Like a good social scientist, I dev

Like a good social scientist, I developed a theory to explain this behaviour. I call it the 'hug or hit' rule of social engagement. This rule states that Sydneysiders (and possibly all Australians) feel that we have the right to interact with strangers if we feel like it, and the obligation to respond if people interact with us. We feel that we should be able to treat each other as intimate friends, even if we have never met before in our lives.

However, we also feel that we have the right to reprimand other people if they don't behave in accordance with our social rules. In other words, our claim to intimacy makes us social and antisocial at the same time.

The English have exactly the opposite rule. Indeed, not only should you never talk to strangers; you aren't even allowed to give away the most basic information to people you meet in private. Standing next to a stranger at a party?

You can talk about the weather as a way to break the ice, but don't dare to offer your name, or ask the other person what they do for a living.

In her hilarious book 'Watching the English', Kate Fox explains that if you want to get to know someone, you must trick them into giving you information by asking indirect questions. 'Nosey parker' is the worst insult that someone can throw at you.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เช่นนักวิทยาศาสตร์สังคมดี ฉันพัฒนาทฤษฎีเพื่ออธิบายพฤติกรรมนี้ ผมเรียกว่ากฎ 'กอด หรือตี' ของสังคมมีส่วนร่วม กฎนี้ระบุว่า Sydneysiders (และอาจจะทั้งออสเตรเลีย) รู้สึกว่า เรามีสิทธิที่จะโต้ตอบกับคนแปลกหน้าถ้าเรารู้สึกเหมือนมัน และหน้าที่ในการตอบสนองถ้า ท่านโต้ตอบกับเรา เรารู้สึกว่า เราควรจะปฏิบัติต่อกันเป็นพวกเดียวกัน แม้ว่าเราไม่เคยมีตามก่อนในชีวิตอย่างไรก็ตาม เรายังรู้สึกว่า เรามีสิทธิ์ที่จะตำหนิคนอื่น ๆ ถ้าพวกเขาไม่ทำตามกฎของสังคม ในคำอื่น ๆ เรียกร้องเราสนิทสนมทำให้สังคม และต่อต้านสังคมในเวลาเดียวกันภาษาอังกฤษมีกฎที่ตรงข้ามอย่างแน่นอน แน่นอน ไม่ควรคุณไม่เคยพูดคุยกับคนแปลกหน้า คุณไม่สามารถแม้แต่จะให้ไปที่ขั้นพื้นฐานข้อมูลกับคนที่คุณพบแบบส่วนตัว ยืนอยู่ถัดจากคนแปลกหน้าในงานปาร์ตี้คุณสามารถพูดคุยเกี่ยวกับสภาพอากาศเป็นวิธีการทำลายน้ำแข็ง แต่ไม่กล้าที่จะเสนอชื่อของคุณ หรือถามคนอื่น ๆ ว่า พวกเขาทำสำหรับชีวิตในเธอเฮฮาจอง 'ดูภาษาอังกฤษ' สุนัขจิ้งจอก Kate อธิบายว่า ถ้าคุณต้องการได้รับรู้ผู้อื่น คุณต้องหลอกให้พวกเขาให้ข้อมูลโดยถามคำถามทางอ้อม 'Nosey ปาร์กเกอร์' จะดูถูกที่แย่ที่สุดที่คนสามารถโยนที่คุณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เช่นเดียวกับนักวิทยาศาสตร์ทางสังคมที่ดีผมได้พัฒนาทฤษฎีเพื่ออธิบายพฤติกรรมนี้ ผมเรียกมันว่า 'กอดหรือกด' กฎของการมีส่วนร่วมทางสังคม กฎข้อนี้ระบุว่าซิดนีย์ (และอาจออสเตรเลียทั้งหมด) รู้สึกว่าเรามีสิทธิที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าถ้าเรารู้สึกว่ามันและภาระผูกพันที่จะตอบสนองถ้าคนมีปฏิสัมพันธ์กับเรา เรารู้สึกว่าเราควรจะสามารถที่จะปฏิบัติต่อกันในฐานะเพื่อนที่ใกล้ชิดแม้ว่าเราไม่เคยพบมาก่อนในชีวิตของเรา. แต่เรายังรู้สึกว่าเรามีสิทธิที่จะตำหนิคนอื่น ๆ หากพวกเขาไม่ได้ทำงานในสอดคล้องกับของเรา ระเบียบสังคม ในคำอื่น ๆ เรียกร้องของเราที่จะทำให้เราใกล้ชิดสังคมและสังคมในเวลาเดียวกัน. ภาษาอังกฤษได้ว่ากฎตรงข้าม อันที่จริงไม่ควรที่คุณไม่เคยพูดคุยกับคนแปลกหน้า; คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ไปข้อมูลพื้นฐานมากที่สุดเพื่อคนที่คุณพบในภาคเอกชน ยืนอยู่ข้างคนแปลกหน้าในงานปาร์ตี้? คุณสามารถพูดคุยเกี่ยวกับสภาพอากาศเป็นวิธีที่จะทำลายน้ำแข็ง แต่ไม่กล้าที่จะนำเสนอชื่อของคุณหรือถามคนอื่น ๆ สิ่งที่พวกเขาทำเพื่อชีวิต. ในหนังสือเฮฮาของเธอ ดูภาษาอังกฤษ 'เคทฟ็อกซ์อธิบายว่าถ้าคุณต้องการที่จะได้รับรู้ว่าคนที่คุณต้องหลอกให้ผู้ให้ข้อมูลโดยการถามคำถามทางอ้อม 'กลิ่นปาร์กเกอร์' คือดูถูกที่เลวร้ายที่สุดที่จะสามารถโยนที่คุณ