We develop a model of fraud in orga

We develop a model of fraud in organizations that allows
an evaluation of the relative efficacy of mechanisms
designed to prevent fraud while explicitly recognizing
the social processes underlying the formation of organizational
norms. To develop our model, we use a method that
is relatively new in accounting research: agent-based modeling
(ABM). Designed to study the emergence of macro-level
phenomena from micro-level interactions, ABM is well
suited to address questions involving organizational outcomes
(e.g., a culture of fraud) resulting from the interactions
between individuals within an organization and
organizational variables. The use of ABM confers an additional
advantage: It allows us to gain insights into fraud
even when data in organizations are censored.
Our model is comprised of an organization represented
by 100 independent, heterogeneous agents (employees)
and a set of simple interaction rules. Following Cressey’s
(1953) characterization of occupational fraud (known as
the fraud triangle hypothesis), any agent in our model possessing
motive, opportunity, and an attitude that frames
the fraudulent act as acceptable will commit fraud. We allow
agents to repeatedly interact, with an eye toward
emergent aggregate fraud levels and the dynamics of fraud
over time. We begin with a benchmark model in which all
agents have opportunity and motive. We then modify our
model to investigate the impact of mechanisms to prevent
or detect fraud. We first investigate the impact of modifying
the likelihood that agents perceive the opportunity to
commit fraud. Next, we consider a hierarchy in which
higher-level honest employees exert greater influence than
lower-level employees (i.e., ‘‘tone at the top’’). Then we
consider the impact of asymmetric influence exerted by
fraudsters relative to honest employees (which can arise
as a result of ethical training, the implementation of a code
of ethics, or a variety of other interventions). Finally, we
consider the impact of detection and termination efforts.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เราพัฒนารูปแบบการทุจริตในองค์กรที่ช่วยให้การประเมินประสิทธิภาพสัมพัทธ์ของกลไกออกแบบมาเพื่อป้องกันการทุจริตในขณะที่การจดจำอย่างชัดเจนกระบวนการสังคมต้นแบบการก่อตัวขององค์กรบรรทัดฐาน การพัฒนารูปแบบของเรา เราใช้วิธีการที่ค่อนข้างใหม่ในบัญชีวิจัย: โมเดลตามตัวแทน(ชได้) ออกแบบมาเพื่อศึกษาการเกิดขึ้นของแมโครระดับปรากฏการณ์จากโต้ตอบระดับไมโคร ชได้เป็นอย่างดีเหมาะสมกับคำถามที่อยู่ที่เกี่ยวข้องกับผลลัพธ์ขององค์กร(เช่น วัฒนธรรมของการฉ้อโกง) เกิดจากการโต้ตอบระหว่างบุคคลภายในองค์กร และตัวแปรขององค์กร ใช้ชได้ confers เพิ่มเติมประโยชน์: จะได้รับลึกฉ้อโกงแม้เมื่อข้อมูลในองค์กรมี censoredรูปแบบของเราประกอบด้วยองค์กรที่แสดงโดย 100 อิสระ บริการตัวแทน (พนักงาน)และชุดของกฎที่โต้ตอบได้ ต่อไปนี้ Cressey(1953) คุณสมบัติของอาชีพทุจริต (ที่เรียกว่าทุจริตสามเหลี่ยมทฤษฏี), มีตัวแทนในรุ่นของเรามีแรงจูงใจ โอกาส และทัศนคติที่เฟรมการกระทำที่หลอกลวงเป็นที่ยอมรับจะยอมรับการทุจริต เราอนุญาตให้ตัวแทนซ้ำ ๆ โต้ตอบ กับตาไประดับการทุจริตรวมโผล่ออกมาและของฉ้อโกงช่วงเวลานั้น เราเริ่มต้น ด้วยแบบจำลองมาตรฐานซึ่งทั้งหมดตัวแทนมีโอกาสและแรงจูงใจ เราปรับเปลี่ยนแล้วของเรารูปแบบการตรวจสอบผลกระทบของกลไกการป้องกันหรือตรวจสอบทุจริต เราต้องตรวจสอบผลกระทบของการปรับเปลี่ยนโอกาสที่ตัวแทนสังเกตโอกาสเจตนาทุจริต ถัดไป เราพิจารณาลำดับชั้นที่พนักงานซื่อสัตย์สูงกว่าอิทธิพลยิ่งกว่าแรงพนักงานระดับล่าง (เช่น, ''เสียงที่ '') แล้วเราพิจารณาผลกระทบของอิทธิพล asymmetric นั่นเองโดยfraudsters สัมพันธ์พนักงานซื่อสัตย์ (ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากการฝึกอบรมจริยธรรม ใช้รหัสของจริยธรรม หรือมาตรการอื่น ๆ ที่หลากหลาย) สุดท้าย เราพิจารณาผลกระทบของความพยายามตรวจหาและการเลิกจ้าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เราพัฒนารูปแบบของการทุจริตในองค์กรที่ช่วยให้
การประเมินผลการรับรู้ความสามารถของญาติของกลไกการ
ออกแบบมาเพื่อป้องกันการทุจริตในขณะที่การรับรู้อย่างชัดเจน
กระบวนการทางสังคมพื้นฐานการก่อตัวขององค์กร
บรรทัดฐาน เพื่อพัฒนารูปแบบของเราเราใช้วิธีการที่
เป็นที่ค่อนข้างใหม่ในการวิจัยการบัญชี: ตัวแทนตามแบบจำลอง
(ABM) ได้รับการออกแบบเพื่อการศึกษาวิวัฒนาการของระดับมหภาค
ปรากฏการณ์จากการมีปฏิสัมพันธ์ในระดับจุลภาค, ABM เป็นอย่างดี
เหมาะที่จะตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับผลขององค์กร
(เช่นวัฒนธรรมของการทุจริต) เป็นผลมาจากการมีปฏิสัมพันธ์
ระหว่างบุคคลภายในองค์กรและ
ตัวแปรขององค์กร ใช้ ABM ฟาโรห์เพิ่มเติม
ประโยชน์: มันช่วยให้เราสามารถได้รับข้อมูลเชิงลึกในการทุจริต
ได้เมื่อข้อมูลในองค์กรมีการตรวจสอบ
รูปแบบของเราประกอบด้วยองค์กรที่เป็นตัวแทนของ
100 อิสระตัวแทนต่างกัน (คน)
และชุดของกฎการทำงานร่วมกันง่าย ต่อไปนี้ของ Cressey
(1953) ลักษณะของการทุจริตการประกอบอาชีพ (ที่รู้จักกัน
สมมติฐานการทุจริตสามเหลี่ยม) ตัวแทนใด ๆ ในรูปแบบของเรามี
แรงจูงใจโอกาสและทัศนคติที่กรอบ
กระทำทุจริตเป็นที่ยอมรับจะกระทำการทุจริต เราอนุญาตให้
ตัวแทนในการโต้ตอบซ้ำ ๆ ด้วยตาไป
โผล่ออกมาในระดับที่ทุจริตรวมและการเปลี่ยนแปลงของการทุจริต
เมื่อเวลาผ่านไป เราเริ่มต้นด้วยรูปแบบมาตรฐานที่ทุก
ตัวแทนมีโอกาสและแรงจูงใจ จากนั้นเราจะปรับเปลี่ยนของเรา
รูปแบบในการตรวจสอบผลกระทบของกลไกที่จะป้องกัน
หรือตรวจสอบการทุจริต ครั้งแรกที่เราตรวจสอบผลกระทบของการปรับเปลี่ยน
โอกาสที่ตัวแทนรับรู้โอกาสที่จะ
กระทำการทุจริต ต่อไปเราจะพิจารณาลำดับชั้นในการที่
พนักงานเที่ยงตรงระดับสูงใช้อิทธิพลมากกว่า
พนักงานระดับล่าง (เช่น '' เสียงที่ด้านบน '') จากนั้นเรา
พิจารณาผลกระทบจากอิทธิพลของสมมาตรกระทำโดย
กระทำของผู้โจมตีที่เกี่ยวข้องกับพนักงานเที่ยงตรง (ซึ่งสามารถเกิดขึ้น
เป็นผลมาจากการฝึกอบรมจริยธรรมการดำเนินงานของรหัส
ของจริยธรรมหรือความหลากหลายของการแทรกแซงอื่น ๆ ) สุดท้ายเรา
พิจารณาผลกระทบของความพยายามในการตรวจสอบและการสิ้นสุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เราพัฒนารูปแบบของการทุจริตในองค์กรที่ช่วยให้
การประเมินประสิทธิภาพสัมพัทธ์ของกลไกที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการฉ้อโกงอย่างชัดเจน

