4. DiscussionThis is the first repo

4. Discussion
This is the first report on the isolation of L. monocytogenes from
brewer's grains used for swine feed. This finding is important
because we were able to isolate this microorganism despite the
acidic conditions of the fermented substrate. Adaptation of
L. monocytogenes to acidic environments involves mechanisms that
maintain intracellular pH homeostasis by directing Hþ ions out of
the cell and by consumption of internal Hþ through decarboxylation
reactions, generation of ammonium ions, and macromolecule
repair by heat shock proteins (Ivy et al., 2012).
Currently, there is no available information on the isolation of
L. monocytogenes from brewer's grains. L. monocytogenes is pathogenic
to animals and humans and often contaminates food and
feed, leading to losses in pig production. L. monocytogenes also
represents an indirect risk to healthy people that consume
contaminated pork meat. In a related study, Belceil et al. (2003)
isolated L. monocytogenes in 6 (14%) samples of wet feedstuff for
swine production. This result differs from that found in the present
work. In addition, Oliveira et al. (2008a) found a higher incidence of
L. monocytogenes (15%) in silage samples from the north of Portugal
using microbiological methods. This substrate shares some similarities
with brewer's grains as both suffer fermentation processes
and are used for animal nutrition. However, the incidence of
L. monocytogenes found in this study is coincident with that presented
by Konosonoka et al. (2012), who obtained a percentage of
4.7 from silage samples destined for feeding pigs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4. สนทนาเป็นรายงานแรกเกี่ยวกับการแยกของ L. monocytogenes จากใช้สำหรับสุกรอาหารธัญพืชของ brewer ค้นหานี้เป็นสำคัญเนื่องจากเราไม่สามารถแยกจุลินทรีย์นี้แม้มีการสภาพของพื้นผิวหมักกรด ปรับตัวของL. monocytogenes จะเปรี้ยวสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับกลไกที่รักษาภาวะธำรงดุล intracellular pH โดยผู้กำกับ Hþ อ่อน ๆ ออกเซลล์ และการใช้ของ Hþ ภายในผ่าน decarboxylationปฏิกิริยา สร้างประจุแอมโมเนีย และ macromoleculeซ่อมแซม โดยโปรตีนไล่ความร้อน (ไอวี่ et al., 2012)ในปัจจุบัน มีข้อมูลแยกของไม่ว่างL. monocytogenes จากธัญพืชของ brewer L. monocytogenes จะ pathogenicสัตว์และมนุษย์ และมักจะ contaminates อาหาร และอาหาร นำไปสู่การขาดทุนในการผลิตสุกร L. monocytogenes ยังแสดงถึงความเสี่ยงทางอ้อมเป็นคนสุขภาพที่ใช้เนื้อหมูปนเปื้อน ในการศึกษาที่เกี่ยวข้อง Belceil และ al. (2003)แยก L. monocytogenes ใน (14%) ตัวอย่างที่ 6 ของเราเปียกสำหรับการผลิตสุกร ผลนี้แตกต่างจากที่พบในปัจจุบันทำงาน นอกจากนี้ Oliveira et al. (2008a) พบอุบัติการณ์ที่สูงขึ้นของL. monocytogenes (15%) ในตัวอย่างไซเลจต่อจากทางตอนเหนือของโปรตุเกสใช้วิธีทางจุลชีววิทยา พื้นผิวนี้ใช้ความคล้ายคลึงบางอย่างมีธัญพืชของ brewer เป็นทั้งกระบวนการหมักที่ต้องทนทุกข์ทรมานและใช้สำหรับอาหารสัตว์ อย่างไรก็ตาม อุบัติการณ์ของL. monocytogenes ที่พบในการศึกษานี้จะตรงกับที่นำเสนอโดย Konosonoka et al. (2012), ที่ได้เปอร์เซ็นต์ของ4.7 จากไซเลจต่อตัวอย่างที่กำหนดไว้สำหรับการให้อาหารสุกร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4.
การอภิปรายรายงานนี้เป็นรายงานครั้งแรกในการแยกL. monocytogenes
จากเมล็ดของเหล้าที่ใช้สำหรับอาหารสุกร การค้นพบนี้เป็นสิ่งสำคัญเพราะเราก็สามารถที่จะแยกจุลินทรีย์นี้แม้จะมีสภาพเป็นกรดของพื้นผิวหมัก การปรับตัวของแอล monocytogenes กับสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดที่เกี่ยวข้องกับกลไกที่รักษาสภาวะสมดุลค่าpH ในเซลล์โดยการกำกับไอออน HTH ออกจากเซลล์และจากการบริโภคของHTH ภายในผ่าน decarboxylation ปฏิกิริยาการสร้างแอมโมเนียมไอออนและโมเลกุลซ่อมแซมโดยร้อนโปรตีนช็อก (Ivy et al., 2012) ขณะนี้ไม่มีข้อมูลที่มีอยู่ในการแยกของแอล monocytogenes จากเมล็ดของเบียร์ L. monocytogenes คือทำให้เกิดโรคกับสัตว์และมนุษย์และมักจะปนเปื้อนกับอาหารและอาหารสัตว์ที่นำไปสู่การสูญเสียในการผลิตสุกร L. monocytogenes ยังแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงทางอ้อมเพื่อคนที่มีสุขภาพที่ใช้เนื้อหมูปนเปื้อน ในการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับ Belceil et al, (2003) ที่แยก monocytogenes ลิตร 6 (14%) ตัวอย่างวัตถุดิบอาหารสัตว์เปียกสำหรับการผลิตสุกร ผลที่ได้นี้แตกต่างจากที่พบในปัจจุบันการทำงาน นอกจากนี้ Oliveira et al, (2008a) พบอุบัติการณ์สูงขึ้นของแอล monocytogenes (15%) ในตัวอย่างหมักจากทางเหนือของโปรตุเกสโดยใช้วิธีการทางจุลชีววิทยา แบ่งปันพื้นผิวคล้ายคลึงกันบางอย่างกับธัญพืชของเบียร์ขณะที่ทั้งสองประสบกระบวนการหมักและมีการใช้อาหารสัตว์ แต่อุบัติการณ์ของแอล monocytogenes พบในการศึกษานี้จะตรงกันกับที่นำเสนอโดยKonosonoka et al, (2012) ที่ได้รับร้อยละของ4.7 จากตัวอย่างหมักชะตาสำหรับการให้อาหารหมู

