Disorders of glucose metabolism, na

Disorders of glucose metabolism, namely glucose intolerance and diabetes, are frequent in patients with chronic liver diseases. In patients with cirrhosis, diabetes can be either a classical type 2 diabetes mellitus or the so-called hepatogenous diabetes, i.e. a consequence of liver insufficiency and portal hypertension. This review article provides an overview of the possible pathophysiological mechanisms explaining diabetes in patients with cirrhosis. Cirrhosis is associated with portosystemic shunts as well as reduced hepatic mass, which can both impair insulin clearance by the liver, contributing to peripheral insulin resistance through insulin receptors down-regulation. Moreover, cirrhosis is associated with increased levels of advanced-glycation-end products and hypoxia-inducible-factors, which may play a role in the development of diabetes. This review also focuses on the clinical implications of diabetes in patients with cirrhosis. First, diabetes is an independent factor for poor prognosis in patients with cirrhosis. Specifically, diabetes is associated with the occurrence of major complications of cirrhosis, including ascites and renal dysfunction, hepatic encephalopathy and bacterial infections. Diabetes is also associated with an increased risk of hepatocellular carcinoma in patients with chronic liver diseases. Last, the management of patients with concurrent diabetes and liver disease is also addressed. Recent findings suggest a beneficial impact of metformin in patients with chronic liver diseases. Insulin is often required in patients with advanced cirrhosis. However, the favourable impact of controlling diabetes in patients with cirrhosis has not been demonstrated yet.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความผิดปกติของการเผาผลาญกลูโคส คือการแพ้น้ำตาลกลูโคสและโรคเบาหวาน เป็นประจำในผู้ป่วยโรคตับเรื้อรัง ในผู้ป่วยโรคตับแข็ง โรคเบาหวานได้คลาสสิกชนิดที่ 2 เบาหวานหรือโรคเบาหวานเรียกว่า hepatogenous กล่าวคือเป็นผลมาจากตับไม่เพียงพอและความดันโลหิตสูงพอร์ทัล บทความรีวิวนี้แสดงภาพรวมของกลไก pathophysiological ได้อธิบายโรคเบาหวานในผู้ป่วยที่มีตับแข็ง โรคตับแข็งที่สัมพันธ์กับ portosystemic สับ เป็นลดมวลตับ ซึ่งทั้งสองสามารถทำพิธีการอินซูลิน โดยตับ เอื้อต่อการต้านทานอินซูลินต่อพ่วงผ่านตัวรับอินซูลินลงระเบียบ นอกจากนี้ โรคตับแข็งที่สัมพันธ์กับระดับที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ขั้นสูงกระบวนสิ้น และกรณี-inducible-ปัจจัย ซึ่งอาจมีบทบาทในการพัฒนาของโรคเบาหวาน รีวิวนี้ยังเน้นในผลกระทบทางคลินิกของโรคเบาหวานในผู้ป่วยที่มีตับแข็ง ครั้งแรก โรคเบาหวานเป็นปัจจัยอิสระสำหรับการคาดคะเนที่ไม่ดีในผู้ป่วยโรคตับแข็ง เฉพาะ โรคเบาหวานเกี่ยวข้องกับการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของโรคตับแข็ง เช่นท้องมาน encephalopathy ตับไตความผิดปกติ และติดเชื้อแบคทีเรีย ยังเชื่อมโยงกับความเสี่ยงของมะเร็งเซลล์ตับในผู้ป่วยโรคตับเรื้อรังโรคเบาหวานอยู่ ล่าสุด การบริหารจัดการของผู้ป่วยโรคตับและโรคเบาหวานที่เกิดขึ้นพร้อมกันยังแก้ไขได้ เมื่อเร็ว ๆ นี้แนะนำมีผลกระทบต่อประโยชน์ของเมตฟอร์มินในผู้ป่วยโรคตับเรื้อรัง มักต้องการอินซูลินในผู้ป่วยโรคตับแข็งขั้นสูง อย่างไรก็ตาม