TOT and Advanced Info Service (AIS)

TOT and Advanced Info Service (AIS) are expected to sign a memorandum of understanding this month on a partnership to offer third-generation cellular service on the state agency's 2.1-gigahertz spectrum, TOT president Montchai Noosong said.
There are three related contracts under the partnership deal, comprising the MoU, a six-month initial contract, and the official contract. The period of the official contract will end in 2025. They will sign the MoU first.
Montchai said the Office of the Attorney-General recently asked TOT to clarify whether the contract should proceed according to the Public Private Joint Venture Act. He said TOT believed the contract would follow the existing partnership model between CAT Telecom and True Corp to offer 3G on the 850-megahertz spectrum jointly. Therefore, there is no need to proceed according to the Public Private Joint Venture Act.
According to the deal, TOT is expected to net around Bt3.9 billion per year from the wholesaling and resale of 2.1GHz bandwidth. AIS will install a 3G-2.1GHz network for TOT, which will lease 80 per cent of total capacity to AIS and the remaining 20 per cent to other telecom operators

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทีโอทีและบริการข้อมูลขั้นสูง (AIS) จะต้องลงนามในบันทึกความเข้าใจเดือนนี้ในการให้บริการโทรศัพท์มือถือรุ่นที่สามบนคลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ของหน่วยงานรัฐ Montchai Noosong กรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอทีกล่าวว่า มี 3 สัญญาที่เกี่ยวข้องภายใต้การจัดการห้างหุ้นส่วน MoU สัญญาหกเดือนเริ่มต้น และสัญญาอย่างเป็นทางการ ระยะเวลาของสัญญาอย่างเป็นทางจะสิ้นสุดใน 2025 พวกเขาจะลง MoU ก่อน Montchai กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้สำนักงานอัยการที่ถามทีโอทีชี้แจงว่าสัญญาดำเนินการตามพระราชบัญญัติร่วมทุนส่วนกลาง เขากล่าวว่า ทีโอทีเชื่อว่า สัญญาต้องทำตามแบบร่วมมือที่มีอยู่ระหว่างกสทและ ทรูเสนอ 3G บนคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิรตซ์ร่วม ดังนั้น มีไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติร่วมทุนส่วนกลาง ตามข้อตกลง ทีโอทีเป็นพันล้านคาดการที Bt3.9 ต่อปีจากการขายส่งและขายต่อแบนด์วิดท์ 2.1 GHz เอไอเอสจะติดตั้ง 3G-2.1 GHz เครือข่าย TOT ซึ่งจะเช่า 80% ของกำลังการผลิตรวมเอไอเอสและร้อยละ 20 ที่เหลือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทีโอทีและการบริการ บริษัท แอดวานซ์อินโฟ (เอไอเอส) ที่คาดว่าจะลงนามในบันทึกความเข้าใจในเดือนนี้ในความร่วมมือที่จะนำเสนอรุ่นที่สามบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์หน่วยงานของรัฐของทีโอทีประธานมนต์ชัย Noosong กล่าว.
มีสามสัญญาที่เกี่ยวข้องภายใต้การเป็น ข้อตกลงความร่วมมือประกอบด้วยบันทึกข้อตกลงหกเดือนสัญญาเริ่มต้นและการทำสัญญาอย่างเป็นทางการ ระยะเวลาของสัญญาอย่างเป็นทางการจะสิ้นสุดในปี 2025 พวกเขาจะลงนามในบันทึกความเข้าใจครั้งแรก.
มนต์ชัยกล่าวว่าสำนักงานอัยการสูงสุดเพิ่งถามทีโอทีที่จะชี้แจงว่าสัญญาควรดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ บริษัท มหาชนเอกชนร่วมทุน เขากล่าวว่าทีโอทีเชื่อว่าสัญญาจะทำตามรูปแบบความร่วมมือที่มีอยู่ระหว่างกสทโทรคมนาคมและทรูคอร์ปที่จะนำเสนอ 3G บนคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิรตซ์ร่วมกัน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ บริษัท มหาชนเอกชนร่วมทุน.
ตามข้อตกลงทีโอทีคาดว่าจะสุทธิรอบ Bt3.9 พันล้านต่อปีจากการขายส่งและการขายของแบนด์วิดธ์ 2.1GHz เอไอเอสจะติดตั้งเครือข่าย 3G-2.1GHz สำหรับทีโอทีซึ่งจะเช่าร้อยละ 80 ของกำลังการผลิตรวมไปเอไอเอสและที่เหลืออีกร้อยละ 20 ต่อไปยังผู้ประกอบการโทรคมนาคมอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทีโอทีและ แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ( เอไอเอส ) คาดว่าจะลงนามในบันทึกความเข้าใจในเดือนนี้เป็นหุ้นส่วนเพื่อให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่สามหน่วยงานของรัฐ 2.1-gigahertz สเปกตรัม , ทีโอที noosong มงคล ประธานกล่าวว่ามีอยู่สามที่เกี่ยวข้องกับสัญญาภายใต้การจัดการความร่วมมือ ประกอบด้วย คณะ 6 เดือนเริ่มต้นสัญญา และ สัญญาอย่างเป็นทางการ ระยะเวลาของสัญญาอย่างเป็นทางการจะสิ้นสุดในปี 2568 พวกเขาจะเซ็น MOU ก่อนมงคล บอกว่า สำนักงานอัยการสูงสุดเพิ่งถามทีโอที ชี้แจงว่า สัญญาควรดำเนินการตามที่สาธารณะเอกชนร่วมแสดง เขากล่าวว่าทีโอทีเชื่อว่าสัญญาตามแบบที่มีอยู่ หุ้นส่วนระหว่าง กสท โทรคมนาคม และทรู คอร์ป เพื่อให้ 3G บนคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิรตซ์ร่วมกัน เพราะฉะนั้น จึงไม่ต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติร่วมทุนรัฐเอกชน .ตามข้อตกลง ทีโอทีคาดว่าจะลดลง bt3.9 พันล้านต่อปีจากการขายส่งและขายของแบนด์วิดธ์ 2.1GHz . เอไอเอสจะติดตั้งโครงข่ายทีโอที 3G - 2.1GHz ซึ่งจะเช่า 80 เปอร์เซ็นต์ของความจุทั้งหมดให้กับเอไอเอส และที่เหลืออีกร้อยละ 20 เพื่อผู้ประกอบการโทรคมนาคมอื่น ๆ