) ในขณะที่ตระหนักถึงสังคมต้นแบบสร้างบรรทัดฐานขององค์การ
. เพื่อพัฒนารูปแบบของเรา เราใช้วิธีที่
ค่อนข้างใหม่ในการวิจัยทางการบัญชี : ตัวแทน - เบสแบบ
( ABM ) วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิวัฒนาการของ
ระดับมหภาคปรากฏการณ์จากปฏิสัมพันธ์ระดับจุลภาค ABM เป็นอย่างดี
เหมาะไปถามที่อยู่ที่เกี่ยวข้องกับองค์การผล
( เช่น วัฒนธรรมของการฉ้อโกง ) ที่เกิดจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลภายในองค์กรและ

ตัวแปรขององค์การ การใช้ ABM confers ข้อดีเพิ่มเติม
: มันช่วยให้เราที่จะได้รับข้อมูลเชิงลึกในการฉ้อโกง
เมื่อข้อมูลในองค์กรเซ็นเซอร์
นางแบบของเราประกอบด้วยองค์กรแทน
100 อิสระ , ข้อมูลตัวแทน ( พนักงาน )
และชุดของกฎการปฏิสัมพันธ์แบบง่ายๆ ต่อไปนี้ที่ตั้งของ
( 1953 ) ลักษณะของการฉ้อโกง ( ที่รู้จักกันเป็นสามเหลี่ยมทุจริต
สมมติฐาน ) ใด ๆ ตัวแทนในรุ่นของเราครอบครอง
แรงจูงใจ โอกาส และทัศนคติที่เฟรม
พระราชบัญญัติปลอมเป็นที่ยอมรับที่จะยอมรับการทุจริต เราอนุญาตให้
ตัวแทนซ้ำ ๆ เพื่อโต้ตอบกับตาที่มีต่อ
ฉุกเฉินรวมการทุจริตระดับและพลวัตของการฉ้อโกง
ตลอดเวลา เราเริ่มต้นด้วยมาตรฐานแบบที่เจ้าหน้าที่ทุกคน
ได้โอกาสและแรงจูงใจ จากนั้น เราก็ปรับเปลี่ยนรูปแบบของเรา
เพื่อศึกษาผลกระทบของกลไกการป้องกัน
หรือตรวจพบการฉ้อโกง เราเริ่มศึกษาผลกระทบของการปรับเปลี่ยน
โอกาสที่ตัวแทนรับรู้โอกาส

ทำการโกง ต่อไปเราจะพิจารณาลำดับขั้นที่
สูงเที่ยงตรงพนักงานออกแรงอิทธิพลมากกว่า
พนักงานระดับล่าง ( เช่น ' 'tone ที่ด้านบน ' ' ) แล้วเรา
พิจารณาผลกระทบของการมีอิทธิพลต่อนั่นเอง โดย fraudsters ญาติพนักงานเที่ยงตรง (

ซึ่งสามารถเกิดขึ้นเป็นผลของการฝึก , จริยธรรมการใช้รหัส
ของจริยธรรมหรือความหลากหลายของการแทรกแซงอื่น ๆ )สุดท้ายเรา
พิจารณาผลกระทบของการตรวจสอบและการสิ้นสุดความพยายาม