Wat Racha Burana at par with Wat Ph

Wat Racha Burana at par with Wat Phra Ram, Wat Phutthai Sawan and Wat Maha
That, followed the Khmer concept of temple construction, and are as thus very similar
to each other. We find nearly identical, but earlier built structures at Angkor. Phnom
Bakheng, Preah Rup, East Mebon, Baphuon and Ta Keo were all Temple Mountains,
consisting of a central tower surrounded by four corner towers, forming a quincunx; the
latter also often was surrounded by a courtyard and a gallery. All temples in the early
period of the establishment of Ayutthaya were Khmer styled, consisting primary of
laterite structures and bricks, enhanced with stucco.

Wat Racha Burana was initially built as a basic quincunx surrounded by a covered
gallery. At a later stage the monastic structure was expanded with a vihara and ubosot in
an east-west axis. The vihara became partly incorporated into the gallery, while the
ordination hall stood isolated on the western side. The monastery was surrounded by
water, a symbolic representation of the oceans surrounding Mount Meru (represented by
the prang). The complex faced Khlong Pratu Khao Pluak to its east and another Lopburi
oxbow shortcut canal to the west (name not known by author).

Only the walls and foundations remain of the royal vihara. The main entry was in the east,
leading to an elevated porch. The structure could also be accessed by different entries on
the sides. The walls were windowless, having vertical slit openings, bringing ventilation
and providing at the same time a diffused light into the inside. The vihara had a wooden
multi-tiered roof structure, which collapsed (burned down). The eaves were supported
by pillars with a lotus motif. [6]

The ubosot or ordination hall stood in the west, isolated from the gallery. The hall was
accessed via an elevated porch. There were two entries in the west and two in the rear,
one on each lateral side.

The prang of Wat Racha Burana was still in fairly good condition and could be restored.
The prang, representing the cosmic Mount Meru, is located in the middle of the ancient
compound and is built on an indented pedestal protruding towards the north and south,
resulting in a wing-like formation, which was characteristic for prangs of the early
Ayutthaya period. The “cella” or central small hall inside the prang containing the crypt,
can be accessed through a porch directed towards the east, by climbing the steep stairs
leading to the entry of the porch. The prang has three staircases on the east, north and
south side. Over the cubic “cella” rises the central tower, the bud-shaped prang. The
“cella” housed a Buddha image. On the lowest level of the top-part of the prang are
decorated Garuda and Naga sculptures still visible.

