จังหวัดบึงกาฬจังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดในประเทศไทย จัดตั้งขึ้นตามพระราช การแปล - จังหวัดบึงกาฬจังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดในประเทศไทย จัดตั้งขึ้นตามพระราช ไทย วิธีการพูด

จังหวัดบึงกาฬจังหวัดบึงกาฬ เป็นจังห

จังหวัดบึงกาฬ
จังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดในประเทศไทย จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2554 อันมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554 เป็นต้นไป[3] โดยแยกอำเภอบึงกาฬ อำเภอเซกา อำเภอโซ่พิสัย อำเภอบุ่งคล้า อำเภอบึงโขงหลง อำเภอปากคาด อำเภอพรเจริญ และอำเภอศรีวิไล ออกจากการปกครองของจังหวัดหนองคาย
การจัดตั้ง
โครงร่างศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ
ใน พ.ศ. 2537 นายสุเมธ พรมพันห่าว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเสรีธรรม จังหวัดหนองคาย เสนอให้จัดตั้งจังหวัดบึงกาฬขึ้น โดยกำหนดจะแยกพื้นที่อำเภอบึงกาฬ อำเภอปากคาด อำเภอโซ่พิสัย อำเภอพรเจริญ อำเภอเซกา อำเภอบึงโขงหลง อำเภอศรีวิไล และอำเภอบุ่งคล้า ออกจากจังหวัดหนองคาย รวมเป็นท้องที่ทั้งหมด 4,305 ตารางกิโลเมตร[4] และมีประชากรประมาณ 390,000 คน[5] อย่างไรก็ดี กระทรวงมหาดไทย แจ้งผลการพิจารณาว่า ยังไม่มีแผนที่จะยกฐานะอำเภอบึงกาฬขึ้นเป็นจังหวัด เพราะการจัดตั้งจังหวัดใหม่เป็นการเพิ่มภาระด้านงบประมาณ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มกำลังคนภาครัฐ ซึ่งจะขัดกับมติคณะรัฐมนตรี[6]
โครงการร้างมาเกือบ 20 ปี กระทั่ง พ.ศ. 2553 กระทรวงมหาดไทย ได้นำเรื่องการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ เสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง เพื่อยก "ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. ..."[5] ผลการสำรวจความเห็นของประชาชนจังหวัดหนองคายในคราวเดียวกัน ปรากฏว่า ร้อยละ 98.83 เห็นด้วยกับการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ [5] ต่อมา วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้จัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ[7] [8][9] นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจึงถวายร่างพระราชบัญญัติให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงลงพระปรมาภิไธย โดยทรงลงเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 นำประกาศเป็น "พระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2554" ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2554 และใช้บังคับในวันรุ่งขึ้น[3] [10] โดยให้เหตุผลว่า[11]
เป็นไปตามหลักเกณฑ์ในเรื่องอำเภอ จำนวนประชากร และลักษณะพิเศษของจังหวัด อีกทั้งยังเป็นผลดีต่อการให้บริการแก่ประชาชน,
จังหวัดหนองคายเป็นพื้นที่แนวยาวทอดตามแม่น้ำโขง จึงมีผลต่อการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน,
จังหวัดหนองบัวลำภูและจังหวัดอำนาจเจริญที่เคยตั้งขึ้นใหม่ก็มีเนื้อที่น้อยกว่าหลักเกณฑ์มติคณะรัฐมนตรีเช่นกัน,
จังหวัดที่ตั้งขึ้นใหม่ไม่ให้บริการสาธารณะซ้ำซ้อนกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ
บุคลากรจำนวน 439 อัตรา สามารถกระจายกันในส่วนราชการได้ ไม่มีผลกระทบมากนัก
ต่อมารัฐสภาได้มีมติเห็นชอบ "ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. ..." เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554[12] นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีจึงถวายร่างพระราชบัญญัติให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงลงพระปรมาภิไธย โดยทรงลงเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 นำประกาศเป็น "พระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2554" ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2554 และใช้บังคับในวันรุ่งขึ้น[3]เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติ มีว่า
