But it certainly makes for a juicy

But it certainly makes for a juicy story. And it did at the time, too, because music publishers from America and England soon came calling.

Tin Pan Alley tunesmith Sam M. Lewis and British theater lyricist Desmond Carter each wrote an English translation of the song. It was Lewis's version, recorded in 1936 by Hal Kemp and his Orchestra, that caught on.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แต่แน่นอนทำให้สำหรับเรื่องฉ่ำ และมันในเวลา เกินไป เนื่องจากผู้เผยแพร่เพลงจากอเมริกาและอังกฤษเร็ว ๆ นี้มาโทรศัพท์.

ทินปานซอย tunesmith Sam M. Lewis และนักแต่งเพลงจากโรงละครที่อังกฤษแต่ละคาร์เตอร์เดสมเขียนแปลเป็นภาษาอังกฤษของเพลง มันเป็นรุ่นของลูอิส บันทึกในค.ศ. 1936 โดย Hal Kemp และวงของเขา ที่จับบน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แต่อย่างแน่นอนทำให้เรื่องราวฉ่ำ และมันได้ในเวลานั้นเกินไปเพราะผู้เผยแพร่เพลงจากอเมริกาและอังกฤษเร็ว ๆ นี้โทรมาtunesmith ตินแพนเอ็มแซมลลูอิสและโรงแต่งบทเพลงอังกฤษเดสมอนด์คาร์เตอร์แต่ละคนเขียนแปลภาษาอังกฤษของเพลง มันเป็นของลูอิสรุ่นที่บันทึกไว้ในปี 1936 โดยฮาลเคมพ์และออร์เคสตราของเขาที่ติดอยู่บน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แต่มันก็ทำให้เรื่องราวที่น่าสนใจ และมันก็อยู่ที่เวลาด้วย เพราะเพลงที่เผยแพร่จากอเมริกาและอังกฤษแล้วมาโทร .

กระทะสังกะสี ซอย tunesmith แซมม. ลูอิสและอังกฤษละครบทเพลงเดสมอนด์ คาร์เตอร์ แต่ละคนเขียนภาษาอังกฤษแปลเพลง มันคือรุ่นของ ลิวอิส บันทึกในปี 1936 โดย Hal Kemp และวงดนตรีของเขา , ที่ติดบน