The two-level crypt under the cella can be reached via a narrow staircase built in 1958
by the FAD. It is warm inside the crypt and the descent is not recommended for people
with claustrophobia. The upper chamber is a three meter square room with nearly faded
murals depicting Chinese people. Some Chinese characters can still be recognized. The
lower cell is so small that only a single person can enter at a time. The murals here are
still fairly visible, depicting Buddha with his disciples, trees and birds and some floral art
work. Some parts of the pictures were gilded. The badly restored ceiling bears also large
tracts of paint.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัดราชาราษฎร์บูรณะที่เท่าเทียมกันวัดพระราม วัด Phutthai นครสวรรค์ และวัดมหาธาตุ ตามแนวคิดเขมรก่อสร้างวัด และเป็นคล้ายกันมาก กัน เราพบว่าเกือบเหมือนกัน แต่ก่อนสร้างโครงสร้างที่อังกอร์ พนมเปญ แหล่ง เปรห์ชานพัก ปราสาทแม่ บุญตะวันออก Baphuon และ แก้วตาได้ทุกวัดภูเขา ประกอบด้วยศูนย์กลางอาคารล้อมรอบ ด้วยสี่มุมเสา ขึ้นรูป quincunx ที่ หลังมักถูกล้อมรอบ ด้วยลานหญ้าและเก็บรูป วัดทั้งหมดในช่วง รอบระยะเวลาของการก่อตั้งกรุงศรีอยุธยาถูกเขมรสไตล์ ประกอบด้วยหลักของ โครงสร้างศิลาแลงและอิฐ ด้วยลวดลายปูนปั้นเริ่มสร้างราษฎร์บูรณะวัดราชาเป็น quincunx พื้นฐานที่ล้อมรอบ ด้วยความครอบคลุม แกลเลอรี่ ใช้ โครงสร้างสงฆ์ถูกขยาย มีวิหารและอุโบสถใน แกนตะวันออกตะวันตก เจดีย์วิหารเป็นบางส่วนรวมอยู่ในเก็บ ขณะ อุโบสถยืนแยกทางด้านการ อารามถูกล้อมรอบด้วย น้ำ ตัวแทนสัญลักษณ์ของมหาสมุทรที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุ (แสดงโดย ปราง) ซับซ้อนกับคลองประตูเขาปลวกของตะวันออกและลพบุรีอีก คลองลัด oxbow ไปทางตะวันตก (ชื่อไม่ทราบ โดยผู้เขียน)ผนังและฐานรากอยู่ของวิหารหลวง รายการหลักอยู่ในภาคตะวันออก นำไปสู่ระเบียงยกระดับ โครงสร้างอาจยังสามารถเข้าถึง โดยรายการต่าง ๆ ด้านข้าง ผนังไม่การมีหน้าต่าง การมีช่องร่องแนวตั้ง นำระบาย และให้บริการในเวลาเดียวกันไฟแต่เป็นภายใน วิหารที่มีเป็นไม้ หลายชั้นโครงสร้างหลังคา ที่ยุบ (เขียนลง) ชายคาบ้านได้รับการสนับสนุน โดยเสาหลักกับแปลนโลตัส [6]ศาลาอุโบสถหรือบวชอยู่ในตะวันตก แยกต่างหากจากเก็บ มีห้องโถง เข้าทางระเบียงยกระดับ มีสองรายการในตะวันตกและในด้านหลัง หนึ่งในแต่ละด้านด้านข้างปรางของราษฎร์บูรณะวัดราชายังอยู่ในสภาพค่อนข้างดี และสามารถคืนค่า ปราง แทนเขาจักรวาลพระสุเมรุ อยู่กลางโบราณ ผสม และจะเน้นเชิงการเยื้องเขยินไปทางเหนือและใต้ เกิดก่อตัวเหมือนปีก ซึ่งมีลักษณะสำหรับศรีอยุธยาของช่วง กรุงศรีอยุธยา "Cella" หรือหอประชุมเล็กศูนย์กลางภายในปรางประกอบด้วย crypt สามารถเข้าถึงผ่านทางระเบียงตรงไปทางตะวันออก โดยปีนบันไดสูงชัน นำรายการของระเบียง ปรางมีบันไดสามภาคตะวันออก ภาคเหนือ และ ด้านใต้ กว่าลูกบาศก์ "cella" ขึ้นทาวเวอร์เซ็นทรัล ปรางดอกตูมรูป ที่ "cella" ห้องพักพระพุทธรูป ในส่วนด้านบนของปรางระดับต่ำที่สุด Garuda ตกแต่งและพญานาครูปปั้นยังมองเห็นCrypt สองชั้นภายใต้ cella สามารถเข้าถึงได้ผ่านทางแคบใน 1958 โดยบูรณะ มันอบอุ่นภายใน crypt และโคตรไม่แนะนำสำหรับคน กับ claustrophobia ห้องด้านบนเป็นห้องพักสามเมตรสี่เหลี่ยมมีสีจางลงเกือบ ภาพจิตรกรรมที่แสดงให้เห็นถึงคนจีน บางตัวอักษรจีนสามารถยังคงได้รับการรับรอง ที่ เซลล์ด้านล่างมีขนาดเล็กที่สามารถป้อนเพียงคนเดียวที่ มีภาพจิตรกรรมที่นี่ ยังค่อนข้างมองเห็นได้ แสดงพระสาวก ต้นไม้ และนกบางศิลปะดอกไม้ ทำงาน บางส่วนของรูปภาพได้ gilded เพดานไม่คืนหมียังใหญ่ รามิดสี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัดราชาบูรณะที่ตราไว้กับวัดพระรามวัด Phutthai นครสวรรค์และวัดมหาธาตุ
