Pregnancy for a teenager can be a p

Pregnancy for a teenager can be a philosophical event with long term implications for the young mother, father, family, and friends. Pregnancy is the state of being pregnant; the period from conception to birth when a woman carries a developing fetus in her uterus. http://wordnetweb.princeton.edu/perl/webwn?s=pregnancy. Thus, teenage pregnancy is the period between ages 13 to 19 when a teenager gets pregnant. For this research, the researcher will look at children between the ages of 13 to 17 years old, in an effort of heightening awareness on pregnancy.

Jamaica, like many other countries has an overwhelming amount of teenage pregnancy. This has caused children to stop attending school until the child is born, and in many instances, they forfeit the opportunity in completing their secondary education. They are more likely to obtain inadequate prenatal care, have inadequate nutrition, increased pregnancy complications, sexually transmitted diseases and higher risk of low birth weight.

Santrock (2008) states that teenage pregnancy creates health risks for both the baby and the mother. He went on to say that infants born to teen mothers are more likely to have low birth weights, a prominent factor in infant mortality, as well as neurological problems and childhood illness. They often drop out of school, some of them will resume their education, however, they do not generally catch up economically with women who postpone childbearing until their twenties. The consequences of an early, unplanned pregnancy place the teenage mother at a distinct disadvantage in her attempts to achieve economic security. Based on the Child Care and Protection Act of 2004, a child must attend school and be given an education whether she become pregnant or not. However, social and cultural taboos make it very difficult for a girl to remain in school during her pregnancy.

Teens do not always have good support systems, parenting knowledge and skills and coping mechanisms to deal with stress. Teen mothers are less likely to finish high school leading to lower paying jobs and limited job skills; they are more likely to be financially dependent upon family and eventually on assistance programmes that are provided by the government such as the Programme of Advancement Through Health and Education (PATH).

