SABMiller recently launched Impala

SABMiller recently launched Impala lager as part of a new line they developed to empower and employ people in low-income regions of Africa. The video is part of their Farming Better Futures campaign, which describes how the SABMiller Impala lager offers sustainable support to local farmers. Through their initiative, SABMiller is hoping to give 1,500 subsistence farmers access to new markets.

The Impala beer is made using an ingredient local to Mozambique called cassava, which is a starchy root vegetable. While cassava can be used to brew quality beer, the root goes bad within 24 hours of harvesting, making it unsuitable for import, yet still ideal for fast consumption in the local market.

The idea first came from Gerry van den Houten, SABMiller's enterprise development director in order to lower production costs of the beer, and more significantly, to empower local farmers.

“We are very excited about it,” van den Houten told the Toronto Star. "Our reading of it is the economic impact will be large... you’re probably looking at average additional farming income of $1,000 per annum.”

He hopes that encouraging these cassava farmers will ultimately lead to other profit-making ventures for the farmers, such as selling cassava for use in paper products and for biofuel.

The above video offers a glimpse into the production process of SABMiller Impala beer, and talks about the holistic view big brands can adopt, and responsibility they can take, to make lasting positive change in the world.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

SABMiller ลาเกอร์อิมพาลาที่เปิดตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นส่วนหนึ่งของบรรทัดใหม่ จะพัฒนาอำนาจ และจ้างคนในภูมิภาคแอฟริกาแนซ์ วิดีโอเป็นส่วนหนึ่งของการเกษตรในอนาคตดีขึ้นส่งเสริมการขาย ซึ่งอธิบายว่า ลาเกอร์อิมพาลา SABMiller เสนออย่างยั่งยืนสนับสนุนให้เกษตรกรในท้องถิ่น โดยความคิดริเริ่มของพวกเขา SABMiller มีหวังให้ 1500 ชีพเกษตรกรเข้าไปยังตลาดใหม่ เบียร์อิมพาลาจะใช้ส่วนผสมในโมซัมบิกเรียกมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นผักรากฟูม ในขณะที่มันสำปะหลังสามารถใช้ชงเบียร์คุณภาพ รากไปเสียได้ภายใน 24 ชั่วโมงของการเก็บเกี่ยว การไม่เหมาะสมสำหรับการนำเข้า แต่ยังเหมาะสำหรับการใช้อย่างรวดเร็วในท้องตลาดความคิดแรกมาจากเจอร์รี่แวนเดน Houten ของ SABMiller กรรมการพัฒนาองค์กรการผลิตลดต้นทุนเบียร์ และมากขึ้นอย่างมีนัย สำคัญ ระเบียบเกษตรกรในท้องถิ่น "เราจะตื่นเต้นมากเกี่ยวกับมัน เดน van Houten บอกดาวกิลด์วู้ด "เราอ่านมันเป็นผลกระทบทางเศรษฐกิจจะมีขนาดใหญ่...คุณอาจจะกำลังทำฟาร์มเพิ่มเติมเฉลี่ยรายได้ $ 1000 ต่อปี" เขาหวังว่า ส่งเสริมเกษตรกรมันสำปะหลังเหล่านี้จะสุดทำกิจการทำกำไรอื่น ๆ สำหรับเกษตรกร จำหน่ายมันสำปะหลัง สำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์กระดาษ และเชื้อเพลิงชีวภาพวิดีโอด้านบนมีเหลือบลงในกระบวนการผลิตอิมพาลา SABMiller เบียร์ และเล่าถึงมุมมองแบบองค์รวมสามารถนำแบรนด์ใหญ่ และความรับผิดชอบที่จะได้รับ ต้องการเปลี่ยนแปลงยั่งยืนในโลก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

SABMILLER เมื่อเร็ว ๆนี้เปิดตัวอิมพาลาใหญ่เป็นส่วนหนึ่งของบรรทัดใหม่ที่พวกเขาพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย และจ้างในภูมิภาคแอฟริกา วีดีโอนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญของเกษตรดีขึ้นในอนาคต ซึ่งอธิบายถึงวิธีการ SABMILLER อิมพาลาเบียร์ให้การสนับสนุนอย่างยั่งยืนให้กับเกษตรกรในท้องถิ่น ผ่านความคิดริเริ่มของพวกเขา ซาบมิลเลอร์ หวังให้เกษตรกรยังชีพ 1500 การเข้าถึงตลาดใหม่

อิมพาลาเบียร์ที่ทำโดยใช้ส่วนประกอบท้องถิ่น โมซัมบิก เรียกว่า มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นพืชรากี้จะดีกว่า ขณะที่มันสำปะหลังสามารถใช้ชงเบียร์คุณภาพ รากไปไม่ดีภายใน 24 ชั่วโมงของการเก็บเกี่ยว ทำให้ไม่เหมาะสมต่อการนำเข้า แต่ยังเหมาะสำหรับการบริโภคได้อย่างรวดเร็วในตลาดท้องถิ่น .

ความคิดแรกที่มาจากเจอร์รี่ แวนเดนฮูเทน ,SABMILLER พัฒนาองค์กรผู้อำนวยการเพื่อลดต้นทุนการผลิตของเบียร์และมากขึ้นอย่างมาก เพื่อช่วยให้เกษตรกรท้องถิ่น

" เรารู้สึกตื่นเต้นมากเกี่ยวกับมัน " แวนเดนฮูเทนบอก โตรอนโต้ สตาร์ " การอ่านของเรามันคือผลกระทบทางเศรษฐกิจจะใหญ่ . . . . . . . คุณอาจกำลังมองหารายได้การเกษตรเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก $ 1 , 000 ต่อปี

"เขาหวังที่จะให้เกษตรกรมันสำปะหลังเหล่านี้ในที่สุดจะนำไปสู่กิจการทางการค้าอื่น ๆ สำหรับเกษตรกร เช่น การขายแป้งมันสำปะหลังเพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์กระดาษและเชื้อเพลิงชีวภาพ .

วิดีโอข้างต้นมีเหลือบในกระบวนการผลิตของซาบมิลเลอร์ อิมพาล่า เบียร์ และพูดคุยเกี่ยวกับแบรนด์ใหญ่สามารถใช้มุมมองแบบองค์รวม และความรับผิดชอบที่พวกเขาสามารถใช้ ,เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่ยั่งยืนที่สุดในโลก