Hi, I’m Joe Weiss, one of the direc

Hi, I’m Joe Weiss, one of the directors of Learn Real English. And today you are going to be learning
Rule Number 5 for Excellent English Speaking. But before I talk about Rule Number 5, I want you to think
back a couple of days to Rule Number 2.

Rule Number 2 is do not study grammar rules. When you study grammar rules, then you think about that
grammar before you speak, and that causes you to hesitate. And you speak much slower and you
understand much slower. So since you learned Rule Number 2, you may have wondered, “Hmm, how
am I going to learn to speak English with correct grammar if I do not learn grammar rules?” Well, that’s
what I am going to be teaching you today.

Okay, so how do we do it? Well, there is a simple, powerful technique. And there is research that shows
that this technique is the best way to learn grammar, the best way to learn English grammar or grammar
for any language. Okay, so what is this technique? Well the technique is called point of view stories, or
sometimes it’s even called point of view mini-stories. Mini means small, so a mini-story is just a short
story.

So Rule Number 5 is use point of view stories. Okay, so now that I’ve told you what the technique is, how
do we use this technique? How do we use point of view stories? Well, first I tell you a story, a mini-story.
Then, second I tell you the same story but this time I change the point of view of the story. So you may
be wondering, what does it mean to change the point of view of the story? Well, one way to change the
point of view of the story is to change the time that the story occurs.

So in the first story, I may tell you that story in the present. Then, in the second story, I tell you the same
story in the past. So that is how I change the point of view. Another way to change the point of view is to
change the person who is actually telling the story or narrating the story. Now, I’ll give you an example of
that later in this video. But one important thing to remember is each time that you change the point of
view of the story, you change the grammar in the story. So each time I tell you the story, I tell you the
same story but you hear different grammar.

Okay, so now that I’ve told you how to use this technique, I think it’s a good idea that we practice. So
let’s practice this technique. So I will tell you a story in the present, right now. Okay, let’s start.
There is a man and his name is John. And John goes to the store and John buys a shirt, and the
shirt is blue. And John pays $20 for the shirt.

Okay, so that is our first story, told in the present. Now your job is easy. You just listen to this story;
listen, listen, and you just try to understand what is happening in the story. And you listen many times,
because we want this information to be stored deeply in your memory. Okay, so how do we use these stories to learn grammar? Well, now I’m going to tell you the story again. Same story, but this time I’m
going to tell you the story in the past. So let’s start the story.

One year ago, there was a man and his name was John. Now John went to the store and John
bought a shirt, and the shirt was blue. And John paid $20 for the shirt.

Okay, so that is the end of the story that I’m telling the second time, in the past this time. Now I want to
tell you that this is just a very simple and short exampl