"...เนื่องจากจังหวัดหนองคายเป็นจังหวัดที่มีท้องที่ติดชายแดน และมีลักษณะภูมิประเทศเป็นแนวยาว ทำให้การติดต่อระหว่างอำเภอที่ห่างไกลและจังหวัดเป็นไปด้วยความยากลำบาก และใช้ระยะเวลาในการเดินทางมากเกินควร ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการจัดระเบียบการปกครอง การรักษาความมั่นคง และการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในท้องที่ สมควรแยกอำเภอบึงกาฬ อำเภอเซกา อำเภอโซ่พิสัย อำเภอบุ่งคล้า อำเภอบึงโขงหลง อำเภอปากคาด อำเภอพรเจริญ และอำเภอศรีวิไล จังหวัดหนองคาย ออกจากการปกครองของจังหวัดหนองคาย รวมตั้งขึ้นเป็นจังหวัดบึงกาฬ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้"
นอกจากมาตรา 3 ของพระราชบัญญัติดังกล่าว ที่ให้จัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ โดยมีองค์ประกอบเป็นอำเภอทั้งแปดข้างต้นแล้ว มาตรา 4 ยังให้เปลี่ยนชื่อ "อำเภอบึงกาฬ" เป็น "อำเภอเมืองบึงกาฬ" ด้วย
เมื่อวันที่ 22-25 มีนาคม พ.ศ. 2554 ได้มีการจัดงานฉลองจังหวัดบึงกาฬอย่างยิ่งใหญ่ โดยมี นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี[13] ต่อมารัฐสภาได้มีมติเห็นชอบ "ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. ..." เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554[14] นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจึงถวายร่างพระราชบัญญัติให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงลงพระปรมาภิไธย โดยทรงลงเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 นำประกาศเป็น "พระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2554" ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2554 และใช้บังคับในวันรุ่งขึ้น[15]
ภูมิศาสตร์
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
จังหวัดบึงกาฬจังหวัดบึงกาฬเป็นจังหวัดในประเทศไทยจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬพ.ศ. 2554 อันมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมพ.ศ. 2554 เป็นต้นไป [3] โดยแยกอำเภอบึงกาฬอำเภอเซกาอำเภอโซ่พิสัยอำเภอบุ่งคล้าอำเภอบึงโขงหลงอำเภอปากคาดอำเภอพรเจริญและอำเภอศรีวิไลออกจากการปกครองของจังหวัดหนองคายการจัดตั้งโครงร่างศาลากลางจังหวัดบึงกาฬในพ.ศ. ๒๕๓๗ นายสุเมธพรมพันห่าวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเสรีธรรมจังหวัดหนองคายเสนอให้จัดตั้งจังหวัดบึงกาฬขึ้นโดยกำหนดจะแยกพื้นที่อำเภอบึงกาฬอำเภอปากคาดอำเภอโซ่พิสัยอำเภอพรเจริญอำเภอเซกาอำเภอบึงโขงหลงอำเภอศรีวิไลและอำเภอบุ่งคล้าออกจากจังหวัดหนองคายรวมเป็นท้องที่ทั้งหมด 4,305 ตารางกิโลเมตร [4] และมีประชากรประมาณ 390,000 คน [5] อย่างไรก็ดีกระทรวงมหาดไทยแจ้งผลการพิจารณาว่ายังไม่มีแผนที่จะยกฐานะอำเภอบึงกาฬขึ้นเป็นจังหวัดเพราะการจัดตั้งจังหวัดใหม่เป็นการเพิ่มภาระด้านงบประมาณอีกทั้งยังเป็นการเพิ่มกำลังคนภาครัฐซึ่งจะขัดกับมติคณะรัฐมนตรี [6]โครงการร้างมาเกือบ 20 ปีกระทั่งพ.ศ. 2553 กระทรวงมหาดไทยได้นำเรื่องการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้งเพื่อยก "ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬพ.ศ...." [5] ผลการสำรวจความเห็นของประชาชนจังหวัดหนองคายในคราวเดียวกันปรากฏว่าร้อยละ 98.83 เห็นด้วยกับการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ [5] ต่อมาวันที่ 3 สิงหาคมพ.