LOOK AGAIN Illusions Test Visual Pe

LOOK AGAIN

Illusions Test Visual Perceptions.


The brain’s role in constructing meaning out of what you see is easily demonstrated by optical illusions.

Illusions can emerge from retinal processing of the visual primary colors of red, green, and blue in the eye’s cone cells, or deeper in the brain’s neural networks.

Two good examples of illusions resulting from neural processing are the Necker cube and Ames room. The former takes its name from the Swiss crystallographer Louis Albert

Necker, who was looking at a cubic crystal through a microscope in 1832, when the back and front sides of the cube seemed to spontaneously flip.

Necker repeated the illusion by devising a simple drawing of a transparent wire-frame cube whose perspective shifted as he gazed upon it.

The viewer’s brain imposes order on the cube by selecting one face to be the one closest to the eyes. However, in short order, the brain switches orientation, sending the previously fore- most square face to the back side.

The brain chooses one perspective or the other, and cannot hold both images in mind at the same time.

The Ames room, named for inventor Adelbert Ames,Jr., is a grossly distorted room of trapezoidal shape that, when viewed from one point directly front and center, appears to have normal right-angled walls, floor, and ceiling.

One corner opposite the viewer is much farther away than the other, but clever manipulation of perspective makes the room seem rectangular with the far wall parallel to the room’s front.

A person in the far corner seems tiny while another person in the near corner appears gigantic; walking from one corner to the other makes a person appear to grow or shrink.

The illusion works because the brain insists that the room must be a three-dimensional rectangular shape, which it has been conditioned to expect.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดูอีกครั้ง ภาพลวงตารับรู้ภาพทดสอบบทบาทของสมองในการสร้างความหมายจากสิ่งที่คุณเห็นจะแสดงให้เห็นได้ง่าย ๆ โดยภาพลวง ภาพลวงตาสามารถโผล่ออกมาจากจอประสาทตาประมวลผลของภาพสีแดง สีเขียว และน้ำเงินในเซลล์รูปกรวยตา หรือลึกในเครือข่ายประสาทของสมอง สองตัวอย่างของภาพที่เกิดจากการประมวลผลของระบบประสาทเป็นลูกบาศก์และห้องเอมส์ อดีตนำชื่อมาจากนักการอัลเบิร์ตหลุยส์ Necker ที่กำลังมองแบบผลึกลูกบาศก์ผ่านกล้องจุลทรรศน์ใน 1832 เมื่อที่ด้านหลังและด้านหน้าของ cube ดูเหมือนจะ พลิกได้ทันที Necker ซ้ำภาพลวงตา โดยทำรูปวาดของ cube โครงลวดที่โปร่งใสที่มีมุมมองเปลี่ยน ตามเขาจ้องเมื่อมันง่าย ตัวแสดงสมองกำหนดลำดับใน cube โดยเลือกใบหน้าเป็น หนึ่งที่ใกล้เคียงกับตา อย่างไรก็ตาม ใน สมองสลับแนว ส่งหน้าตารางก่อนหน้านี้สุดข้างหน้าไปด้านหลัง สมองเลือกมุมมองหนึ่งหรืออื่น ๆ และไม่สามารถเก็บภาพทั้งสองในใจในเวลาเดียวกัน ห้องเอมส์ ตั้งชื่อตามผู้ประดิษฐ์ Adelbert เอมส์ จูเนียร์ เป็นห้องของเกลียวตาเปซ grossly เพี้ยนรูปร่างที่ เมื่อมองจากด้านหน้าตรงจุดหนึ่ง และกลาง จะ มีปกติวาดผนัง พื้น เพดานมุมหนึ่งตรงข้ามกับตัวแสดงคือไกลมากออกกว่าที่อื่น ๆ แต่ฉลาดการจัดการมุมมองทำให้ห้องดูเหมือนสี่เหลี่ยม มีผนังไกลขนานกับด้านหน้าของห้อง บุคคลในมุมไกลที่ดูเหมือนเล็ก ๆ ในขณะที่คนอื่นในมุมใกล้ปรากฏยักษ์ เดินจากมุมหนึ่งไปยังอีกคนจะ ขยาย หรือลดขนาดได้ ภาพลวงตาทำงานเนื่องจากสมองยืนยันว่า ห้องต้องเป็นแบบสามมิติทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งได้รับการปรับอากาศให้แก่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดูอีกครั้ง

ภาพลวงตาทดสอบภาพและการรับรู้.


บทบาทของสมองในการสร้างความหมายออกมาจากสิ่งที่คุณเห็นคือแสดงให้เห็นได้อย่างง่ายดายโดยฉายภาพ.

Illusions สามารถโผล่ออกมาจากการประมวลผลจอประสาทตาของสีหลักภาพของสีแดง, สีเขียวและสีฟ้าในเซลล์รูปกรวยตาหรือ ลึกลงไปในเครือข่ายประสาทของสมอง.

