Volcanoes have existed since the bi

Volcanoes have existed since the birth of the earth, and they have helped shape the continents as we know them. The word volcano is thought to have come from Roman mythology, specifically derived from Vulcan, the Roman god of fire who was thought to be Jupiter’s blacksmith and responsible for making arrows and shields. Vulcan also had a Greek equivalent, known as Hephaestus, whose name means “burning” or “flaming.” Volcanoes were featured in ancient poetry, where they are described as the blacksmith’s workshop. When a mountain erupted, the ancients thought it was caused by smoke escaping through the chimney of Vulcan’s workshop when he was at work.

But what are volcanoes, really? A volcano is an opening in the Earth’s surface which allows hot magma, volcanic ash and gases to escape from the magma chamber below the surface. Volcanic eruptions can cause destruction and consequent disaster in several different ways. One is the volcanic eruption itself, causing harm from the explosion of the volcano or the immediate fall of rock. Then there is lava - molten rock or liquid rock - that may be produced during the eruption of a volcano. As it leaves the volcano, the hot lava destroys any buildings and plants in its path. Third, there is volcanic ash, consisting of fragments of pulverized rock, minerals and volcanic glass, which may form a cloud and settle thickly in nearby locations. When volcanic ash is mixed with water it forms a concrete-like material, and in sufficient quantity, ash may cause roofs to collapse under its weight. Small quantities of volcanic ash will also harm humans if inhaled.

However, the main danger to humans in the immediate surroundings of a volcanic eruption is pyroclastic flows. These are currents of hot gas and rock which can reach speeds of up to 700 kmh (450 mph) and temperatures of about 1,000 °C (1,830 °F). It is believed that the Roman town of Pompeii near Naples was destroyed by a pyroclastic flow in the eruption of Mount Vesuvius in AD 79, and that heat was the main cause of death of people and not, as previously believed, the inhalation of ash.

