Concerning Hypothesis 1, being that

Concerning Hypothesis 1, being that the proximal variables influence intention to use DLMs, the regression analyses revealed that a considerable part of the variance in intention is explained by attitude, subjective norm and self-efficacy. Attitude has the largest contribution (b = .49, p < .001) followed by self-efficacy (b = .32, p < .001). Subjective norm has the smallest effect on intention (b = .10, p < .001). Hypothesis 1 is hereby confirmed

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกี่ยวข้องกับสมมติฐาน 1 ก็คือตัวแปร proximal มีอิทธิพลต่อความตั้งใจใช้ DLMs วิเคราะห์ถดถอยเปิดเผยว่า ส่วนมากของความแปรปรวนในความตั้งใจคืออธิบาย โดยทัศนคติ ปกติตามอัตวิสัย และ ประสิทธิภาพตนเอง ทัศนคติมีสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุด (b =.49, p < .001) ตาม ด้วยตนเองประสิทธิภาพ (b =.32, p < .001). ปกติตามอัตวิสัยมีผลน้อยที่สุดความตั้งใจ (b =.10, p < .001). สมมติฐาน 1 แปลงได้รับการยืนยัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกี่ยวกับสมมติฐานที่ 1 การที่ตัวแปรใกล้เคียงที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจที่จะใช้ DLMS, การวิเคราะห์การถดถอยเปิดเผยว่าเ​​ป็นส่วนหนึ่งของความแปรปรวนในความตั้งใจที่จะอธิบายได้ด้วยทัศนคติบรรทัดฐานอัตนัยและประสิทธิภาพของตนเอง ทัศนคติมีส่วนร่วมที่ใหญ่ที่สุด (ข = 0.49, p <0.001) ตามมาด้วยการรับรู้ความสามารถของตนเอง (ข = 0.32, p <0.001) บรรทัดฐานอัตนัยมีผลที่เล็กที่สุดในความตั้งใจ (ข = 0.10, p <0.001) สมมติฐานที่ 1 ได้รับการยืนยันขอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกี่ยวกับสมมติฐาน 1 , การที่ตัวแปรการทำงานมีอิทธิพลต่อความตั้งใจที่จะใช้ dlms , สมการถดถอยพบว่าส่วนมากของความแปรปรวนในเจตนาจะอธิบายโดยเจตคติ การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิง และการรับรู้ความสามารถของตนเอง . ทัศนคติมีผลงานที่ใหญ่ที่สุด ( B = . 49 , p < . 001 ) รองลงมา คือ การรับรู้ความสามารถของตนเอง ( B = . 32 , p < . 001 )การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิงที่มีต่อความตั้งใจที่เล็กที่สุด ( B = . 10 , p < . 001 ) สมมติฐานที่ 1 ขอยืนยัน