ผลกระทบของการควบคุมโรคเบาหวานในผู้ป่วยโรคตับแข็งดีได้ไม่ได้แสดงให้เห็นยัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความผิดปกติของการเผาผลาญกลูโคสคือแพ้น้ำตาลกลูโคสและโรคเบาหวานบ่อยในผู้ป่วยที่มีโรคตับเรื้อรัง ในผู้ป่วยที่มีโรคตับแข็งโรคเบาหวานสามารถเป็นได้ทั้งคลาสสิกเบาหวานชนิดที่ 2 หรือที่เรียกว่าโรคเบาหวาน hepatogenous คือผลของการไม่เพียงพอตับและความดันโลหิตสูงพอร์ทัล บทความรีวิวนี้ให้ภาพรวมของกลไกที่เป็นไปได้ pathophysiological อธิบายโรคเบาหวานในผู้ป่วยที่มีโรคตับแข็ง โรคตับแข็งมีความเกี่ยวข้องกับดาษดื่น portosystemic เช่นเดียวกับการลดมวลตับซึ่งทั้งสองสามารถทำให้เสียบอลอินซูลินโดยตับที่เอื้อต่อการต้านทานต่ออินซูลินต่อพ่วงผ่านตัวรับอินซูลินกฎระเบียบลง นอกจากนี้โรคตับแข็งมีความสัมพันธ์กับระดับที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ขั้นสูง glycation-end และขาดออกซิเจน-inducible ปัจจัยที่อาจมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาของโรคเบาหวาน รีวิวนี้ยังมุ่งเน้นไปที่ผลกระทบทางคลินิกของโรคเบาหวานในผู้ป่วยที่มีโรคตับแข็ง ครั้งแรกที่เป็นโรคเบาหวานเป็นปัจจัยอิสระที่ใช้สำหรับการพยากรณ์โรคที่ไม่ดีในผู้ป่วยที่มีโรคตับแข็ง โดยเฉพาะโรคเบาหวานมีความเกี่ยวข้องกับการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของโรคตับแข็งรวมทั้งน้ำในช่องท้องและความผิดปกติของไต encephalopathy ตับและการติดเชื้อแบคทีเรีย โรคเบาหวานนอกจากนี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคมะเร็งตับในผู้ป่วยที่มีโรคตับเรื้อรัง ที่ผ่านมาการบริหารจัดการของผู้ป่วยที่มีโรคเบาหวานพร้อมกันและโรคตับยังเป็น addressed ผลการวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นผลกระทบที่เป็นประโยชน์ของยา metformin ในผู้ป่วยที่มีโรคตับเรื้อรัง อินซูลินมักจะจำเป็นต้องใช้ในผู้ป่วยที่มีโรคตับแข็งขั้นสูง อย่างไรก็ตามผลกระทบที่ดีของผู้ป่วยโรคเบาหวานควบคุมในผู้ป่วยที่มีโรคตับแข็งยังไม่ได้รับการพิสูจน์เลย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความผิดปกติของการเผาผลาญกลูโคส คือน้ำตาลและเกิดโรคเบาหวาน บ่อยในผู้ป่วยโรคตับเรื้อรัง ในผู้ป่วยโรคตับแข็ง โรคเบาหวาน สามารถเป็นได้ทั้งคลาสสิก เบาหวานชนิดที่ 2 หรือที่เรียกว่า เบาหวาน hepatogenous คือผลพวงขององค์กรพอร์ทัลและตับ ความดันโลหิตสูง บทความรีวิวนี้จะให้ภาพรวมของความเป็นไปได้พยาธิสรีรวิทยากลไกอธิบายโรคเบาหวาน ในผู้ป่วยโรคตับแข็ง โรคตับแข็งร่วมด้วย portosystemic ด้ รวมทั้งลดขนาดมวล ซึ่งทั้งสองสามารถบั่นทอนประสิทธิภาพของอินซูลินกวาดล้างโดยตับ เกิดอินซูลินต้านทานต่อพ่วงผ่านตัวรับอินซูลิน down-regulation . นอกจากนี้ โรคตับแข็ง เกี่ยวข้องกับระดับที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ที่สิ้นสุด glycation ขั้นสูง และสังคม inducible ปัจจัยซึ่งอาจมีบทบาทในการพัฒนาของโรคเบาหวาน รีวิวนี้ยังมุ่งเน้นผลกระทบทางคลินิกเบาหวานในผู้ป่วยโรคตับแข็ง แรก , โรคเบาหวานเป็นปัจจัยอิสระ จนอาการในผู้ป่วยโรคตับแข็ง โดยเฉพาะโรคเบาหวานมีความสัมพันธ์กับการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของโรคตับแข็ง รวมถึงในท้องและความผิดปกติจากไต , ตับ และการติดเชื้อแบคทีเรีย โรคเบาหวานคือยังเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งตับในผู้ป่วยโรคตับเรื้อรัง ล่าสุด การจัดการของผู้ป่วยโรคเบาหวาน และโรคตับ โดยยังระบุ ล่าสุดพบว่าผลประโยชน์ของโลหะในผู้ป่วยโรคตับเรื้อรัง อินซูลินมักจะต้องในผู้ป่วยตับแข็ง ขั้นสูง อย่างไรก็ตาม จากผลกระทบของการควบคุมโรคเบาหวานในผู้ป่วยตับแข็ง ไม่ได้แสดงให้เห็นเลย