One recent volcanic eruption causing chaos and disaster was the Puyehue-Cordón Caulle eruption in Chile in 2011. At least 3,500 people were evacuated from nearby areas, while the ash cloud was blown across cities all around the Southern hemisphere, creating travel chaos when airlines were forced to cancel hundreds of flights. Ash poses a threat to aircrafts because once sucked into engines, it can be transformed into molten glass by the high engine temperatures and can cause an engine to fail. Further, ski resorts in Argentina had to be closed, a nearby river was contaminated and its temperature rose to 45 °C (113 °F) and pastureland in Southern Argentina was destroyed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภูเขามีอยู่ตั้งแต่เกิดโลก และพวกเขาได้ช่วยให้รูปร่างทวีปเรารู้จักพวกเขา ภูเขาไฟคำเป็นความคิดที่มาจากเทพปกรณัมโรมัน โดยเฉพาะมาจากวูลแคน พระไฟโรมันที่ถูกคิดว่า เป็น ช่างตีเหล็กของดาวพฤหัสบดี และชอบทำให้ลูกศรและโล่ วูลแคนยังมีกรีกที่เทียบเท่ากัน เรียกว่าฮีเฟสตัส ที่มีชื่อหมายความ "เขียน" หรือ "เผางาน" ภูเขาถูกที่โดดเด่นในบทกวีโบราณ ที่พวกเขาไว้เป็นเชิงของช่างตีเหล็ก เมื่อเขาได้ระเบิด ฟดิแอนเชียนส์คิดว่า เรื่องที่เกิดจากควันหนีปล่องของ workshop ของวูลแคนขณะที่ทำงานแต่อะไรคือภูเขา จริง ๆ ภูเขาไฟเป็นการเปิดในพื้นผิวของโลกซึ่งทำให้หินหนืดร้อน เถ้าภูเขาไฟ และก๊าซหนีหอหินหนืดใต้ผิวหนัง ภูเขาไฟปะทุอาจทำให้เกิดการทำลายและความเสียหายตามมาในหลาย ๆ หนึ่งคือการภูเขาไฟระเบิดเอง ก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดของภูเขาไฟ หรือตกหินในทันที แล้ว มีลาวา -หินหลอมละลายหรือหินเหลว - ที่อาจจะผลิตในระหว่างการปะทุของภูเขาไฟ ขณะที่มันออกจากภูเขาไฟ ลาวาร้อนทำลายอาคารและต้นไม้ในเส้นทางของการ ที่สาม มีเถ้าภูเขาไฟ การประกอบชิ้นส่วนของหินคลุก แร่ธาตุ และ volcanic แก้ว ซึ่งอาจเป็นก้อนเมฆ และชำระเงินต้นในพื้นที่ใกล้เคียง เมื่อเถ้าภูเขาไฟผสมกับน้ำ แบบวัสดุเช่นคอนกรีต และในปริมาณที่เพียงพอ เถ้าอาจทำให้หลังคายุบภายใต้น้ำหนักของ เถ้าภูเขาไฟปริมาณเล็กน้อยจะยังเป็นอันตรายต่อมนุษย์ถ้าช่วยในการอย่างไรก็ตาม อันตรายหลักกับมนุษย์ในทันทีของปะทุภูเขาไฟเป็นกระแส pyroclastic นี่คือกระแสของก๊าซร้อนและหินซึ่งสามารถเข้าถึงความเร็วถึง 700 kmh (ความ) และอุณหภูมิประมาณ 1000 ° C (1,830 ° F) เชื่อว่า ที่โรมันเมืองของปอมเปอีใกล้เนเปิลส์ถูกทำลาย โดยการกระแส pyroclastic ในการปะทุของภูเขาไฟวิสุเวียสใน AD 79 และความร้อนเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตของผู้คน และไม่ เป็นเชื่อ กัน ดมของเถ้าหนึ่งล่าสุดภูเขาไฟปะทุก่อให้เกิดความวุ่นวายและความเสียหายถูกปะทุ Caulle Puyehue Cordón ในชิลีในปี 2554 อย่างน้อย 3500 คนถูกอพยพจากพื้นที่ใกล้เคียง ในขณะที่เมฆเถ้าถูกเป่าผ่านเมืองรอบ ๆ ซีกโลกใต้ สร้างความวุ่นวายเดินทางเมื่อสายการบินถูกบังคับให้ยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อย เถ้ามาสร้างเป็นภัยคุกคามต่อเครื่องบิน เพราะเมื่อดูดเข้าไปในเครื่องยนต์ สามารถเปลี่ยนเป็นแก้วหลอมเหลวตามอุณหภูมิเครื่องยนต์สูง และสามารถทำให้เครื่องยนต์ล้มเหลว เพิ่มเติม สกีรีสอร์ทในอาร์เจนตินาได้ปิด ใกล้เคียงแม่น้ำถูกปนเปื้อน และอุณหภูมิของกุหลาบถึง 45 ° C (113 ° F) และ pastureland ในภาคใต้ประเทศอาร์เจนตินาถูกทำลาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภูเขาไฟมีอยู่ตั้งแต่การกำเนิดของโลก และพวกเขาได้ช่วยให้รูปร่างของทวีปที่เรารู้ว่าพวกเขา คำว่าภูเขาไฟน่าจะมาจากตำนานโรมัน โดยเฉพาะมาจากวัลแคน โรมันเทพเจ้าแห่งไฟ ที่พบว่ามีดาวพฤหัสบดีเป็นช่างตีเหล็ก และรับผิดชอบการทำธนูและโล่ วัลแคนก็เทียบเท่ากรีกเรียกว่าเค้า , ,ที่มีชื่อแปลว่า " เผา " หรือ " เผา " ภูเขาไฟเป็นจุดเด่นในบทกวีโบราณที่พวกเขาจะอธิบายเป็นช่างตีเหล็ก workshop เมื่อภูเขาที่ปะทุขึ้น คนโบราณคิดว่ามันเกิดจากควันไฟหลบหนีผ่านทางปล่องไฟของวัลแคนการประชุมเมื่อเขาได้ทำงาน . . .

