไส้ การขนาดช่าง Beane ทีมของพวกเขาและ DePodesta พบว่า ชุดต่าง ๆ ของวัด ได้แก่ เปอร์เซ็นต์ของเวลาการตีบนฐาน หรือบังคับเหยือกโยนสูงจำนวนสนาม ฝ่ายตรงข้ามคาดการณ์มากขึ้นของโอกาสของทีมที่ชนะเกม เพื่อ Beane ขอออกผู้เล่นราคาไม่แพงที่ตรงตามเงื่อนไขเหล่านี้ (รวมทั้งผู้ที่วาดมากมาย "เดิน") และได้ถูกมองข้าม หรือปฏิเสธ โดยทีมห้อง funded เขาไม่ดูแลถ้าผู้เล่นถูกภาวะ หรือดูเหมือนอดีตของนายก-เขาเน้นหมายเลขเท่านั้น Beane ได้ฟิลด์ทีมชนะอย่างต่อเนื่องโดยการวิเคราะห์ขั้นสูงเพื่อเจาะลึกของผู้เล่นแต่ละค่าและมีส่วนทำให้ประสบความสำเร็จทีมงานที่มีการมองข้ามทีมอื่น ๆ ยิ่งขึ้น Beane และวิธีของเขาขับเคลื่อนข้อมูลเบสบอลมีผลสั่นสะเทือนกับเกม หลังจาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Moneyball: ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเบสบอลใน 23 กันยายน 2011, ภาพยนตร์ Moneyball เปิดในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาที่นำแสดงโดยแบรดพิตต์บิลลี่ Beane ผู้จัดการทั่วไปลงรอยกันกรีฑา ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับหนังสือที่ขายดีที่สุดโดยไมเคิลลูอิสที่อธิบายเบสบอลวิธี Beane นำตกอับในฐานะที่เป็นหนึ่งของงบประมาณการทดสอบในเมเจอร์ลีกต่อไปที่จะชนะ 103 เกมในปี 2002 ภายใต้นาฬิกา Beane ของขณะที่ทำให้รอบตัดเชือกห้า ครั้งในฤดูกาลที่แปด ที่เปิดฤดูกาล 2002 เบสบอลทีมที่ร่ำรวยที่สุดคือนิวยอร์กกับเงินเดือน $ 126,000,000; โอ๊คแลนด์เป็นและแทมปาเบ​​ย์รังสีปีศาจแต่ละคนมีการจ้างงานของ $ 41,000,000 เป็นที่ยากจนที่สุดเหล่านี้หมายถึงว่ามีเพียงทีมที่ร่ำรวยสามารถซื้อผู้เล่นที่ดีที่สุดของทีมที่ไม่ดีเช่นเป็นเพียงสามารถซื้อสิ่งที่ "ทีมที่ดีกว่าปฏิเสธและทำให้ เกือบจะเป็นบางอย่างที่จะล้มเหลวนั่นคือจนกว่า Billy Beane และ Moneyball ป้อนภาพ. อย่างไร Beane ทำหรือไม่เขาเอามองใกล้ที่ข้อมูล. ธรรมดาภูมิปัญญาเบสบอล tained ว่าชื่อใหญ่สูงและมีส่วนผสมหลักสำหรับการชนะ. Beane และผู้ช่วยของเขาผู้จัดการทั่วไปพอล DePodesta ใช้การวิเคราะห์ทางสถิติขั้นสูงของผู้เล่นและเพื่อพิสูจน์ความผิดที่. เมตริกแลกเปลี่ยนในการทำนายผลขาดทุนจากการชนะและประสิทธิภาพของผู้เล่นเช่นค่าเฉลี่ยบอลวิ่งเข้ามาถี่ยิบและฐานขโมยเป็นร่องรอยของปีแรก ของทีมเบสบอลและสถิติที่มีอยู่ในเวลานั้น. เบสบอลแมวมองใช​​้ตัวชี้วัดเหล่านี้เป็นอย่างดีสัญชาตญาณลำไส้ของพวกเขาให้มีขนาดเพิ่มขึ้นความสามารถในทีมของพวกเขา Beane และ DePodesta พบว่าชุดที่แตกต่างกันของตัวชี้วัดคือร้อยละของเวลา ตีเป็นบนฐานของฝ่ายตรงข้ามหรือถูกบังคับเหยือกที่จะโยนจำนวนมากของสนามคือการคาดการณ์มากขึ้นของโอกาสของทีมผู้ชนะในเกมที่ ดังนั้น Beane หาผู้เล่นที่เหมาะสมที่จะพบกับเกณฑ์เหล่านี้ (รวมทั้งผู้ที่เข้ามาจำนวนมาก "เดิน") และได้รับการมองข้ามหรือปฏิเสธโดยทีมที่ได้รับการสนับสนุนอย่างดี เขาไม่ได้สนใจว่าเป็นผู้เล่นที่เป็นคนอ้วนหรือดูเหมือนที่ผ่านมาที่สำคัญของเขาที่เขาจะมุ่งเน้นเฉพาะในตัวเลข Beane ก็สามารถที่จะเป็นสนามทีมที่ชนะอย่างต่อเนื่องโดยใช้การวิเคราะห์ขั้นสูงที่จะได้รับข้อมูลเชิงลึกในค่าของผู้เล่นแต่ละคนและผลงานให้กับทีมงานที่ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นทีมอื่น ๆ ได้มองข้าม Beane และวิธีการที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลของเขาที่จะเบสบอลมีผลกระทบแผ่นดินไหวในเกม หลังจาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

moneyball : - เบสบอลที่กันยายน 23 , 2011 , moneyball เปิดภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ทั่วสหรัฐอเมริกา นำแสดงโดย แบรด พิตต์ และ บิลลี่ บิน ผู้จัดการ iconoclastic ของกรีฑา ภาพยนตร์ขึ้นอยู่กับหนังสือที่ขายดีโดยไมเคิลลูอิสที่อธิบาย เบสบอล วิธีบินนำเป็นเบี้ยล่าง กับหนึ่งในแบบทดสอบงบประมาณใน เมเจอร์ ลีก ต่อไปจะชนะ 103 เกมส์ 2002ภายใต้การบินของนาฬิกาที่ได้เพลย์ออฟห้าครั้งในแปดฤดูกาล ในการเปิดของ 2002 ฤดูกาลเบสบอล ทีมที่รวยที่สุดคือ นิวยอร์ก ด้วยค่าจ้าง $ 126 ล้าน ; โอ๊คแลนด์และแทมปาเบย์รังสีปีศาจแต่ละอีก $ 41 ล้าน เป็นคนจนเหล่านี้หมายถึงเท่านั้นที่ร่ำรวยสามารถซื้อผู้เล่นทีมที่ดีที่สุดทีมไม่ดี เช่น เป็นสามารถซื้อสิ่งที่ดีกว่า " ทีมปฏิเสธจึงถูกเกือบบางอย่างที่จะล้มเหลวจนกระทั่งบิลลี่บิน moneyball ป้อนและภาพ ทำไมบินมั้ย เขาใช้เวลาดูปิดที่ข้อมูล กีฬาเบสบอลแบบภูมิปัญญา tained ที่ชื่อใหญ่สูงและเป็นส่วนผสมหลักสำหรับการชนะบินและผู้ช่วยของเขาผู้จัดการพอล depodesta ใช้สถิติวิเคราะห์ขั้นสูงของผู้เล่นและเพื่อพิสูจน์ว่าผิด ออกวัดทำนายชนะขาดทุน และผู้เล่นประสิทธิภาพเช่น batting เฉลี่ยวิ่งเข้ามาถี่ยิบ และฐานขโมย มีร่องรอยของปีแรกของกีฬาเบสบอลและสถิติที่ใช้ได้ตลอดเวลาความสามารถพิเศษเบสบอลลูกเสือใช้ตัวชี้วัดเหล่านี้รวมทั้งของลำไส้สัญชาตญาณ ขนาดอัพความสามารถของทีมของพวกเขาและพบว่า บิน depodesta ชุดที่แตกต่างกันของตัวชี้วัด คือ ร้อยละของเวลาที่นักฆ่าอยู่บนฐานหรือบังคับให้ฝ่ายตรงข้ามเหยือกจะโยนตัวเลขสูงของแคมป์ มีการทำนายโอกาสของทีม ชนะเกมแล้วบินออกค้นหามากผู้เล่นที่ได้พบกับเกณฑ์เหล่านี้ ( รวมทั้งผู้ที่วาดจำนวนมากของ " เดิน " ) และได้รับการมองข้ามหรือปฏิเสธโดยได้รับการสนับสนุนด้วยทีม เขาไม่สนใจถ้าผู้เล่นถูกอ้วน หรือดูอดีตนายกเขาเน้นตัวเลขบินได้สนามอย่างต่อเนื่อง ทีมชนะเลิศ โดยใช้การวิเคราะห์ขั้นสูงที่จะได้รับข้อมูลเชิงลึกในคุณค่าและผลงานของผู้เล่นแต่ละทีม ความสำเร็จที่ทีมอื่น ๆ รวยได้มองข้าม บินและวิธีการของเขา - เบสบอลที่เกิดแผ่นดินไหวในเกม หลังจาก