Pineapple (Ananas comosus) is the m

Pineapple (Ananas comosus) is the most processed tropical fruit generating high quantity of by-products. These by-products represent 25%–35% of the pineapple fruit, being the rind and the core the predominant ones [30]. Pineapple rind and core have a high content of compounds with antioxidant activity, which give them a huge potential concerning their valorization in the cosmetics industry [31]. By using ultra-high performance liquid chromatographic (UHPLC) method, it was determined the presence of eight different carotenoids (α-carotene, β-carotene, β-cryptoxanthin, lutein, lycopene, neoxanthin, violaxanthin and zeaxanthin) and two vitamins (A and E) in the pineapple rind and core, and the effect of Ultraviolet C (UV-C) radiations on these compounds was evaluated [32].
The ultra-violet radiation at a wavelength of 190–280 nm (UV-C) is one of the main sustainable sanitation techniques of fruits, it is an environment friendly technique, relatively inexpensive. It also induces stress in the plant cells, can promote the biosynthesis of carotenoids and vitamin C, and could give an added value to the by-products [33]. On this basis, it was confirmed that the level of L-ascorbic acid in the pineapple rind was higher compared with its level in the whole fruit and it was shown that UV-C radiation increased the L-ascorbic acid content in the rind. It was also established that, among the carotenoids, the most abundant was β-carotene, the carotenoid with the highest pro-vitamin A activity, whose concentration also increased in the rind after UV-C radiation exposure [32].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สับปะรด (Ananas comosus) เป็นการประมวลผลมากที่สุดผลไม้สร้างปริมาณสูงของผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้แสดงถึง 25%-35% ของผลไม้สับปะรด ถูกเปลือกและหลักการเด่นคน [30] เปลือกสับปะรดและหลักมีเนื้อหาสูงของสารประกอบที่มีอนุมูล ซึ่งทำให้พวกเขามีศักยภาพมากเกี่ยวกับ valorization ของพวกเขาในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง [31] โดยใช้วิธีการ (UHPLC) โครมาที่เหลวประสิทธิภาพสูง มันถูกกำหนดสถานะของแปด carotenoids ที่แตกต่างกัน (แคโรที น-α β-แคโรทีน β-ผล ลูทีน ไลโคปีน neoxanthin, violaxanthin และ zeaxanthin) และวิตามินที่สอง (A และ E) ในเปลือกสับปะรดและหลัก และผลของรังสีอัลตราไวโอเลต C (ยู) ในสารเหล่านี้ก็รับประเมิน [32]รังสีไวโอเล็ตที่มีความยาวคลื่นของ 190-280 nm (UV-C) เป็นเทคนิคการสุขาภิบาลอย่างยั่งยืนหลักของผลไม้อย่างใดอย่างหนึ่ง มันเป็นสภาพแวดล้อมเป็นมิตรเทคนิค แพง มันยังก่อให้เกิดความเครียดในเซลล์พืช สามารถส่งเสริมการสังเคราะห์ของ carotenoids และวิตามิน C และทำให้มูลค่าเพิ่มกับผลิตภัณฑ์ [33] ในนี้ มันได้รับการยืนยันว่า ระดับของกรดแอสคอร์บิค-L ในเปลือกสับปะรดได้สูงเมื่อเทียบกับระดับในผลไม้ทั้งหมด และมันแสดงให้เห็นว่า รังสี UV-C เพิ่มขึ้น L-แอสคอร์บิคกรดในเปลือก ยังก่อว่า ใน carotenoids อุดมสมบูรณ์มากที่สุดคือ β-แคโรทีน carotenoid กับโปวิตามิน A สูงกิจกรรม ความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้นในเปลือกหลังจากการสัมผัสรังสี UV-C [32]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สับปะรด (Ananas comosus) เป็นผลไม้เขตร้อนการประมวลผลส่วนใหญ่สร้างปริมาณสูงของโดยผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้โดยเป็นตัวแทน 25% -35% ของผลไม้สับปะรดเป็นเปลือกและแกนคนเด่น [30] เปลือกสับปะรดและแกนมีเนื้อหาสูงของสารประกอบที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ให้พวกเขามีศักยภาพมากเกี่ยวกับ valorization ของพวกเขาในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง [31] โดยการใช้สูงพิเศษโครมา Performance Liquid (UHPLC) วิธีการมันก็ตั้งใจการปรากฏตัวของแปด carotenoids ที่แตกต่างกัน (αแคโรทีนβแคโรทีนβ-cryptoxanthin, ลูทีนไลโคปีน neoxanthin, violaxanthin และซีแซนทีน) และสองวิตามิน (A E) ในเปลือกสับปะรดและหลักและผลของรังสีอัลตราไวโอเลต C (UV-C) รังสีในสารเหล่านี้ได้รับการประเมิน [32].
รังสีอัลตร้าไวโอเลตที่ความยาวคลื่น 190-280 นาโนเมตร (UV-C ก) หนึ่งในเทคนิคการสุขาภิบาลอย่างยั่งยืนหลักของผลไม้ก็เป็นเทคนิคที่เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างแพง นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดความเครียดในเซลล์พืชที่สามารถส่งเสริมการสังเคราะห์ของนอยด์และวิตามินซีและสามารถให้มูลค่าเพิ่มให้โดยผลิตภัณฑ์ [33] บนพื้นฐานนี้ได้รับการยืนยันว่าระดับของกรด L-ซีในเปลือกสับปะรดก็สูงขึ้นเมื่อเทียบกับระดับในทั้งผลไม้และมันก็แสดงให้เห็นว่ารังสียูวี-C เพิ่มขึ้นปริมาณกรด L-ซีในเปลือก มันก็ยังเป็นที่ยอมรับว่าหมู่ carotenoids ที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดคือβแคโรทีนที่มี carotenoid สูงสุดโปรวิตามินกิจกรรมที่มีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นในเปลือกหลังจากการสัมผัสรังสียูวี-C [32]