ที่ตามแนวคิดเขมรของการก่อสร้างพระวิหารและเป็นจึงคล้าย
กับแต่ละอื่น ๆ เราพบเกือบเหมือนกัน แต่โครงสร้างที่สร้างขึ้นก่อนหน้านี้ที่อังกอร์ พนม
บาเค็ง, พระรูปตะวันออก Mebon, บาปวนและตาแก้วล้วนเทือกเขาวัด
ประกอบด้วยหอคอยกลางล้อมรอบด้วยสี่เสามุมไว้ quincunx;
หลังก็มักจะถูกล้อมรอบด้วยสวนขนาดใหญ่และแกลเลอรี่ ทุกวัดในช่วง
ระยะเวลาของการสถาปนาอยุธยาถูกเขมรสไตล์ประกอบด้วยหลักของ
โครงสร้างศิลาแลงและอิฐเพิ่มขึ้นด้วยปูนปั้น. วัดราชาบูรณะแรกถูกสร้างขึ้นเป็น quincunx พื้นฐานล้อมรอบด้วยปกคลุมแกลเลอรี่ ในระยะต่อมาโครงสร้างสงฆ์ถูกขยายด้วยวิหารและพระอุโบสถในแกนตะวันออกตะวันตก วิหารกลายเป็น บริษัท ส่วนหนึ่งเป็นแกลลอรี่ในขณะที่อุโบสถยืนโดดเดี่ยวบนฝั่งตะวันตก วัดถูกล้อมรอบด้วยน้ำแทนสัญลักษณ์ของมหาสมุทรที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุ (แสดงโดยพระปรางค์) ที่ซับซ้อนที่ต้องเผชิญกับคลองประดู่อำเภอเขาไปทางทิศตะวันออกและอีกลพบุรีของoxbow คลองลัดไปทางทิศตะวันตก (ชื่อไม่เป็นที่รู้จักโดยผู้เขียน). เพียงผนังและฐานรากยังคงอยู่ในวิหารหลวง รายการหลักอยู่ในทิศตะวันออกที่นำไปสู่ระเบียงสูง โครงสร้างยังสามารถเข้าถึงได้โดยรายการที่แตกต่างในด้าน ผนังเป็นหน้าต่างที่มีการเปิดช่องแนวตั้งนำการระบายอากาศและการให้ในเวลาเดียวกันแสงพร่าเข้าไปภายใน วิหารมีไม้โครงหลังคาหลายชั้นซึ่งทรุดตัวลง (ไฟไหม้) ชายคาได้รับการสนับสนุนโดยเสาที่มีลักษณะเด่นบัว [6] ห้องโถงพระอุโบสถหรือบวชยืนอยู่ในทางทิศตะวันตกที่แยกได้จากแกลเลอรี่ ฮอลล์ได้รับการเข้าถึงได้ผ่านทางระเบียงสูง มีอยู่สองรายการในทางทิศตะวันตกและสองในด้านหลังหนึ่งในแต่ละด้านข้าง. ปรางค์วัดราชาบูรณะยังคงอยู่ในสภาพที่ดีอย่างเป็นธรรมและจะได้รับการบูรณะ. ปรางค์เป็นตัวแทนของจักรวาลเขาพระสุเมรุตั้งอยู่ตรงกลาง โบราณของสารประกอบและถูกสร้างขึ้นบนฐานเว้า ๆ แหว่ง ๆ ยื่นออกมาไปทางทิศเหนือและทิศใต้ที่เกิดขึ้นในการก่อปีกเหมือนซึ่งเป็นลักษณะของปรางค์ต้นสมัยอยุธยา "ขื่อ" หรือห้องโถงกลางขนาดเล็กภายในพระปรางค์ที่มีห้องใต้ดินที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านระเบียงกำกับไปทางทิศตะวันออกโดยการปีนบันไดสูงชันที่นำไปสู่การเข้ามาของระเบียง พระปรางค์สามมีบันไดอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและด้านทิศใต้ กว่าลูกบาศก์ "ขื่อ" ขึ้นหอคอยกลาง, ปรางค์ตารูป "ขื่อ" ตั้งพระพุทธรูป ในระดับต่ำสุดของด้านบนส่วนหนึ่งของพระปรางค์ที่มีการตกแต่งรูปปั้นครุฑนาคและยังมองเห็น. ห้องใต้ดินสองระดับภายใต้ขื่อสามารถเข้าถึงได้ผ่านทางบันไดแคบ ๆ ที่สร้างขึ้นในปี 1958 โดย FAD มันอบอุ่นภายในห้องใต้ดินและโคตรจะไม่แนะนำสำหรับคนที่มีความทึบ ห้องชั้นบนเป็นห้องสี่เหลี่ยมสามเมตรพร้อมจางหายไปเกือบภาพจิตรกรรมฝาผนังภาพวาดคนจีน บางตัวอักษรจีนยังสามารถได้รับการยอมรับ เซลล์ที่ต่ำกว่าขนาดเล็กที่เป็นเพียงคนเดียวสามารถใส่ได้ตลอดเวลา ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่นี่เป็นยังมองเห็นได้อย่างเป็นธรรม, ภาพวาดพระพุทธรูปกับพวกสาวกของต้นไม้และนกและดอกไม้บางศิลปะการทำงาน บางส่วนของภาพที่ได้รับการปิดทอง เรียกคืนไม่ดีหมีเพดานขนาดใหญ่ยังสถานที่ของสี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัดราชาบูรณะที่ตราไว้กับวัดพระราม วัดพุทไธ รรย์ และวัดมหา
นั้น ตามแนวคิดของการก่อสร้างวัดเขมร และจะเป็นดังนั้นที่คล้ายกันมาก
กับแต่ละอื่น ๆ เราพบเกือบเหมือนกัน แต่ก่อนหน้านี้สร้างโครงสร้างที่อังกอร์ พนมบาแค็ง 
, รูป , ตะวันออกและ mebon ปราสาทตาพรหม , ตาแก้วมีภูเขาวัดทั้งหมด
ประกอบด้วยหอคอยกลางล้อมรอบด้วยสี่มุม หอคอยรูป quincunx ;
หลังยังมักจะถูกล้อมรอบด้วยสนามหญ้าและแกลเลอรี่ ทุกวัดในช่วงแรกของการก่อตั้งอยุธยาอยู่

