The major growth in coal came from

The major growth in coal came from developing economies, with China accounting for 46% of global coal demand in 2011.
But it's not just them.
Europe, the region that likes to think of itself as perhaps the greenest in the world, has also seen a return to coal in the last couple of years. While the US has turned to shale gas, Europeans have once again embraced the black stuff, as the cost of coal has plummeted.
However, it is not all bad news for the green sector. Renewables such as solar and wind have boomed in 2011 and 2012, perhaps driven by government spending.
They accounted for 19% of global electricity generation in 2011 which according to the report is "broadly on track to meet a 2C scenario by 2020" for a globally altered climate.
Electric vehicle sales have doubled (still a measly 110,000) while hybrid vehicles have finally broken the one million sales mark.
But turning this oil tanker (perhaps coal carrier is a better metaphor?) is not going to be easy.
And efforts will not have been helped by a vote in the European Parliament that rejected an attempt by the Commission to prop up the extremely ailing EU carbon market.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การเติบโตหลักในถ่านหินมาจากการพัฒนาเศรษฐกิจ กับบัญชีจีน 46% ของความต้องการถ่านหินทั่วโลกในปี 2554แต่ไม่เพียงแค่นั้นยุโรป ภูมิภาคที่ชอบคิดว่า ตัวเองเป็นทีบรรจงในโลก ได้เห็นกลับไปถ่านหินในคู่สุดท้ายของปี ในขณะที่สหรัฐอเมริกาได้หันไปดินดานแก๊ส ชาวยุโรปได้อีกครั้งกอดสิ่งดำ เป็นต้นทุนถ่านหินได้ลดลงอย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ข่าวร้ายทั้งหมดสำหรับภาคสีเขียว เท่าเช่นพลังงานแสงอาทิตย์ และลมมี boomed ในปี 2554 และ 2555 บางทีขับเคลื่อน โดยการใช้จ่ายของรัฐบาลพวกเขาคิด 19% ส่วนกลางไฟฟ้าในปี 2554 ซึ่งตามรายงานเป็น "อย่างกว้างขวางในการติดตามเพื่อตอบสนองสถานการณ์สมมติ 2 C 2563" สภาพภูมิอากาศทั่วโลกเปลี่ยนแปลงยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าได้สองเท่า (ยังเป็น 110,000 เลวทรามต่ำช้า) ในขณะที่รถยนต์ไฮบริดก็มีเสียหมายขายหนึ่งล้านแต่เปิดบรรทุกน้ำมันนี้ (อาจจะขนส่งถ่านหินเป็นอุปมัยดี) ไม่ได้ไปได้ง่ายและความพยายามที่จะไม่ได้ถูกช่วย โดยลงคะแนนเสียงในรัฐสภายุโรปที่ปฏิเสธความพยายาม โดยจะรองรับตลาดคาร์บอนใน EU ailing มาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเติบโตที่สำคัญในธุรกิจถ่านหินมาจากการพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศจีนคิดเป็น 46% ของความต้องการใช้ถ่านหินทั่วโลกในปี 2011
แต่ก็ไม่ได้เป็นเพียงพวกเขา.
ยุโรปภูมิภาคที่ชอบที่จะคิดว่าตัวเองเป็นอาจจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในโลกได้เห็น กลับไปที่ถ่านหินในคู่สุดท้ายของปี ในขณะที่สหรัฐมีการเปิดให้ก๊าซจากชั้นหินยุโรปได้นำเอาอีกครั้งสิ่งที่เป็นสีดำในขณะที่ค่าใช้จ่ายของถ่านหินได้ลดลง.
แต่ก็ไม่ได้เป็นข่าวที่ไม่ดีสำหรับภาคสีเขียว พลังงานทดแทนเช่นพลังงานแสงอาทิตย์และลมได้ดังในปี 2011 และ 2012 โดยได้แรงหนุนอาจจะโดยการใช้จ่ายของรัฐบาล.
พวกเขาคิดเป็น 19% ของการผลิตไฟฟ้าทั่วโลกในปี 2011 ซึ่งตามรายงานคือ "ในวงกว้างในการติดตามเพื่อให้ตรงกับสถานการณ์ 2C ในปี 2020" สำหรับ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก.
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าได้สองเท่า (ยังคงเลวทรามต่ำช้า 110,000) ในขณะที่รถไฮบริดได้หักในที่สุดหนึ่งล้านเครื่องหมายการขาย.
แต่เปลี่ยนเรือบรรทุกน้ำมันนี้ (อาจจะให้บริการถ่านหินเป็นคำเปรียบเทียบที่ดีกว่า?) ไม่ได้ไปได้ง่าย.
และ ความพยายามที่จะไม่ได้รับความช่วยเหลือโดยการลงคะแนนเสียงในรัฐสภายุโรปที่ปฏิเสธความพยายามโดยคณะกรรมการจะประคับประคองตลาดคาร์บอนของสหภาพยุโรปไม่สบายมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเจริญเติบโตที่สำคัญในถ่านหินมาจากการพัฒนาเศรษฐกิจ , การบัญชีกับจีน 46% ของอุปสงค์ถ่านหินทั่วโลกใน 2011 .
แต่ไม่ใช่แค่พวกเขา .
ยุโรปภูมิภาคที่ชอบคิดว่าตัวเองเป็นบางที greenest ในโลก ยังเห็นผลตอบแทนให้กับถ่านหินในคู่สุดท้ายของปี ในขณะที่เรากลายเป็นหินน้ำมัน ชาวยุโรปได้อีกครั้งกอดสิ่งของสีดำเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทได้ลดลง .
แต่ก็ไม่ใช่ข่าวร้ายทั้งหมดสำหรับธุรกิจสีเขียว พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม มี boomed ในปี 2011 และ 2012 , บางที แรงหนุนจากการใช้จ่ายของรัฐบาล .
พวกเขาคิดเป็น 19% ของการผลิตไฟฟ้าทั่วโลกในปี 2011 ซึ่งตามรายงาน " กว้างติดตามเพื่อให้ตรงกับสถานการณ์ที่ 2 โดย 2020 " สำหรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก .
ขายรถยนต์ไฟฟ้ามีสองเท่า ( แต่แลกกับเงิน 110 , 000 ) ในขณะที่รถยนต์ไฮบริเสียในที่สุดการขายหนึ่งล้านมาร์ค
แต่เปลี่ยนน้ำมันเรือบรรทุกน้ำมัน ( บางทีถ่านหินใช้คำอุปมา ? ดีกว่า ) มันไม่ง่าย
และความพยายามจะไม่ได้รับความช่วยเหลือ โดยการลงคะแนนเสียงในรัฐสภายุโรปว่า ปฏิเสธความพยายามของคณะกรรมการที่จะประคับประคองไม่สบายมากสหภาพยุโรปตลาดคาร์บอน .