Teenage mothers face rejection by family and friends. They face parental anger, ridicule from community members, and abandonment by their children’s fathers. At times, teenage mothers who leave school are not prepared for parenting and as such, poverty often pushes mothers into transactional sexual relationships. Oftentimes, this is carried out with multiple partners to obtain resources necessary to support their children and themselves. This further increases the mother’s vulnerability to exploitation and domestic violence as well as child abuse.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตั้งครรภ์ในวัยรุ่นสามารถเหตุการณ์ปรัชญากับผลระยะยาวสำหรับแม่สาว พ่อ ครอบครัว และเพื่อน เป็นสถานะของการตั้งครรภ์ ระยะเวลาจากความคิดเกิดเมื่อผู้หญิงความอ่อนพัฒนาในมดลูกของเธอ http://wordnetweb.princeton.edu/perl/webwn?s=pregnancy ดังนั้น ตั้งครรภ์วัยรุ่นคือ ช่วงอายุ 13-19 เมื่อวัยรุ่นได้รับการตั้งครรภ์ สำหรับงานวิจัยนี้ นักวิจัยจะมองเด็กระหว่างอายุ 13-17 ปี ในความพยายามของท่านความรู้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ประเทศจาเมกา เช่นประเทศอื่น ๆ มีผลครอบงำวัยรุ่นตั้งครรภ์ นี้เกิดเด็กหยุดเข้าโรงเรียนจนกระทั่งเด็กคลอดออกมา และในหลายกรณี พวกเขาลูกจ้างโอกาสในการจบการศึกษา พวกเขามีแนวโน้มที่จะได้รับการดูแลก่อนคลอดไม่เพียงพอ มีโภชนาการที่ไม่เพียงพอ ภาวะแทรกซ้อนการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และความเสี่ยงสูงต่ำเกิดน้ำหนักSantrock อเมริกา (2008) ว่า ตั้งครรภ์วัยรุ่นสร้างความเสี่ยงต่อสุขภาพทารกและมารดา เขาก็จะบอกว่า ทารกมารดาวัยรุ่นมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักต่ำเกิด ปัจจัยโดดเด่นในการ ตายของทารก ตลอดจนปัญหาระบบประสาท และเด็กเจ็บป่วย พวกเขามักจะหล่นออกจากโรงเรียน บางส่วนของพวกเขาจะกลับมาศึกษา อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ทั่วทันกาญจน์ผู้หญิงเลื่อน childbearing จนยี่ของพวกเขา ผลของการตั้งครรภ์ก่อนกำหนด ไม่ได้วางแผนทำแม่วัยรุ่นที่เสียเปรียบที่แตกต่างกันในความพยายามของเธอเพื่อให้บรรลุความปลอดภัยทางเศรษฐกิจ ขึ้นอยู่กับการดูแลเด็กและพระราชบัญญัติป้องกัน 2004 เด็กต้องเข้าเรียนในโรงเรียน และได้รับการศึกษาไม่ว่า เธอจะตั้งครรภ์ หรือไม่ อย่างไรก็ตาม taboos สังคม และวัฒนธรรมทำให้ยากสำหรับสาวยังคงอยู่ในโรงเรียนในระหว่างตั้งครรภ์ของเธอวัยรุ่นไม่มีระบบสนับสนุนดี นี่ความรู้ และทักษะ และกลไกรับมือจัดการกับความเครียดตลอดเวลา มารดาวัยรุ่นมีแนวโน้มจะจบมัธยมนำไปสู่ลดชำระเงินงานและทักษะงานจำกัด พวกเขามีแนวโน้มที่จะขึ้นอยู่ทางการเงิน ตามครอบครัว และในที่สุด ในโครงการความช่วยเหลือที่ได้รับจากรัฐบาลเช่นโครงการความก้าวหน้าทางสุขภาพและการศึกษา (เส้นทาง)มารดาวัยรุ่นเผชิญกับครอบครัวและเพื่อนปฏิเสธ พวกเขาเผชิญกับความโกรธผู้ปกครอง ล้อเลียนจากสมาชิกชุมชน และ abandonment โดยบิดาของเด็ก ตลอดเวลา มารดาวัยรุ่นที่ออกจากโรงเรียนจะไม่เตรียมไป แล้วเช่น ความยากจนมักจะผลักดันแม่ลงในทรานแซคชันมีเพศสัมพันธ์ อาจเกิด นี้จะดำเนินการ ด้วยหลายคู่จะได้รับทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนลูก ๆ และตัวเอง นี้เพิ่มความเสี่ยงของแม่เอารัดเอาเปรียบ และความรุนแรงในครอบครัว รวมทั้งการละเมิดสิทธิเด็กเพิ่มเติม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การตั้งครรภ์สำหรับวัยรุ่นสามารถเป็นเหตุการณ์ที่นักปรัชญาที่มีผลกระทบในระยะยาวสำหรับคุณแม่ยังสาวพ่อของครอบครัวและเพื่อน ๆ การตั้งครรภ์เป็นสภาวะของการตั้งครรภ์; ระยะเวลาจากแนวความคิดไปสู่การเกิดเมื่อผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มลูกอ่อนในครรภ์กำลังพัฒนาในมดลูกของเธอ http://wordnetweb.princeton.edu/perl/webwn?s=pregnancy ดังนั้นวัยรุ่นตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่อายุระหว่าง 13-19 เมื่อวัยรุ่นได้รับการตั้งครรภ์ สำหรับการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยจะมองไปที่เด็กอายุระหว่าง 13-17 ปีเก่าในความพยายามของความสูงความตระหนักเกี่ยวกับการตั้งครรภ์. จาเมกาเหมือนหลาย ๆ ประเทศมีจำนวนเงินที่ครอบงำของการตั้งครรภ์วัยรุ่น นี้ได้ก่อให้เกิดเด็กที่จะหยุดเรียนโรงเรียนจนกว่าเด็กคนนี้เกิดมาและในหลาย ๆ กรณีที่พวกเขาสูญเสียโอกาสในการจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย พวกเขามีแนวโน้มที่จะได้รับการดูแลก่อนคลอดไม่เพียงพอได้สารอาหารที่ไม่เพียงพอเพิ่มขึ้นภาวะแทรกซ้อนการตั้งครรภ์, โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และความเสี่ยงที่สูงขึ้นของน้ำหนักแรกเกิดต่ำ. Santrock (2008) ระบุว่าการตั้งครรภ์วัยรุ่นสร้างความเสี่ยงต่อสุขภาพสำหรับทั้งเด็กและแม่ เขากล่าวต่อไปว่าว่าทารกที่เกิดจากมารดาวัยรุ่นมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักแรกเกิดต่ำเป็นปัจจัยสำคัญในการตายของทารกเช่นเดียวกับปัญหาทางระบบประสาทและการเจ็บป่วยในวัยเด็ก พวกเขามักจะออกจากโรงเรียนบางส่วนของพวกเขาจะกลับมาทำงานการศึกษาของพวกเขา แต่พวกเขาไม่ได้โดยทั่วไปจับขึ้นทางเศรษฐกิจกับผู้หญิงที่คลอดบุตรเลื่อนจนกว่ายี่สิบของพวกเขา ผลของการเริ่มต้นการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้วางแผนวางแม่วัยรุ่นที่เสียเปรียบที่แตกต่างกันในความพยายามของเธอเพื่อให้บรรลุความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ตามพระราชบัญญัติการดูแลและคุ้มครองเด็กของปี 2004 เด็กต้องเข้าเรียนในโรงเรียนและได้รับการศึกษาไม่ว่าเธอจะตั้งครรภ์หรือไม่ อย่างไรก็ตามข้อห้ามทางสังคมและวัฒนธรรมทำให้มันยากมากสำหรับเด็กผู้หญิงที่จะอยู่ในโรงเรียนในช่วงการตั้งครรภ์ของเธอ. วัยรุ่นไม่เคยมีระบบสนับสนุนที่ดี, ความรู้และทักษะในการเลี้ยงดูและกลไกการเผชิญปัญหาในการจัดการกับความเครียด แม่วัยรุ่นมีโอกาสน้อยที่จะเสร็จสิ้นการโรงเรียนมัธยมนำไปสู่การลดค่าจ้างและทักษะในการทำงาน จำกัด พวกเขามีแนวโน้มที่จะเป็นทางการเงินขึ้นอยู่กับครอบครัวและในที่สุดโครงการความช่วยเหลือที่ให้ไว้โดยรัฐบาลเช่นโครงการของความก้าวหน้าผ่านสุขภาพและการศึกษา (PATH). แม่วัยรุ่นต้องเผชิญกับการถูกปฏิเสธจากคนในครอบครัวและเพื่อน ๆ พวกเขาต้องเผชิญกับความโกรธของผู้ปกครองเยาะเย้ยจากสมาชิกในชุมชนและละทิ้งโดยพ่อของเด็ก ในบางครั้งคุณแม่วัยรุ่นที่ออกจากโรงเรียนไม่ได้เตรียมไว้สำหรับการอบรมเลี้ยงดูและเป็นเช่นความยากจนมักจะผลักดันให้คุณแม่เข้าไปในความสัมพันธ์ทางเพศในการทำธุรกรรม บ่อยครั้งนี้จะดำเนินการกับคนหลาย ๆ คนที่จะได้รับทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนเด็กของพวกเขาและตัวเอง ต่อไปนี้จะเพิ่มช่องโหว่ของแม่ที่จะแสวงหาผลประโยชน์และความรุนแรงในครอบครัวเช่นเดียวกับการล่วงละเมิดเด็ก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นสามารถเป็นเหตุการณ์ที่เป็นปรัชญาที่มีความหมายในระยะยาวสำหรับสาว แม่ พ่อ ครอบครัว และเพื่อนๆ การตั้งครรภ์คือ สถานะของการตั้งครรภ์ ช่วงจากความคิดที่จะเกิดเมื่อผู้หญิงมีการพัฒนาตัวอ่อนในมดลูกของเธอ http://wordnetweb.princeton.edu/perl/webwn ? S = ตั้งครรภ์ ดังนั้นการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นคือช่วงระหว่างอายุ 13 กับ 19 เมื่อวัยรุ่นตั้งท้อง การวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยจะดูเด็กอายุระหว่าง 13 ถึง 17 ปี ในความพยายามของระดับความสูงความตระหนักในการตั้งครรภ์ .

