theorem 7.5 is due to Herbret E. Ro

theorem 7.5 is due to Herbret E. Robbins (1915-2001). The paper in which this theorem appears, titled "A theorem on graphs, with an application to a problem of traffic control", was published in 1939 in the American Mathematical Monthly, only a year after he received his Ph.D. form Harvard University in topology, under the direction of Hassler Whitney. This was only Robbins's second publication of what was to become a long and impressive list. Also, in 1939 at age 24, Robbins began work on the classic book What Is Mathematics ? with Richard Courant. this book has been classified by Robbins as more of a literary work than a scientific work. A few years later robbins became interested in and devoted his research to statistical analysis, in which he made major contributions. He spent mamy year as a Professor of Mathematical Statistics at Columbia University. In 1958 he had a doctoral student, Herbert Wilf, who has made major contributions to combinatorics and graph theory. Indeed, Wilf was a recipient of an Euler Medal in 2002 from the Institute of Combinatorics and Its Applications

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีบท 7.5 เนื่องจาก herbret อี ร็อบบินส์ (1915-2001) กระดาษที่ทฤษฎีบทนี้จะปรากฏหัวข้อ "ทฤษฎีบทในกราฟที่มีการประยุกต์ใช้กับปัญหาของการควบคุมการจราจร" ได้รับการตีพิมพ์ในปี 1939 ในอเมริกันคณิตศาสตร์รายเดือนเพียงหนึ่งปีหลังจากที่เขาได้รับปริญญาเอกของเขา ในรูปแบบของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ในโครงสร้างภายใต้การดูแลของ Hassler วิทนีย์นี้คือสิ่งพิมพ์สองเท่านั้นร็อบบินส์ของสิ่งที่กำลังจะกลายเป็นรายการที่ยาวนานและน่าประทับใจ นอกจากนี้ยังมีในปี 1939 ตอนอายุ 24 ร็อบบินส์เริ่มทำงานในหนังสือคลาสสิกสิ่งที่เป็นคณิตศาสตร์? ริชาร์ดคูรันต์ หนังสือเล่มนี้ได้รับการจัดโดยร็อบบินส์เป็นมากกว่างานวรรณกรรมกว่างานทางวิทยาศาสตร์ ไม่กี่ปีต่อมาร็อบบินส์เริ่มให้ความสนใจและทุ่มเทการวิจัยของเขาในการวิเคราะห์ทางสถิติซึ่งเขาได้มีส่วนร่วมที่สำคัญ เขาใช้เวลาหนึ่งปี Mamy เป็นอาจารย์ของสถ​​ิติคณิตศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในปี 1958 เขามีนักศึกษาปริญญาเอกเฮอร์เบิร์วิลฟ์ที่ได้ทำผลงานที่สำคัญในการ combinatorics และทฤษฎีกราฟ แน่นอน, วิลฟ์เป็นผู้รับของเหรียญออยเลอร์ในปี 2002 จากสถาบัน combinatorics และการประยุกต์ใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป็นทฤษฎีบทที่ 7.5 จากร็อบบินส์ E. Herbret (1915-2001) กระดาษที่ทฤษฎีบทนี้ปรากฏชื่อว่า "ทฤษฎีบทบนกราฟ กับแอพลิเคชันปัญหาการควบคุมการจราจร" ถูกตีพิมพ์ในปีพ.ศ. 2482 ในแบบอเมริกันคณิตศาสตร์เดือน เพียงหนึ่งปีหลังจากที่เขาได้รับปริญญาเอกของเขาแบบมหาวิทยาลัยในโทโพโลยี ภายใต้ทิศทางของวิทนีย์ Hassler นี้เป็นเพียงของร็อบบินส์สองพิมพ์ของสิ่งที่จะกลายเป็น รายการยาวนาน และน่าประทับใจ ยัง ในปีพ.ศ. 2482 ที่อายุ 24 ร็อบบินส์เริ่มทำงานในหนังสือคลาสสิกอะไรคือคณิตศาสตร์หรือไม่ กับริชาร์ด Courant หนังสือเล่มนี้ได้ถูกจัด โดยร็อบบินส์เป็นวรรณกรรมกว่างานวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม ไม่กี่ปีหลังร็อบบินส์กลายเป็นความสนใจ และทุ่มเทงานวิจัยของเขาเพื่อการวิเคราะห์ทางสถิติ ซึ่งเขาทำผลงานสำคัญ เขาใช้ mamy ปีเป็นเป็นศาสตราจารย์ทางคณิตศาสตร์สถิติที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ใน 1958 เขาเรียนเอก เฮอร์เบิร์ต Wilf ที่ทำการจัดสรรหลักการทฤษฎีกราฟและคณิตศาสตร์เชิงการจัด จริง ๆ Wilf ได้รับเหรียญออยเลอร์ใน 2002 จากสถาบันคณิตศาสตร์เชิงการจัดและใช้งานเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทพิสูจน์ 7.5 เป็นผลมาจากการ herbret e . Silom ( 1915-2001 ) กระดาษที่บทพิสูจน์แห่งนี้จะปรากฏขึ้นมีชื่อว่า"บทพิสูจน์ที่กราฟกับแอปพลิเคชันให้กับปัญหาที่มีการควบคุมการจราจร"ได้รับการตีพิมพ์ในปี 1939 ในทุกเดือนทางคณิตศาสตร์ชาวอเมริกันเท่านั้นซึ่งในปีนี้หลังจากที่เขาได้รับจากผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดในโทโพโลยีตามทิศทางของ hassler Whitneyโรงแรมแห่งนี้เป็นเพียงการประกาศที่สองของ Silom ของจะกลายเป็นรายการมานานและที่น่าประทับใจ นอกจากนั้นยังอยู่ในปี 1939 เมื่ออายุ 24 Silom เริ่มทำงานในหนังสือแบบคลาสสิคที่ว่าคือคณิตศาสตร์ พูดถึงทุกสิ่งอย่างกับริชาร์ด.หนังสือเล่มนี้ได้รับการจำแนกโดย Silom เป็นมากกว่าของงานวรรณกรรมที่ทำงานทางด้านวิทยาศาสตร์ที่มากกว่า ไม่กี่ปีต่อมา Silom กลายเป็นมีส่วนได้เสียในและอุทิศวิจัยของเขาเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติในซึ่งเขาได้สร้างงานเขียนที่สำคัญ เขาได้ใช้เวลาปี mamy เป็นศาสตราจารย์ของสาขาวิชาสถิติที่โคลัมเบีย ในปี 1958 เขามีนักศึกษาระดับปริญญาเอกที่ Herbert wilf ที่ได้ให้การช่วยเหลือที่สำคัญกับทฤษฎีกราฟและ combinatorics จริงๆแล้ว wilf เป็นผู้รับของค่าคงที่ของออยเลอร์คว้าเหรียญทองในปี 2002 จากสถาบัน combinatorics และแอปพลิเคชัน