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4 . การอภิปราย
นี่คือรายงานแรกที่แยกจาก L monocytogenes
นำเม็ด ที่ใช้เลี้ยงสุกร การค้นพบนี้เป็นสิ่งสำคัญ
เพราะเราสามารถแยกจุลินทรีย์นี้แม้จะ
มีสภาพเป็นกรดของหมักสาร การปรับตัวของสภาพแวดล้อมที่เป็นกรด monocytogenes
L
รักษา pH ภายในเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับกลไก homeostasis โดยผู้กำกับ H þไอออนออกจาก
เซลล์และการþ H ภายในผ่านปฏิกิริยาดีคาร์บอกซิเลชัน
, รุ่นของไอออนแอมโมเนียม และโมเลกุลโปรตีนช็อกความร้อน (
ซ่อมโดยไอวี่ et al . , 2012 ) .
ขณะนี้ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการแยก
L monocytogenes จากผลของธัญพืช ฉัน monocytogenes เป็นเชื้อโรค
สัตว์และมนุษย์และมักจะปนเปื้อนอาหารและ
อาหารที่นำไปสู่ความสูญเสียในการผลิตสุกร ฉัน monocytogenes ยัง
หมายถึงความเสี่ยงทางอ้อมเพื่อสุขภาพประชาชนที่บริโภค
เนื้อหมูปนเปื้อน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา belceil et al . ( 2003 )
. monocytogenes แยก 6 ( 14 % ) ตัวอย่างของอาหารสัตว์เปียก
การผลิตสุกร ผลที่แตกต่างจากที่พบในงานปัจจุบัน

นอกจากนี้ Oliveira et al . ( 2008a ) พบว่าอุบัติการณ์ที่สูงขึ้นของ
Lmonocytogenes ( 15% ) ในตัวอย่างอาหารสัตว์จากตอนเหนือของโปรตุเกส
โดยใช้วิธีทางจุลชีววิทยา . พื้นผิวนี้หุ้นบางส่วนคล้ายคลึงกับเบียร์
ธัญพืชทั้งประสบกระบวนการหมัก
และใช้สำหรับอาหารสัตว์ อย่างไรก็ตาม การเกิด
L monocytogenes ที่พบในการศึกษาครั้งนี้ คือ ประจวบกับที่นำเสนอ
โดย konosonoka et al . ( 2012 ) ที่ได้รับร้อยละของ
4จำนวน 7 จากหมัก destined สำหรับการให้อาหารสุกร