he use of charcoal as a soil amendm

he use of charcoal as a soil amendment is currently of great interest to sequester carbon and improve soil fertility, however, studies of sites where charcoal amendments to the soil have been made many years ago are lacking at the moment. In this study we investigated historical charcoal production sites in Germany that have not been in use for > 60 years, and evaluated the effects of the former charcoal inputs on soil and vegetation parameters relative to those of adjacent, unamended areas. Surface soil samples (0–5, 5–20 cm) were taken from five sites located on extremely acidic (Siegerland, pH 3.8–4.1) and base rich soils (Eifel, pH 4.8–5.3) in species poor (Luzulo-Fagetum) and species rich (Hordelymo-Fagetum) beech forests, respectively. We determined stocks of black carbon (BC) and natural soil organic carbon (SOC = total C minus BC) as well as of soil nutrient stocks (NO3-N, P, K, Mg), cation exchange capacity and water holding capacity, and we mapped plant composition to calculate richness and evenness. The results showed that historical charcoal production sites were enriched with BC and also exhibited increased stocks of natural SOC and total N possibly due to enhanced stabilization of natural SOC by the charcoal. The availability of nitrate-nitrogen, phosphate and potassium was increased when the charcoal was added to the base rich soils and less so when charcoal was added to the extremely acidic soils. Plant biodiversity was not different between the sites of historical charcoal addition and the reference sites. We conclude that charcoal additions may increase soil carbon storage capacity over prolonged periods of time without negatively affecting plant ecological interactions over the long term.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เขาใช้ถ่านเป็นแก้ไขดินในขณะนี้น่าสนใจดี sequester คาร์บอน และปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน อย่างไร ตามการศึกษาของอเมริกาที่ได้ทำแก้ไขดินถ่าน หลายปีที่ผ่านมาไม่มีในขณะนี้ ในการศึกษานี้ เราตรวจสอบประวัติศาสตร์ถ่านผลิตในเยอรมนีที่ไม่ได้ในใช้ > 60 ปี และประเมินผลกระทบของอินพุตถ่านเดิมในดินและพืชพรรณพารามิเตอร์เทียบที่พื้นที่ติดกัน unamended ตัวอย่างพื้นผิวดิน (0-5, 5 – 20 ซม.) ได้นำ 5 ไซต์ตั้งอยู่บนฐานรวยเป็นใจ (Eifel, pH 4.8 – 5.3) และเปรี้ยวมาก (Siegerland, pH 3.8 – 4.1) ในชนิดไม่ดี (Luzulo-Fagetum) และพันธุ์บีช (Hordelymo-Fagetum) อุดมไปด้วยป่า ตามลำดับ เราพบหุ้นของคาร์บอนสีดำ (BC) และคาร์บอนอินทรีย์ของดินธรรมชาติ (SOC = C รวมลบ BC) เป็นของหุ้นธาตุอาหารดิน (NO3-N, P, K, Mg), cation แลกเปลี่ยนกำลังการผลิตและถือความจุน้ำ และเราแมปองค์ประกอบพืชการคำนวณ evenness ร่ำรวย ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า ผลิตถ่านทางประวัติศาสตร์อุดมไป ด้วย BC และยัง จัดแสดงหุ้นที่เพิ่มขึ้นของ SOC ธรรมชาติและ N ทั้งหมดอาจเป็น เพราะการเพิ่มเสถียรภาพของ SOC ธรรมชาติ โดยถ่าน ความพร้อมของไนเตรตไนโตรเจน ฟอสเฟต และโพแทสเซียมขึ้น เมื่อถ่านถูกเพิ่มลงในดินเนื้อปูนรวยฐานน้อยกว่าดังนั้นเมื่อถ่านถูกเพิ่มลงในดินเนื้อปูนเปรี้ยวมาก ความหลากหลายทางชีวภาพของพืชแตกต่างกันระหว่างไซต์ของถ่านนี้ประวัติศาสตร์และแหล่งอ้างอิงไม่ได้ เราสรุปว่า