สองตัวอย่างที่ดีของภาพลวงตาที่เกิดจากการประมวลผลของระบบประสาทเป็นก้อน Necker และห้องเอมส์ อดีตใช้ชื่อจาก crystallographer สวิสหลุยส์อัลเบิร์

Necker ผู้ที่กำลังมองที่ลูกบาศก์คริสตัลผ่านกล้องจุลทรรศน์ใน 1832 เมื่อด้านหน้าและด้านหลังด้านข้างของก้อนที่ดูเหมือนจะเป็นธรรมชาติพลิก.

Necker ซ้ำภาพลวงตาโดยการณ์การวาดภาพที่เรียบง่ายของ ก้อนลวดกรอบโปร่งใสที่มีมุมมองที่เปลี่ยนในขณะที่เขาจ้องไปกับมัน.

สมองของผู้ชมในการเรียกเก็บเพื่อลูกบาศก์โดยการเลือกใบหน้าที่จะเป็นคนที่อยู่ใกล้ตา อย่างไรก็ตามในระยะสั้นเพื่อสมองสลับปฐมนิเทศส่งหน้าก่อนหน้านี้พื้นหน้าตารางมากที่สุดในด้านหลัง.

สมองเลือกมุมมองหนึ่งหรืออื่น ๆ และไม่สามารถเก็บภาพทั้งในใจในเวลาเดียวกัน.

ห้องอาเมสชื่อ สำหรับนักประดิษฐ์อะเดอาเมสจูเนียร์. เป็นห้องที่บิดเบี้ยวผิดรูปร่างรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูที่เมื่อมองจากจุดหนึ่งโดยตรงด้านหน้าและศูนย์ดูเหมือนจะมีผนังปกติมุมฉากพื้นและเพดาน.

มุมหนึ่งตรงข้ามกับผู้ชมเป็นอย่างมากที่ไกลออกไป ห่างออกไปกว่าที่อื่น ๆ แต่ฉลาดการจัดการของมุมมองที่จะทำให้ห้องดูรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนานผนังไกลไปยังด้านหน้าของห้อง.

คนในมุมไกลดูเหมือนเล็ก ๆ ในขณะที่อีกคนหนึ่งอยู่ในมุมใกล้ปรากฏยักษ์; เดินจากมุมหนึ่งไปยังอีกที่ทำให้คนที่ดูเหมือนจะเติบโตหรือหดตัว.

ภาพลวงตาทำงานเพราะสมองยืนยันว่าห้องพักจะต้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมสามมิติที่จะได้รับการปรับอากาศที่คาดหวัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดูอีกครั้งภาพลวงตา ทดสอบการรับรู้ภาพบทบาทในการสร้างความหมายสมองออกจากสิ่งที่คุณเห็นได้อย่างง่ายดายแสดงโดยภาพลวงตาภาพลวงตาสามารถออกมาจากการประมวลผลม่านตาของแม่สีทัศนศิลป์ของสีแดง , สีเขียวและสีฟ้าในดวงตาของกรวยลึกในเซลล์ หรือสมองของโครงข่ายใยประสาทสองตัวอย่างที่ดีของภาพลวงตาที่เกิดจากการประมวลผลประสาทเป็นลูกบาศก์เนกเกอร์ และห้องเอม เดิมใช้ชื่อจากสวิส crystallographer ลุยส์ อัลเบิร์ตเนกเกอร์ ใครกำลังมองผลึกลูกบาศก์ผ่านกล้องจุลทรรศน์ใน 1832 เมื่อด้านหน้าและด้านหลังด้านข้างของลูกบาศก์ที่ดูเหมือนจะเป็นธรรมชาติพลิกเนกเกอร์ซ้ำภาพลวงตาโดยการวาดแบบโปร่งใสลูกบาศก์ที่มีโครงลวดมุมมองเปลี่ยน เขาก็จ้องมองมันสมองของผู้ชมเรียกคำสั่งในก้อนโดยการเลือกใบหน้าที่จะเป็นหนึ่งใกล้ดวงตา อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น สมองสวิทช์การส่งก่อนหน้านี้ก่อนตารางที่สุดหน้าไปทางด้านหลังสมองเลือกมุมหนึ่งหรืออื่น ๆและไม่สามารถจับภาพไว้ได้ในเวลาเดียวกันห้อง เอม ชื่อผู้ประดิษฐ์ เดลเบิร์ตเอมส์ จูเนียร์ เป็นห้องไม่บิดเบี้ยวสี่เหลี่ยมคางหมูรูปร่างนั้น เมื่อมองจากจุดหนึ่งตรงด้านหน้าและศูนย์ ปรากฏมีปกติอยู่มุมผนัง พื้น และเพดานมุมหนึ่ง ตรงข้ามกับผู้ชมมากไกลออกไปกว่าคนอื่น แต่การจัดการที่ชาญฉลาดของมุมมอง จะทำให้ห้องดูสี่เหลี่ยมที่มีขนาดผนังขนานกับห้องด้านหน้าบุคคลในมุมไกลดูเหมือนเล็ก ๆในขณะที่อีกคนในมุมใกล้ปรากฏยักษ์ ; เดินจากมุมหนึ่งไปยังอีกทำให้คนปรากฏที่จะเติบโตหรือหดตัวภาพลวงตาทำงานเพราะสมองยืนยันว่าห้องต้องเป็นวงกลม ทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งมีเงื่อนไขที่คาดหวัง