From our screening of 5 plants incl

From our screening of 5 plants including Nelumbo nuciferaGaertn., Cyperus alternifolius L., Nymphaea sp., Nymphaea pubescens Willd and Typha angustifolla L. for phosphorus removal from domestic wastewater, N. nucifera Gaertn., C. alternifolius L. were found to be the best in phosphorus removal. Therefore, these two plants were selected for further study. In addition, N. nucifera grows well in swamp or pond, and uptakes high amount of water while growing. C. alternifolius tolerates to un-favorable condition and easy propagation. The two plants have good characteristic for use in remediation system.

Under wetland system, soil and local microorganisms affect removal potential. Microorganisms can also enhance in the phytoremediation system. These microbes can be contaminant degraders and/or can promote plant growth under stress conditions (Gerhardt et al., 2009). DGGE, a culture-independent genetic fingerprinting technique, is a faster method for describing microbial community structure and diversity in environmental samples, either at a gross taxonomic level or at a more refined, e.g. genus level (de Oliveira et al., 2006). The major advantage of this technique is that it allows the direct determination of microbial genetic diversity. However, this does not exclude the latter techniques from identifying the key microorganisms (Rombaut et al., 2001).

This study focuses on the potential of wetland system using N. nucifera Gaertn. and C. alternifolius L. for phosphorus removal. The relationships among plants, microorganisms, and soil adsorption to phosphorus in the systems were also studied. In addition, microorganism communities in wetland systems were investigated to understand the relationship of microorganism communities and the plant system.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จากเราคัดกรอง 5 โรงรวมทั้งบัว nuciferaGaertn. กกรังกา L., sp.บัวสาย บัวสาย pubescens Willd และถ่านธูป angustifolla L. สำหรับการกำจัดฟอสฟอรัสจากน้ำเสีย N. nucifera Gaertn. รังกา C. L. พบจะ สูงสุดในการกำจัดฟอสฟอรัส ดังนั้น พืชสองเหล่านี้ถูกเลือกเพื่อการศึกษา นอกจากนี้ N. nucifera เติบโตดีในบึง หรือบ่อ uptakes และจำนวนเงินที่สูงของน้ำในขณะที่การเจริญเติบโต C. รังกาทนเงื่อนไขที่ไม่ดีและง่ายต่อการเผยแพร่ พืชสองมีลักษณะที่ดีสำหรับการใช้งานในด้านระบบภายใต้ระบบพื้นที่ชุ่มน้ำ ดินและจุลินทรีย์ท้องถิ่นมีผลต่อการกำจัด ยังสามารถเพิ่มจุลินทรีย์ในระบบ phytoremediation จุลินทรีย์เหล่านี้สามารถเป็นสิ่งปลอมปน degraders และสามารถส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชภายใต้สภาวะความเครียด (Gerhardt et al. 2009) DGGE มีวัฒนธรรมขึ้นอยู่กับพันธุกรรมเทคนิค ลายพิมพ์เป็นวิธีที่รวดเร็วสำหรับการอธิบายโครงสร้างชุมชนจุลินทรีย์ และปรับปรุงความหลากหลายในตัวอย่างสิ่งแวดล้อม อนุกรมวิธานระดับขั้นต้นหรือ ที่มากขึ้น เช่นสกุลระดับ (de Oliveira et al. 2006) ประโยชน์ที่สำคัญของเทคนิคนี้คือ มันช่วยให้การกำหนดโดยตรงของจุลินทรีย์พันธุ อย่างไรก็ตาม นี้ไม่แยกเทคนิคหลังจากระบุจุลินทรีย์สำคัญ (Rombaut et al. 2001)การศึกษานี้มุ่งเน้นศักยภาพของระบบพื้นที่ชุ่มน้ำโดยใช้ N. nucifera Gaertn และ C. รังกา L. สำหรับการกำจัดฟอสฟอรัส นอกจากนี้ยังมีศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพืช จุลินทรีย์ และการดูดซับของดินกับฟอสฟอรัสในระบบการ นอกจากนี้ ชุมชนจุลินทรีย์ในระบบพื้นที่ชุ่มน้ำถูกตรวจสอบเพื่อทำความเข้าใจความสัมพันธ์ของชุมชนจุลินทรีย์และระบบโรงงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากการตรวจคัดกรอง 5 พืชรวมทั้งบัว nuciferaGaertn ของเรา. กกรังกาลิตร Nymphaea sp. Nymphaea pubescens เทพาและธูปฤาษี angustifolla ลิตรสำหรับการกำจัดฟอสฟอรัสในน้ำเสียในประเทศ N. nucifera Gaertn. ซี alternifolius ลิตรพบว่ามี ที่ดีที่สุดในการกำจัดฟอสฟอรัส ดังนั้นพืชทั้งสองชนิดได้รับการคัดเลือกในการศึกษาต่อ นอกจากนี้เอ็น nucifera เจริญเติบโตได้ดีในป่าพรุหรือบ่อและจำนวนเงินที่สูงดูดซึมของน้ำในขณะที่การเจริญเติบโต ซี alternifolius ทนกับสภาพยกเลิกดีและขยายพันธุ์ได้ง่าย โรงงานทั้งสองมีลักษณะที่ดีสำหรับการใช้งานในระบบการฟื้นฟู.

