Amazingly, everyone in Junko's grou

Amazingly, everyone in Junko's group survived the avalanche. She hurt het legs and back pretty badly, but she wanted to continue the climb. Two days later, Junko was ready to walk again, and she slowly and carefully led the group up to mountain. When she was climbing, she sometimes felt terrible pain in her back. During these times of extreme pain, she crawled.
Almost two weeks later, Junko crawled on her hands and knees onto a small, flat place on the top of the mountain. She say it was the size of a tatami mat, a teaditional Jampanese floor mat. This tiny piece of land was the summit of Mount Everest, and on May 16, 1975, Junko became the first women in the world to reach it

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

น่าแปลกใจทุกคนในกลุ่มของจุนโกะรอดชีวิตจากหิมะถล่ม เธอเจ็บขา Het และกลับมาสวยดี แต่เธอต้องการที่จะดำเนินการปีนเขา สองวันต่อมาจุนโกะก็พร้อมที่จะเดินได้อีกครั้งและเธออย่างช้าๆและระมัดระวังนำกลุ่มขึ้นไปยังภูเขา เมื่อเธอกำลังปีนขึ้นบางครั้งเธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างสาหัสในด้านหลังของเธอ ในช่วงเวลานี้ของความเจ็บปวดที่เธอรวบรวมข้อมูล.
เกือบสองสัปดาห์ต่อมาจุนโกะรวบรวมข้อมูลในมือและหัวเข่าของเธอลงบนขนาดเล็กแบนสถานที่ด้านบนของภูเขา เธอบอกว่ามันเป็นขนาดของเสื่อทาทามิที่แผ่นพื้น Jampanese teaditional ชิ้นนี้เล็ก ๆ ของที่ดินเป็นยอดเขาเอเวอร์เรสและวันที่ 16 พฤษภาคม 1975 จุนโกะกลายเป็นผู้หญิงคนแรกในโลกที่จะเข้าถึงมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

น่าแปลกที่ทุกคนในกลุ่ม จุนโกะรอดจากหิมะถล่ม นี่เธอเจ็บขาและหลังสวยมาก แต่เธอต้องการที่จะยังคงปีนขึ้นไป สองวันต่อมา จุงโกะพร้อมที่จะเดินอีกครั้ง เธออย่างช้าๆและระมัดระวัง นำกลุ่มขึ้นภูเขา เมื่อเธอปีนเขา เธอ บางครั้งก็รู้สึกเจ็บปวดมากในเธอกลับไป ในระหว่างเวลาเหล่านี้ของอาการปวดที่รุนแรงเธอคลาน .
เกือบสองสัปดาห์ต่อมาจุนโกะ คลานบนมือและเข่าของเธอลงเล็กน้อย วางราบบนยอดเขา เธอพูดว่ามันเป็นขนาดของเสื่อตาตามิ เป็น teaditional jampanese พื้นพรม ชิ้นนี้เล็ก ๆของที่ดินเป็นสุดยอดของยอดเขาเอเวอเรสต์ และ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2518 จุนโกะก็กลายเป็นผู้หญิงที่แรกในโลกที่จะเข้าถึงมัน