It is shown from Table 1 that biodr

It is shown from Table 1 that biodrying and RDF with heat generation scenario has the highest GHG mitigating potential of -85.2 kg CO2 eq. ton–1 cassava pulp treated followed by anaerobic digestion with electricity recovery of -83.1 kg CO2 eq. ton–1 cassava pulp treated.
Landfill sub-model with flaring options has the highest GHG impact (28.7 kg CO2 eq. ton–1 cassava pulp).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มันจะแสดงจากตารางที่ 1 ที่ biodrying และ RDF ด้วยความร้อนสร้างสถานการณ์ก๊าซเรือนกระจกสูงสุดที่บรรเทาศักยภาพของกากมันสำปะหลัง-85.2 kg CO2 eq. ตัน – 1 ถือตาม ด้วยอังกฤษด้วยไฟฟ้าการกู้คืน-83.1 กก.มี CO2 eq. เยื่อมันสำปะหลังตัน – 1 ที่รับการรักษา วูบวาบตัวเลือกรุ่นย่อยฝังกลบมีผลกระทบเรือนกระจกสูง (28.7 กิโลกรัม CO2 eq. เยื่อมันสำปะหลังตัน – 1)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันแสดงให้เห็นจากตารางที่ 1 ที่ biodrying และ RDF กับสถานการณ์ที่เกิดความร้อนมีก๊าซเรือนกระจกสูงสุดบรรเทาศักยภาพของ -85.2 กก. EQ CO2 เยื่อตัน-1 มันสำปะหลังรับการรักษาตามด้วยการเติมออกซิเจนกับการฟื้นตัวของการผลิตไฟฟ้า -83.1 EQ CO2 กก. ตัน-1 มันสำปะหลังอ้อยได้รับการรักษา.
ฝังกลบรุ่นย่อยที่มีตัวเลือกวูบวาบมีผลกระทบก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด (28.7 กก. CO2 EQ. ตัน-1 มันสำปะหลังอ้อย)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากตารางที่ 1 จะแสดง biodrying RDF กับสถานการณ์และสร้างความร้อนได้สูงสุด การลด GHG ศักยภาพ - 85.2 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ 1 ตัน–อีคิว มันสำปะหลัง ปฏิบัติตาม โดยย่อยไร้อากาศกับการกู้คืนไฟฟ้า - 83.1 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ 1 ตัน–อีคิว มันสำปะหลัง การรักษารุ่นย่อยขยะกับวูบวาบตัวเลือกมีผลกระทบก๊าซเรือนกระจกสูงสุด ( 28.7 กิโลกรัม CO2 อีคิว 1 ตัน ( มันสำปะหลัง )