จาไมก้า เหมือนประเทศอื่น ๆมีจำนวนครอบงำของการตั้งครรภ์วัยรุ่น นี้ได้ทำให้เด็กหยุดเรียน จนกว่าเด็กจะเกิดและในหลายกรณีพวกเขาสูญเสียโอกาสในการจบการศึกษาระดับมัธยม . พวกเขามีแนวโน้มที่จะได้รับการดูแลก่อนคลอดไม่เพียงพอ มีภาวะโภชนาการไม่เพียงพอ ทำให้ภาวะแทรกซ้อนการตั้งครรภ์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และความเสี่ยงสูงของทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อย

santrock ( 2551 ) ระบุว่า การตั้งครรภ์ของวัยรุ่น สร้างความเสี่ยงต่อสุขภาพทั้งเด็กและแม่เขาก็จะบอกว่า ทารกที่เกิดจากมารดาวัยรุ่นมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักแรกคลอดต่ำ ปัจจัยเด่นในการตายของทารก ตลอดจนปัญหาทางระบบประสาทและการเจ็บป่วยในวัยเด็ก พวกเขามักจะออกจากโรงเรียน บางส่วนของพวกเขาต่อการศึกษาของพวกเขา อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้มักจะจับขึ้นทางเศรษฐกิจกับผู้หญิงที่มีการคลอดบุตร เลื่อนจนอายุยี่สิบกว่าๆน่ะผลของต้นแม่วัยรุ่น , การตั้งครรภ์ที่ไม่ได้วางแผน เสียเปรียบแตกต่างกันในความพยายามของเธอที่จะบรรลุความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ขึ้นอยู่กับการดูแลเด็ก และพระราชบัญญัติคุ้มครองของปี 2004 ที่เด็กต้องไปโรงเรียนและได้รับการศึกษา ไม่ว่าเธอจะตั้งครรภ์หรือไม่ อย่างไรก็ตามข้อห้ามทางสังคมวัฒนธรรมและทำให้มันยากมากสำหรับผู้หญิงที่จะอยู่ในโรงเรียนในระหว่างการตั้งครรภ์ของเธอ

วัยรุ่นไม่เสมอที่ดีสนับสนุนระบบ การอบรมความรู้และทักษะ และกลไกการเผชิญปัญหาในการจัดการกับความเครียด มารดาวัยรุ่นมีโอกาสน้อยที่จะเสร็จสิ้นโรงเรียนมัธยมชั้นนำลดจ่ายงาน และทักษะในงานกัดพวกเขามีแนวโน้มที่จะได้รับเงินขึ้นอยู่กับครอบครัวและในที่สุดสนับสนุนโครงการที่ให้โดยรัฐบาล เช่น โครงการของความก้าวหน้าทางสุขภาพและการศึกษา ( เส้นทาง ) .

แม่วัยรุ่นหน้าปฏิเสธโดยครอบครัวและเพื่อน พวกเขาเผชิญหน้ากับความโกรธของพ่อแม่ เยาะเย้ยจากสมาชิกในชุมชน และการถูกทอดทิ้งโดยบิดาของเด็ก ครั้งมารดาวัยรุ่นที่ออกจากโรงเรียนไม่ได้เตรียมสำหรับการอบรมเลี้ยงดูและเป็นเช่นความยากจนมักจะผลักมารดาในการสัมพันธ์ทางเพศ บ่อยครั้งนี้ดำเนินการกับพันธมิตรหลายที่จะได้รับทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนเด็กของพวกเขาและตัวเอง นี้การเพิ่มขึ้นของแม่สิ้นการเอารัดเอาเปรียบ และความรุนแรงในครอบครัว ตลอดจนเด็กและเยาวชน