เพิ่มถ่านอาจเพิ่มดินคาร์บอนเก็บระยะเวลานานโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการโต้ตอบระบบนิเวศของพืชในระยะยาว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เขาใช้ถ่านเป็นปรับปรุงดินในขณะนี้เป็นที่น่าสนใจที่ดีในการยึดทรัพย์คาร์บอนและปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน แต่การศึกษาของเว็บไซต์ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมถ่านให้กับดินได้รับการทำมาหลายปีแล้วจะขาดในขณะนี้ ในการศึกษานี้เราตรวจสอบสถานที่ผลิตถ่านประวัติศาสตร์ในเยอรมนีที่ยังไม่ได้รับในการใช้> 60 ปีและการประเมินผลกระทบของปัจจัยการผลิตถ่านอดีตกับพารามิเตอร์ของดินและพืชผักเมื่อเทียบกับผู้ที่อยู่ใกล้เคียงพื้นที่แปลงตรวจสอบ พื้นผิวตัวอย่างดิน (0-5, 5-20 ซม.) ถูกนำมาจากห้าเว็บไซต์ที่ตั้งอยู่บนความเป็นกรดมาก (Siegerland ค่า pH 3.8-4.1) และดินที่อุดมไปด้วยฐาน (ไอเฟล, ค่า pH 4.8-5.3) ในสายพันธุ์ที่ไม่ดี (Luzulo-Fagetum) และสายพันธุ์ที่อุดมไปด้วย (Hordelymo-Fagetum) ป่าบีชตามลำดับ เรามุ่งมั่นที่หุ้นของคาร์บอนสีดำ (BC) และดินธรรมชาติอินทรีย์คาร์บอน (SOC = C รวมหัก BC) เช่นเดียวกับหุ้นของดินธาตุอาหาร (NO3-N, P, K, Mg) ความจุแลกเปลี่ยนไอออนและอุ้มน้ำและ เราแมปองค์ประกอบพืชในการคำนวณความสมบูรณ์และสมดุล ผลการศึกษาพบว่าสถานที่ผลิตถ่านประวัติศาสตร์ถูกอุดมไปด้วยก่อนคริสตกาลและยังแสดงหุ้นที่เพิ่มขึ้นของ SOC ธรรมชาติและปริมาณไนโตรเจนทั้งหมดอาจจะเป็นเพราะมีเสถียรภาพที่เพิ่มขึ้นของ SOC ธรรมชาติโดยถ่าน ความพร้อมของไนเตรทไนโตรเจนฟอสเฟตและโพแทสเซียมเพิ่มขึ้นเมื่อถ่านถูกบันทึกอยู่ในดินที่อุดมไปด้วยฐานและน้อยดังนั้นเมื่อถ่านถูกบันทึกอยู่ในดินที่เป็นกรดมาก ความหลากหลายทางชีวภาพของพืชไม่แตกต่างกันระหว่างเว็บไซต์ของการเติมถ่านประวัติศาสตร์และสถานที่การอ้างอิง เราสรุปได้ว่าภาพถ่านอาจจะเพิ่มความจุของดินคาร์บอนมากกว่าช่วงเวลานานโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการมีปฏิสัมพันธ์ของระบบนิเวศของพืชในระยะยาว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เขาใช้ถ่านเป็นแก้ไขดินอยู่น่าสนใจมากที่จะโดดเดี่ยวคาร์บอนและปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน อย่างไรก็ตาม การศึกษาของเว็บไซต์ซึ่งถ่านแก้ไขดินได้ทําหลายปีแล้ว จะขาดในขณะนี้ ในการศึกษานี้เราศึกษาประวัติศาสตร์เยอรมนีในแหล่งผลิตถ่านที่ยังไม่ได้ใช้ > 60 ปีและทดสอบผลของอดีตถ่านดินและพารามิเตอร์ปัจจัยการผลิตพืชเมื่อเทียบกับที่ของพื้นที่ unamended ติดกัน . ตัวอย่างดิน ( 0 – 5 5 – 20 เซนติเมตร ) ถ่ายจากห้าเว็บไซต์ตั้งอยู่ที่แสนเปรี้ยว ( siegerland pH 3.8 ( 4.1 ) และดินที่อุดมไปด้วยฐาน ( ไอเฟล , pH 4.8 – 5.3 ) ชนิดไม่ดี ( luzulo fagetum ) และชนิดเข้มข้น ( hordelymo fagetum ) บีชป่า ตามลำดับเราพบหุ้นของคาร์บอนสีดำ ( BC ) และดินธรรมชาติอินทรีย์คาร์บอน ( ส = c ทั้งหมด ลบด้วย พ.ศ. ) รวมทั้งหุ้นธาตุดิน ( no3-n , P , K , Mg ) แลกเปลี่ยนประจุบวก และความสามารถในการ จับน้ำ และเราแมปองค์ประกอบพืชคำนวณความร่ำรวยและสมดุล .ผลการศึกษาพบว่า แหล่งผลิตถ่านประวัติศาสตร์มีอุดมไปด้วย BC และยังจัดแสดงเพิ่มขึ้นหุ้นสธรรมชาติและไนโตรเจนอาจเนื่องจากการปรับปรุงเสถียรภาพ สธรรมชาติ โดยถ่านของ ความพร้อมของไนเตรทไนโตรเจนฟอสเฟต และโพแทสเซียมเพิ่มขึ้นเมื่อถ่านที่ถูกเพิ่มเข้าไปในฐานที่อุดมไปด้วยดินและน้อยดังนั้นเมื่อถ่านถูกเพิ่มไปยังดินแสนเปรี้ยว ความหลากหลายทางชีวภาพของพืชไม่แตกต่างกันระหว่างเว็บไซต์นอกจากนี้ถ่าน ประวัติศาสตร์ และ อ้างอิงเว็บไซต์สรุปว่าเพิ่มถ่านอาจเพิ่มดินคาร์บอนความจุมากกว่าระยะเวลานานของเวลาโดยไม่ต้องลบที่มีผลต่อปฏิกิริยาทางนิเวศวิทยาของพืชในระยะยาว