ว่าแต่ ภูเขาไฟ จริงเหรอ ? ภูเขาไฟเป็นเปิดในพื้นผิวของโลกซึ่งช่วยให้ร้อนหินเถ้าภูเขาไฟและก๊าซเพื่อหนีจากห้องหินหนืดใต้ผิว ภูเขาไฟปะทุทำให้เกิดหายนะจากภัยพิบัติและในหลายวิธีที่แตกต่างกัน หนึ่งคือภูเขาไฟระเบิดตัวเอง ก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดของภูเขาไฟหรือตกทันที ร็อค แล้ว มี ลาวาหินละลายหรือหิน - ของเหลวที่อาจจะผลิตในระหว่างการปะทุของภูเขาไฟเหมือนปล่อยภูเขาไฟ ลาวาร้อนทำลายอาคารใดและพืชในเส้นทางของมัน 3 มีขี้เถ้าภูเขาไฟประกอบด้วยชิ้นส่วนของหินแร่ภูเขาไฟบด , และกระจก ซึ่งอาจก่อให้เกิดเมฆหนาและตั้งถิ่นฐานในสถานที่ใกล้เคียง เมื่อเถ้าถ่านภูเขาไฟผสมกับน้ำมันเป็นคอนกรีต เช่น วัสดุ และในปริมาณที่เพียงพอเถ้าอาจทำให้หลังคายุบภายใต้น้ำหนักของ ปริมาณขนาดเล็กของเถ้าถ่านภูเขาไฟจะเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ถ้าสูดดม .

แต่อันตรายหลักของมนุษย์ในสภาพแวดล้อมได้ทันทีจากการปะทุของภูเขาไฟเป็นไพโรคลาสติก กระแส เหล่านี้คือกระแสของแก๊สร้อนและหินที่สามารถเข้าถึงด้วยความเร็วถึง 700 KMH ( 450 ไมล์ต่อชั่วโมง ) และอุณหภูมิประมาณ 1 , 000 ° C ( 1830 ° F )เชื่อกันว่า โรมัน เมืองปอมเปอีใกล้เนเปิลส์ถูกทำลายโดยการไพโรคลาสติกในการระเบิดของภูเขาไฟ Vesuvius ในค.ศ. 79 และความร้อนที่เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตของผู้คน และ ไม่ ขณะที่ก่อนหน้านี้เชื่อกันว่าการสูดเถ้า

หนึ่งล่าสุดของภูเขาไฟพูเยฮวยก่อให้เกิดความวุ่นวายและภัยพิบัติเป็นสายไฟ เลออง caulle ภูเขาไฟในชิลีในปี 2011 อย่างน้อย 3500 คน ที่อพยพจากพื้นที่ใกล้เคียง ขณะที่กลุ่มเมฆขี้เถ้าถูกพัดข้ามเมืองไปทั่วพื้นที่ภาคใต้ เพื่อสร้างความวุ่นวายเดินทางเมื่อสายการบินต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อย . เถ้าเป็นอันตรายต่อเครื่องบิน เพราะเมื่อดูดเข้าไปในเครื่องยนต์ มันสามารถเปลี่ยนเป็นแบบกระจกโดยอุณหภูมิเครื่องยนต์สูงและสามารถทำให้เครื่องยนต์ล้มเหลว เพิ่มเติมสกีรีสอร์ทในอาร์เจนตินาจะต้องปิด เป็นแม่น้ำที่ถูกปนเปื้อนและอุณหภูมิเพิ่มขึ้นถึง 45 ° C ( 113 ° F ) และออกกำลังกายในภาคใต้อาร์เจนตินา ถูกทำลาย