Soy protein and lipid interact with

Soy protein and lipid interact with each other and form complex
“particles”that differ in size and structure. The word“particle”is
frequently used to describe the oligomeric or polymeric aggregates
in soymilk. Depending on the chemical nature and research objectives, the meaning of “particle” varies in different studies.
Therefore, all relevant terms used in this paper are defined in
Table 1. The quality and processability of soymilk are closely associated with the nature of soymilk particles (e.g., particle composition, size distribution, and physicochemical characteristics) (Guo
et al., 2002; Nik, Tosh, Poysa, Woodrow,&Corredig, 2008; Ono,
Choi, Ikeda,&Odagiri, 1991). The nature of soymilk particles are
determined during thermal processing of raw soymilk (Guo, Ono,&
Mikami, 1997) accompanied by denaturation of soy globular proteins (glycinin, 11S, andb-conglycinin, 7S) (Molina, Papadopoulou,
&Ledward, 2001; Nagano, Hirotsuka, Mori, Kohyama,&Nishinari,
1992).
Since the 1980s, researchers have exerted efforts to establish the
mechanism illustrating the formation of protein particles and their
gel-forming properties (Grygorczyk&Corredig, 2013; Guo&Ono,
2005; Guo et al., 1997; Ono et al., 1991). Models that elaborate
Ca
2þ
-ord-glucolactone (GDL)-induced soymilk gelation are gradually proposed and discussed (Guo et al., 2002; Kohyama, Sano,&
Doi, 1995). Many studies have focused on the effect of heat and
demonstrated the importance of optimized heat treatment to

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โปรตีนถั่วเหลืองและไขมันที่โต้ตอบกับแต่ละอื่น ๆ และแบบฟอร์มที่ซับซ้อน"อนุภาค" ที่แตกต่างกันในขนาดและโครงสร้าง คำว่า "อนุภาค"ใช้บ่อยเพื่ออธิบายผล oligomeric หรือโพลีเมอร์ในนมถั่วเหลือง ขึ้นอยู่กับสารเคมีธรรมชาติและวิจัยวัตถุประสงค์ ความหมายของ "อนุภาค" ในการศึกษาแตกต่างกันแตกต่างกันไปดังนั้น ในการกำหนดเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ใช้ในเอกสารนี้ไว้ในตารางที่ 1 คุณภาพและเชิงของนมถั่วเหลืองคือเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับธรรมชาติของอนุภาคของนมถั่วเหลือง (เช่น อนุภาคองค์ประกอบ การกระจายขนาด และคุณลักษณะ) (Guoet al. 2002 Nik, Tosh, Poysa วูดโรว์ & Corredig, 2008 โอโนะชอย อิเคดะ และ Odagiri, 1991) ลักษณะของอนุภาคเป็นนมถั่วเหลืองกำหนดในระหว่างการประมวลผลความร้อนของนมถั่วเหลืองดิบ (Guo, Ono, &มิคามิ 1997) มาพร้อมกับแปรสภาพโปรตีนถั่วเหลืองกระจุก (glycinin, 11S, andb conglycinin, 7 มีใบ) (Molina, Papadopoulou& Ledward, 2001 นากาโนะ Hirotsuka โมริ Kohyama และ Nishinari1992)ตั้งแต่ปี 1980 นักวิจัยมีนั่นเองพยายามสร้างการกลไกแสดงการก่อตัวของอนุภาคโปรตีนและคุณสมบัติการขึ้นรูปแบบเจล (Grygorczyk & Corredig, 2013 กูและโอโนะ2005 Guo et al. 1997 Ono et al. 1991) รูปแบบที่ซับซ้อนCa2þ-ord-glucolactone (GDL) -gelation เหนี่ยวนำนมถั่วเหลืองจะค่อย ๆ เสนอ และกล่าวถึง (Guo et al. 2002 Kohyama ซาโนะ &ดอย 1995) การศึกษาจำนวนมากมุ่งเน้นที่ผลของความร้อน และแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาความร้อนที่เหมาะสมเพื่อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โปรตีนถั่วเหลืองและไขมันโต้ตอบกับแต่ละอื่น ๆและรูปแบบซับซ้อน" อนุภาค " ที่แตกต่างกันในขนาดและโครงสร้าง คำว่า " อนุภาค " คือมักใช้เพื่ออธิบายมวลสารโอลิโก หรือในนมถั่วเหลือง . ขึ้นอยู่กับสารเคมีธรรมชาติและวัตถุประสงค์การวิจัย ความหมายของ " อนุภาค " แตกต่างกันไป ในการศึกษาที่แตกต่างกันดังนั้น ทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ศัพท์ที่ใช้ในบทความนี้ถูกกำหนดไว้ในตารางที่ 1 . คุณภาพและความสามารถในการขึ้นรูปของนมถั่วเหลืองจะเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับธรรมชาติของอนุภาคนมถั่วเหลือง ( เช่นอนุภาค , องค์ประกอบ , การกระจายขนาด และลักษณะทางกายภาพ - เคมี ) ( กั๋วet al . , 2002 ; นิค , โตชิ poysa วูดโรว์ , และ corredig , 2008 ; โอโนะชอย อิเคดะ และโอดากิริ , 1991 ) ธรรมชาติของอนุภาคเป็นนมถั่วเหลืองกำหนดในระหว่างกระบวนการของดิบ นมถั่วเหลือง ( กั้ว โอโนะ และมิคามิ ( 1997 ) พร้อมด้วยถั่วเหลืองโปรตีนรูปทรงกลม ( 11s ออกฤทธิ์ทาง conglycinin 7s , , , ) ( papadopoulou Molina , ,& ข่าว , 2001 ; นากาโน่ hirotsuka โมรินิชินาริ kohyama , และ , ,1992 )ตั้งแต่ 1980 , นักวิจัยได้ใช้ความพยายามที่จะสร้างกลไกที่แสดงการก่อตัวของอนุภาคโปรตีนและของพวกเขาเป็นคุณสมบัติของเจล ( grygorczyk & corredig 2013 ; ก๊วย & โอโนะ2005 ; ก๊วย et al . , 1997 ; โอโนะ et al . , 1991 ) โมเดลที่ซับซ้อนซีเอ2 þ- สั่ง glucolactone ( GDL ) - induced นมถั่วเหลืองเจลาตินจะค่อยๆเสนอและอภิปราย ( Guo et al . , 2002 ; kohyama ซาโนะ และดอย , 1995 ) หลายการศึกษาได้มุ่งเน้นผลของความร้อนและแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาความร้อน