ภายใต้ระบบพื้นที่ชุ่มน้ำดินและจุลินทรีย์ท้องถิ่นส่งผลกระทบต่อศักยภาพการกำจัด จุลินทรีย์ยังสามารถเพิ่มในระบบบำบัด จุลินทรีย์เหล่านี้จะสามารถ degraders สารปนเปื้อนและ / หรือสามารถส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชภายใต้สภาวะความเครียด (Gerhardt et al., 2009) DGGE เทคนิคการพิมพ์ลายนิ้วมือทางพันธุกรรมวัฒนธรรมอิสระเป็นวิธีที่เร็วขึ้นสำหรับการอธิบายโครงสร้างกลุ่มจุลินทรีย์และความหลากหลายในตัวอย่างสิ่งแวดล้อมทั้งในระดับการจัดหมวดหมู่ขั้นต้นหรือที่กลั่นมากขึ้นเช่นระดับสกุล (de Oliveira et al., 2006) ประโยชน์ที่สำคัญของเทคนิคนี้คือการช่วยให้การกำหนดโดยตรงของความหลากหลายทางพันธุกรรมของเชื้อจุลินทรีย์ แต่นี้ไม่รวมเทคนิคหลังจากการระบุเชื้อจุลินทรีย์ที่สำคัญ (Rombaut et al., 2001).

การศึกษาครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่ศักยภาพของระบบพื้นที่ชุ่มน้ำโดยใช้ N. nucifera Gaertn และ C alternifolius ลิตรสำหรับการกำจัดฟอสฟอรัส ความสัมพันธ์ระหว่างพืชจุลินทรีย์และการดูดซับดินฟอสฟอรัสในระบบนอกจากนี้ยังมีการศึกษา นอกจากนี้ชุมชนจุลินทรีย์ในระบบพื้นที่ชุ่มน้ำที่ได้รับการตรวจสอบเพื่อให้เข้าใจความสัมพันธ์ของชุมชนจุลินทรีย์และระบบพืช

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากการคัดกรองของเรา 5 พืช ได้แก่ บัวหลวง nuciferagaertn . ซิดิลลาล. บัวสาย sp . , บัว pubescens และแห้ง angustifolla ลิตรและธาตุฟอสฟอรัสในน้ำทิ้งชุมชน , เอ็นที่มีต่อหัวใจ . . . . alternifolius ลิตรพบว่ามีที่ดีที่สุดในการกำจัดฟอสฟอรัส ดังนั้น เหล่านี้สองพืชที่ถูกเลือกสำหรับการศึกษาต่อไป นอกจากนี้ บัวหลวงเติบโตได้ดีในบึงหรือบ่อให้สูงและปริมาณน้ำขณะเติบโต C . alternifolius สหประชาชาติยอมรับสภาพดีและขยายพันธุ์ง่าย พืชทั้งสองมีลักษณะสำหรับใช้ในระบบการฟื้นฟูภายใต้ระบบระบบดินและจุลินทรีย์ท้องถิ่นที่ส่งผลต่อศักยภาพการกำจัด จุลินทรีย์สามารถเพิ่มในระบบบําบัด . จุลินทรีย์เหล่านี้สามารถความสามารถในการย่อยสลายสารปนเปื้อนและ / หรือสามารถส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชภายใต้สภาวะความเครียด ( เกอฮาร์ต et al . , 2009 ) การทดลองทางพันธุกรรม , วัฒนธรรมอิสระเทคนิคลายพิมพ์เป็นวิธีที่เร็วเพื่ออธิบายโครงสร้างและความหลากหลายของชุมชนจุลินทรีย์ในตัวอย่างสิ่งแวดล้อมทั้งในระดับเบื้องต้นและหรือที่กลั่นมากขึ้น เช่น สกุลระดับ ( de Oliveira et al . , 2006 ) ประโยชน์หลักของเทคนิคนี้ก็คือว่ามันช่วยให้กำหนดโดยตรงของความหลากหลายทางพันธุกรรมของจุลินทรีย์ อย่างไรก็ตาม , นี้ไม่ได้รวมเทคนิคหลังจากการระบุเชื้อจุลินทรีย์ที่สำคัญ ( rombaut et al . , 2001 )การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาศักยภาพของระบบบึงประดิษฐ์โดยใช้ บัวหลวงต่อหัวใจ . และ C alternifolius . การกำจัดฟอสฟอรัส ความสัมพันธ์ระหว่างพืช จุลินทรีย์ และดินดูดซับฟอสฟอรัสในระบบปรีดี นอกจากนี้ ชุมชนจุลินทรีย์ในระบบพื้นที่ชุ่มน้ำศึกษาให้เข้าใจความสัมพันธ์ของชุมชนจุลินทรีย์และพืช