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สวัสดี ฉันโจ Weiss ผู้รู้จริงภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่ง และวันนี้คุณจะได้เรียนรู้ หมายเลขกฎ 5 สำหรับการพูดภาษาอังกฤษดีเยี่ยม แต่ก่อนที่ฉันพูดคุยเกี่ยวกับกฎหมายเลข 5 ฉันต้องการคุณคิด สองสามวันไปกฎหมายเลข 2 กฎหมายเลข 2 คือทำไม่ศึกษากฎไวยากรณ์ เมื่อคุณศึกษากฎไวยากรณ์ แล้วคุณคิดเกี่ยวกับว่า ไวยากรณ์ก่อนคุณพูด และที่ทำให้คุณลังเล และคุณพูดช้ามาก และคุณ เข้าใจมากช้าลง ดังนั้นนับตั้งแต่ที่คุณได้เรียนรู้กฎหมายเลข 2 คุณอาจสงสัย, " Hmm วิธี ผมจะเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ด้วยไวยากรณ์ที่ถูกต้องถ้าฉันไม่ได้เรียนรู้กฎไวยากรณ์" ดี สิ่งที่ผมจะสอนคุณในวันนี้ โอเค ดังนั้นทำอย่างไร ดี มีเทคนิคง่าย มีประสิทธิภาพ และมีงานวิจัยที่แสดง เทคนิคนี้ว่าการเรียนรู้ไวยากรณ์ ทางการเรียนภาษาอังกฤษไวยากรณ์หรือไวยากรณ์ ภาษาใด โอเค เทคนิคนี้คือ ด้วยเทคนิคเรียกว่ามองเรื่องราว หรือ บางครั้งมันยังเรียกว่ามองมินิเรื่องราว หมายถึงมินิขนาดเล็ก จึงเป็นเรื่องที่เล็ก เพียงสั้น ๆ เรื่องราว ดังนั้น กฎหมายเลข 5 เป็นการใช้มุมมองของเรื่องราว เอาล่ะ ดังนั้นตอนนี้ที่ผมได้บอกเทคนิคอะไร คือ วิธี เราใช้เทคนิคนี้ เราใช้มุมมองของเรื่องราวได้อย่างไร ดี ครั้งแรก ฉันบอกคุณเรื่องราว เรื่องราวมินิ แล้ว สองบอกคุณเรื่องราวเดียวกันแต่เวลานี้เปลี่ยนมุมมองของเรื่องราว ดังนั้น คุณอาจ สงสัยว่า หมาย ความว่าการเปลี่ยนมุมมองของเรื่อง ดี วิธีการหนึ่งเพื่อเปลี่ยนแปลงการ มองเรื่องราวคือการ เปลี่ยนเวลาที่เกิดเรื่อง ดังนั้น ในเรื่องแรก ฉันอาจบอกคุณเรื่องในปัจจุบัน แล้ว ในเรื่องสอง บอกคุณเหมือนกัน เรื่องราวในอดีต เพื่อให้เป็นวิธีเปลี่ยนมุมมอง อีกวิธีการเปลี่ยนมุมมองคือ เปลี่ยนบุคคลที่จริงบอกเรื่อง หรือระหว่าง ตอนนี้ ฉันจะให้ตัวอย่างของ ที่ในวิดีโอนี้ แต่สิ่งสำคัญจำเป็นแต่ละครั้งที่คุณเปลี่ยนแปลงจุดของ มุมมองของเรื่องราว คุณเปลี่ยนไวยากรณ์ในเรื่องนี้ ดังนั้น ทุกครั้งที่ฉันบอกคุณเรื่องราว ผมบอกคุณ เรื่องเดียวกันแต่คุณได้ยินไวยากรณ์ที่แตกต่างกัน โอ ตอนนี้ที่ผมได้บอกวิธีการใช้เทคนิคนี้ ผมคิดว่า มันเป็นการดีที่เราปฏิบัติ ดังนั้น ลองฝึกเทคนิคนี้ ดังนั้น ฉันจะบอกคุณเรื่องราวในปัจจุบัน ขณะนี้ โอเค เริ่มต้น มีชายคนหนึ่ง และชื่อของเขาคือ จอห์น และจอห์นไปจากร้าน และจอห์นซื้อเสื้อ และ เสื้อเป็นสีฟ้า และจอห์นจ่าย $20 สำหรับเสื้อ โอเค เพื่อให้เป็นเรื่องแรกของเรา ในปัจจุบัน ตอนนี้ งานของคุณเป็นเรื่องง่าย คุณเพียงแค่ฟังเรื่องนี้ ฟัง ฟัง และคุณเพียงแค่พยายามที่จะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่อง และคุณฟังหลายครั้ง เพราะเราต้องการข้อมูลนี้จะถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำของคุณอย่างล้ำลึก โอเค ดังนั้นเราใช้เรื่องราวเหล่านี้เพื่อเรียนรู้ไวยากรณ์ ดี ตอนนี้ฉันจะบอกคุณเรื่องราวอีกด้วย เรื่องเดียวกัน แต่ครั้งนี้ผม จะบอกเล่าเรื่องราวในอดีต เริ่มต้นเรื่องราว หนึ่งปีที่ผ่านมา มีคน และชื่อของเขาคือ จอห์น ตอนนี้ จอห์นไปเก็บและจอห์น ซื้อเสื้อ และเสื้อก็สีฟ้า และจอห์นจ่าย $20 เสื้อ โอเค เพื่อให้เป็นจุดสิ้นสุดของเรื่องราวที่ฉันบอกเป็นครั้งที่สอง ในอดีตเวลานี้ ตอนนี้ ฉันต้องการ บอกว่า นี่เป็นเพียงตัวอย่างเรียบง่าย และสั้น exampl

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สวัสดีครับผมโจไวส์เป็นหนึ่งในกรรมการของการเรียนรู้ด้านภาษาอังกฤษ และวันนี้คุณจะได้เรียนรู้
กฎข้อที่ 5 ดีมากภาษาอังกฤษพูด แต่ก่อนที่จะพูดคุยเกี่ยวกับกฎข้อที่ 5 ผมอยากให้คุณคิดว่า
กลับมาสองสามวันเพื่อ Rule จำนวน 2

จำนวนกฎข้อที่ 2 คือไม่ได้เรียนกฎไวยากรณ์ เมื่อคุณศึกษากฎไวยากรณ์แล้วคุณคิดเกี่ยวกับว่า
ไวยากรณ์ก่อนที่คุณจะพูดและที่ทำให้คุณลังเล และคุณพูดช้ากว่ามากและคุณ
เข้าใจช้ามาก ดังนั้นตั้งแต่คุณได้เรียนรู้กฎข้อที่ 2 คุณอาจจะสงสัยว่า "อืมว่า
ฉันจะเรียนรู้ที่จะพูดภาษาอังกฤษโดยใช้ไวยากรณ์ที่ถูกต้องถ้าผมไม่ได้เรียนรู้กฎไวยากรณ์?" ดีว่าเป็น
สิ่งที่ฉันกำลังจะได้รับการเรียนการสอนในวันนี้

