1874, Eastman became intrigued with

1874, Eastman became intrigued with photography, but found the process awkward. It required coating a glass plate with a liquid emulsion, which had to be quickly used before it dried. After three years of experimentation with British gelatin emulsions, Eastman developed a dry photographic plate, and patented it in both England and the US. In 1880 he began a photographic business.
In 1884, Eastman patented a photographic medium that replaced fragile glass plates with a photo-emulsion coated on paper rolls. The invention of roll film greatly sped up the process of recording multiple images
Eastman then received a patent in 1888 for a camera designed to use roll film. He coined the marketing phrase, "You press the button, we do the rest."[3] The phrase entered the public consciousness. It was even incorporated into a Gilbert & Sullivan operetta (Utopia, Limited).
The camera owner could send in the camera with a processing fee of $10. The company would develop the film, print 100 pictures, and also send along a new roll of 100-exposures film.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1874 อีสต์แมนกลายเป็นรู้สึกทึ่งกับการถ่ายภาพ แต่พบกระบวนการอึดอัดใจ มันต้องเคลือบจานแก้วที่มีอิมัลชันเป็นของเหลว ซึ่งจะสามารถใช้ได้อย่างรวดเร็วก่อนมันแห้ง หลังจากที่ทดลองกับอิมัลชันเจลาตินอังกฤษสามปี อีสต์แมนพัฒนาแผ่นถ่ายภาพแห้ง และจดสิทธิบัตรในอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ในปี 1880 เขาเริ่มธุรกิจถ่ายภาพ ใน 1884 อีสต์แมนจดสิทธิบัตรกลางถ่ายภาพที่แทนที่แผ่นแก้วที่เปราะบาง ด้วยภาพอิมัลชันเคลือบม้วนกระดาษ ประดิษฐ์ฟิล์มม้วนมากเร่งขั้นตอนการบันทึกภาพหลายภาพ อีสต์แมนได้รับจดสิทธิบัตรแล้วในกล้องออกแบบให้ใช้ฟิล์มม้วน เขาบัญญัติวลีการตลาด "กดปุ่ม เราทำส่วนเหลือ" [3] วลีใส่จิตสำนึกของประชาชน นอกจากนี้มันแม้ถูก incorporated Gilbert & ซัลลิแวนละคร (ยูโทเปีย จำกัด) เจ้าของกล้องสามารถส่งในกล้องมีการประมวลผลค่าธรรมเนียม $10 บริษัทฯ จะพัฒนาฟิล์ม พิมพ์รูปภาพ 100 และยัง ส่งไปฉายแสง 100 ฟิล์มม้วนใหม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1874 อีสต์แมนกลายทึ่งกับการถ่ายภาพ แต่ก็พบว่ากระบวนการที่น่าอึดอัดใจ มันจำเป็นต้องมีการเคลือบแผ่นกระจกที่มีอิมัลชันของเหลวซึ่งจะถูกนำมาใช้อย่างรวดเร็วก่อนที่มันจะแห้ง หลังจากสามปีของการทดลองกับเจลาตินอีมัลชั่อังกฤษอีสต์แมนพัฒนาแผ่นถ่ายรูปแห้งและจดสิทธิบัตรทั้งในอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ในปี 1880 เขาเริ่มธุรกิจการถ่ายภาพ.
ในปี 1884 อีสต์แมนจดสิทธิบัตรเป็นสื่อการถ่ายภาพที่เข้ามาแทนที่จานแก้วที่เปราะบางกับภาพอิมัลชันเคลือบบนกระดาษม้วน การประดิษฐ์ของม้วนฟิล์มมากเร่งกระบวนการของการบันทึกภาพหลายภาพ
อีสต์แมนจากนั้นได้รับสิทธิบัตรในปี 1888 สำหรับกล้องที่ออกแบบมาเพื่อใช้ม้วนฟิล์ม เขาเป็นคนบัญญัติวลีการตลาด "คุณกดปุ่มที่เราทำส่วนที่เหลือ." [3] วลีที่เข้ามาในจิตสำนึกของประชาชน มันได้รับการจัดตั้งขึ้นแม้เป็นกิลเบิร์ & Sullivan ละคร (สุขารมณ์ จำกัด ).
เจ้าของกล้องสามารถส่งในกล้องมีค่าธรรมเนียมในการดำเนิน $ 10 บริษัท จะพัฒนาฟิล์มพิมพ์ 100 ภาพและยังส่งพร้อมม้วนใหม่ของภาพยนตร์เรื่อง 100 ความเสี่ยง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1874 , อีสต์แมนกลายเป็น intrigued กับการถ่ายภาพ แต่พบว่ากระบวนการที่กระอักกระอ่วน มันต้องใช้แผ่นแก้วเคลือบด้วยอิมัลชันของเหลว ซึ่งต้องรีบใช้ก่อนมันแห้ง หลังจากสามปีของการทดลองกับอิมัลชันเจลาตินอังกฤษ , Eastman พัฒนาบริการถ่ายภาพจาน และจดสิทธิบัตรแล้วทั้งในอังกฤษและอเมริกา ใน 1880 เขาเริ่มธุรกิจถ่ายภาพในปี 1884 Eastman , สิทธิบัตรกลางแทนที่แผ่นแก้วเปราะบางกับภาพถ่ายที่ถ่ายอิมัลชันที่เคลือบบนม้วนกระดาษ การประดิษฐ์ของฟิล์มม้วนอย่างมากเร่งกระบวนการของการบันทึกภาพหลาย ๆอีสท์แมนแล้วได้รับสิทธิบัตรใน 1888 เป็นกล้องที่ออกแบบมาเพื่อใช้ฟิล์มม้วน เขา coined วลีการตลาด " คุณกดปุ่ม เราทำส่วนที่เหลือ . " [ 3 ] วลีเข้าจิตสาธารณะ มันถูกรวมยังเป็น กิลเบิร์ต แอนด์ ซัลลิแวน ละครเพลง ( ยูโทเปีย จำกัด )เจ้าของกล้องจะได้ส่งกล้องที่มีการประมวลผลค่าของ $ 10 บริษัทจะพัฒนาฟิล์ม พิมพ์ 100 รูป และส่งพร้อมม้วนใหม่ของฟิล์ม 100 ด้าน