สไตล์เขมร ประกอบหลักของโครงสร้างศิลาแลงและอิฐ เพิ่มรสชาติด้วยปูนปั้น

วัดราชาบูรณะได้เริ่มสร้างเป็นพื้นฐาน quincunx ล้อมรอบปกคลุม
Galleryในขั้นตอนต่อมา สงฆ์โครงสร้างถูกขยายด้วยวิหารและอุโบสถใน
เป็นแกนตะวันออก - ตะวันตก . วิหารเป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งในแกลลอรี่ ในขณะที่
พระอุโบสถวัดพระแก้วยืนแยกฝั่งตะวันตก วัดล้อมรอบไปด้วย
น้ำ การแสดงสัญลักษณ์ของมหาสมุทรที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุ ( แสดงโดย
พระปรางค์ )ซับซ้อนเผชิญคลองประตูเขาปลวกไปทางตะวันออกและอีกลพบุรี
Oxbow ทางลัดคลองไปทางทิศตะวันตก ( ชื่อที่รู้จักกันโดยผู้เขียน )

เพียงผนังและฐานรากยังคงอยู่ในวิหารหลวง รายการหลักในตะวันออก
าไปที่ระเบียงสูง โครงสร้างที่สามารถเข้าถึงได้ โดยรายการต่าง ๆบน
ด้านข้าง ผนังหน้าต่าง มีช่องเปิดช่องแนวตั้งนำการระบายอากาศ
และให้ในเวลาเดียวกันแสงกระจายเข้าไปข้างใน วิหารมีหลังคาโครงสร้างไม้
หลายฉัตรซึ่งยุบ ( เผา ) ชายคาได้รับการสนับสนุน
โดยเสากับบัวแม่ลาย . [ 6 ]

อุโบสถอยู่ในตะวันตก ที่แยกได้จากแกลเลอรี่ ศาลา
เข้าถึงผ่านทางระเบียงสูงมี 2 รายการในเวสต์และสองในด้านหลัง ด้านข้างด้านหนึ่งคน


มีพระปรางค์วัดราชา เนื่องจากยังอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างดี และสามารถเรียกคืน
ปรางค์ เป็นตัวแทน เมรุ ภูเขาจักรวาล ตั้งอยู่ในกลางของสารประกอบโบราณ
และถูกสร้างขึ้นบนแท่นที่ยื่นต่อเยื้องเหนือและใต้ ,
ส่งผลให้ปีกการก่อตัวซึ่งเป็นลักษณะของวิหารแห่งกรุงศรีอยุธยาก่อน

" เซลล่า " หรือกลางหอประชุมเล็ก ภายในปรางค์ที่มีใต้ดิน
สามารถเข้าถึงได้ผ่านทางระเบียงมุ่งไปตะวันออก โดยการปีนบันไดสูงชัน
นำไปสู่รายการของระเบียง พระปรางค์มีสามบันไดทางทิศตะวันออก ทิศเหนือ และทิศใต้
. กว่าลูกบาศก์ " เซลล่า " โผล่กลางหอคอยดอกตูม รูปทรงปรางค์ .
" เซลล่า " ตั้งพระพุทธรูป ในระดับต่ำสุดของส่วนยอดของปรางค์เป็นครุฑและนาค
ตกแต่งประติมากรรมที่มองเห็นยัง

ทั้งสองระดับใต้ดินใต้เซลลาสามารถเข้าถึงได้ผ่านทางบันไดแคบ ๆที่สร้างขึ้นใน 1958
โดยแฟชั่น . มันอบอุ่นอยู่ภายในห้องใต้ดิน และโคตรไม่แนะนำสำหรับคน
กับโรคกลัวที่แคบชั้นบนเป็นห้องที่มีสามตารางเมตรเกือบจาง
จิตรกรรมฝาผนังภาพวาดของชาวจีน บางตัวละครจีนยังได้รับการยอมรับ เซลล์ลด
มีขนาดเล็กเพียงคนเดียวที่สามารถใส่ในเวลา จิตรกรรมฝาผนังที่นี่
ยังคงค่อนข้างเห็นภาพพระพุทธเจ้า กับสาวกของพระองค์ ต้นไม้และนกและดอกไม้ศิลปะ
งาน บางส่วนของภาพปิดทองวันเลวคืนหมียังเพดานขนาดใหญ่
ผืนสี