เอาล่ะดังนั้นวิธีการที่เราจะทำมันได้หรือไม่ ดีมีที่ง่ายและเทคนิคที่มีประสิทธิภาพ และมีงานวิจัยที่แสดงให้เห็น
ว่าเทคนิคนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะเรียนรู้ไวยากรณ์วิธีที่ดีที่สุดที่จะเรียนรู้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษหรือไวยากรณ์
ภาษาใด ๆ เอาล่ะเพื่อให้สิ่งที่เป็นเทคนิคนี้? ดีเทคนิคที่เรียกว่ามุมมองเรื่องราวหรือ
บางครั้งก็เรียกว่าแม้มุมมองเรื่องมินิ มินิหมายความว่าขนาดเล็กเพื่อมินิเรื่องนี้เป็นเพียงสั้น ๆ
เรื่อง.

ดังนั้นกฎข้อที่ 5 เป็นจุดที่ใช้ในมุมมองของเรื่องราว เอาล่ะตอนนี้ที่ผมเคยบอกคุณว่าเทคนิคคือวิธีที่
เราจะใช้เทคนิคนี้? ทำอย่างไรเราจะใช้มุมมองเรื่องราว? ดีแรกที่ผมบอกคุณเรื่อง, มินิเรื่องราว.
จากนั้นสองที่ผมบอกคุณเรื่องเดียวกัน แต่คราวนี้ฉันจะเปลี่ยนมุมมองของเรื่อง ดังนั้นคุณอาจ
จะสงสัยว่ามันหมายความว่าอะไรที่จะเปลี่ยนมุมมองของเรื่อง? ดีวิธีหนึ่งที่จะเปลี่ยน
มุมมองของเรื่องคือการเปลี่ยนเวลาที่เรื่องที่เกิดขึ้น.

ดังนั้นในเรื่องแรกผมอาจบอกคุณเรื่องที่อยู่ในปัจจุบัน จากนั้นในเรื่องที่สองผมบอกคุณเหมือนเดิม
เรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา เพื่อให้เป็นวิธีที่ผมเปลี่ยนมุมมอง วิธีที่จะเปลี่ยนมุมมองก็คือการ
เปลี่ยนคนที่เป็นจริงที่บอกเล่าเรื่องราวหรือบรรยายเรื่อง ตอนนี้ผมจะให้คุณตัวอย่างของ
ในภายหลังว่าในวิดีโอนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ต้องจำทุกครั้งที่คุณเปลี่ยนจุดของ
มุมมองของเรื่องที่คุณเปลี่ยนไวยากรณ์ในเรื่อง ดังนั้นทุกครั้งที่ผมบอกคุณเรื่องที่ฉันบอกคุณ
เรื่องเดียวกัน แต่คุณได้ยินไวยากรณ์ที่แตกต่างกัน.

เอาล่ะตอนนี้ที่ผมเคยบอกคุณถึงวิธีการใช้เทคนิคนี้ผมคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีที่เราปฏิบัติ ดังนั้น
เรามาฝึกเทคนิคนี้ ดังนั้นผมจะบอกคุณเรื่องราวในปัจจุบันในขณะนี้ เอาล่ะเรามาเริ่มต้น.
มีชายคนหนึ่งและชื่อของเขาคือจอห์น และจอห์นไปที่ร้านและจอห์นซื้อเสื้อและ
เสื้อเป็นสีฟ้า และจอห์นจ่าย $ 20 สำหรับเสื้อ.

เอาล่ะเพื่อให้เป็นเรื่องแรกของเราบอกว่าในปัจจุบัน ตอนนี้งานของคุณเป็นเรื่องง่าย คุณเพียงแค่ฟังเรื่องราวนี้
ฟังฟังและคุณเพียงแค่พยายามที่จะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่อง และคุณฟังหลายครั้ง
เพราะเราต้องการข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บไว้อย่างลึกซึ้งในความทรงจำของคุณ เอาล่ะดังนั้นทำอย่างไรเราจะใช้เรื่องราวเหล่านี้จะเรียนรู้ไวยากรณ์? ดีตอนนี้ฉันจะบอกคุณเรื่องอีกครั้ง เรื่องเดียวกัน แต่คราวนี้ฉัน
จะบอกคุณเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา ดังนั้นขอเริ่มต้นเรื่อง.

หนึ่งปีที่ผ่านมามีชายคนหนึ่งและชื่อของเขาคือจอห์น ตอนนี้จอห์นเดินไปที่ร้านและจอห์น
ซื้อเสื้อและเสื้อเป็นสีฟ้า และจอห์นจ่าย $ 20 สำหรับเสื้อ.

เอาล่ะเพื่อให้เป็นตอนจบของเรื่องที่ฉันบอกเป็นครั้งที่สองในอดีตที่ผ่านมาในครั้งนี้ ตอนนี้ผมอยากจะ
บอกคุณว่านี้เป็นเพียง exampl มากง่ายและสั้น