ศ. 2553 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้จัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ [7] [8] [9] นายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีจึงถวายร่างพระราชบัญญัติให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงลงพระปรมาภิไธยโดยทรงลงเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 นำประกาศเป็น "พระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬพ.ศ. 2554" ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2554 และใช้บังคับในวันรุ่งขึ้น [3] [10] [11] โดยให้เหตุผลว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์ในเรื่องอำเภอจำนวนประชากรและลักษณะพิเศษของจังหวัดอีกทั้งยังเป็นผลดีต่อการให้บริการแก่ประชาชนจังหวัดหนองคายเป็นพื้นที่แนวยาวทอดตามแม่น้ำโขงจึงมีผลต่อการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนจังหวัดหนองบัวลำภูและจังหวัดอำนาจเจริญที่เคยตั้งขึ้นใหม่ก็มีเนื้อที่น้อยกว่าหลักเกณฑ์มติคณะรัฐมนตรีเช่นกันจังหวัดที่ตั้งขึ้นใหม่ไม่ให้บริการสาธารณะซ้ำซ้อนกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและบุคลากรจำนวน 439 อัตราสามารถกระจายกันในส่วนราชการได้ไม่มีผลกระทบมากนักต่อมารัฐสภาได้มีมติเห็นชอบ "ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬพ.ศ...." เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์พ.ศ. 2554 [12] นายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีจึงถวายร่างพระราชบัญญัติให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงลงพระปรมาภิไธยโดยทรงลงเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 นำประกาศเป็น "พระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬพ.ศ. 2554" ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2554 [3] และใช้บังคับในวันรุ่งขึ้นเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติมีว่า"... เนื่องจากจังหวัดหนองคายเป็นจังหวัดที่มีท้องที่ติดชายแดนและมีลักษณะภูมิประเทศเป็นแนวยาวทำให้การติดต่อระหว่างอำเภอที่ห่างไกลและจังหวัดเป็นไปด้วยความยากลำบากและใช้ระยะเวลาในการเดินทางมากเกินควรดังนั้นเพื่อประโยชน์ในการจัดระเบียบการปกครองการรักษาความมั่นคงและการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในท้องที่สมควรแยกอำเภอบึงกาฬอำเภอเซกาอำเภอโซ่พิสัยอำเภอบุ่งคล้าอำเภอบึงโขงหลงอำเภอปากคาดอำเภอพรเจริญและอำเภอศรีวิไลจังหวัดหนองคายออกจากการปกครองของจังหวัดหนองคายรวมตั้งขึ้นเป็นจังหวัดบึงกาฬจึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้"นอกจากมาตรา 3 ของพระราชบัญญัติดังกล่าวที่ให้จัดตั้งจังหวัดบึงกาฬโดยมีองค์ประกอบเป็นอำเภอทั้งแปดข้างต้นแล้วมาตรา 4 ยังให้เปลี่ยนชื่อ "อำเภอบึงกาฬ" เป็น "อำเภอเมืองบึงกาฬ" ด้วยเมื่อวันที่ 22-25 มีนาคม พ.ศ. 2554 ได้มีการจัดงานฉลองจังหวัดบึงกาฬอย่างยิ่งใหญ่ โดยมี นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี[13] ต่อมารัฐสภาได้มีมติเห็นชอบ "ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. ..." เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554[14] นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจึงถวายร่างพระราชบัญญัติให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงลงพระปรมาภิไธย โดยทรงลงเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 นำประกาศเป็น "พระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2554" ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2554 และใช้บังคับในวันรุ่งขึ้น[15]ภูมิศาสตร์
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
จังหวัดบึงกาฬ
จังหวัดบึงกาฬเป็นจังหวัดในประเทศไทย พ.ศ. 2554 อันมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554 เป็นต้นไป [3] โดยแยกอำเภอบึงกาฬอำเภอเซกาอำเภอโซ่พิสัยอำเภอบุ่งคล้าอำเภอบึงโขงหลงอำเภอปากคาดอำเภอพรเจริญและอำเภอศรีวิไล พ.ศ. 2537 นายสุเมธพรมพันห่าวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเสรีธรรมจังหวัดหนองคายเสนอให้จัดตั้งจังหวัดบึงกาฬขึ้นโดยกำหนดจะแยกพื้นที่อำเภอบึงกาฬอำเภอปากคาดอำเภอโซ่พิสัยอำเภอพรเจริญอำเภอเซกาอำเภอบึงโขงหลงอำเภอศรีวิไลและอำเภอบุ่งคล้าออกจากจังหวัดหนองคาย รวมเป็นท้องที่ทั้งหมด 4,305 ตารางกิโลเมตร [4] และมีประชากรประมาณ 390,000 คน [5] อย่างไรก็ดีกระทรวงมหาดไทยแจ้งผลการพิจารณาว่า 20 ปีกระทั่ง พ.ศ. 2553 กระทรวงมหาดไทย เพื่อยก พ.ศ. ... "[5] ปรากฏว่าร้อยละ 98.83 [5] ต่อมาวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553 [8] [9] นายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ โดยทรงลงเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 นำประกาศเป็น "พระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2554 "ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2554 และใช้บังคับในวันรุ่งขึ้น [3] [10] จำนวนประชากรและลักษณะพิเศษของจังหวัด และบุคลากรจำนวน 439 อัตราสามารถกระจายกันในส่วนราชการได้ พ.ศ. ... "เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 [12] นายอภิสิทธิ์ โดยทรงลงเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 นำประกาศเป็น "พระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2554" ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2554 และมีลักษณะภูมิประเทศเป็นแนวยาว ดังนั้น การรักษาความมั่นคง สมควรแยกอำเภอบึงกาฬอำเภอเซกาอำเภอโซ่พิสัยอำเภอบุ่งคล้าอำเภอบึงโขงหลงอำเภอปากคาดอำเภอพรเจริญและอำเภอศรีวิไลจังหวัดหนองคายออกจากการปกครองของจังหวัดหนองคายรวมตั้งขึ้นเป็นจังหวัดบึงกาฬ 3 ของพระราชบัญญัติดังกล่าวที่ให้จัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ มาตรา 4 ยังให้เปลี่ยนชื่อ "อำเภอบึงกาฬ" เป็น "อำเภอเมืองบึงกาฬ" ด้วยเมื่อวันที่ 22-25 มีนาคม พ.ศ. 2554 โดยมีนายชวรัตน์ชาญวีรกูลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานในพิธี [13] ต่อมารัฐสภาได้มีมติเห็นชอบ พ.ศ. ... "เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 [14] นายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ โดยทรงลงเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 นำประกาศเป็น "พระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2554 "ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2554














การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
จังหวัดบึงกาฬ
จังหวัดบึงกาฬเป็นจังหวัดในประเทศไทยจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬพ . ศ . 2554 อันมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมพ . ศ .2554 เป็นต้นไป [ 3 ] โดยแยกอำเภอบึงกาฬอำเภอเซกาอำเภอโซ่พิสัยอำเภอบุ่งคล้าอำเภอบึงโขงหลงอำเภอปากคาดอำเภอพรเจริญและอำเภอศรีวิไลออกจากการปกครองของจังหวัดหนองคาย


การจัดตั้งโครงร่างศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ the พ .ศ .2537 นายสุเมธพรมพันห่าวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเสรีธรรมจังหวัดหนองคายเสนอให้จัดตั้งจังหวัดบึงกาฬขึ้นโดยกำหนดจะแยกพื้นที่อำเภอบึงกาฬอำเภอปากคาดอำเภอโซ่พิสัยอำเภอพรเจริญอำเภอเซกาอำเภอบึงโขงหลง
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: