Under Louisiana climatic conditions

Under Louisiana climatic conditions, production of sugarcane (Saccharum spp.) is limited to
a maximum growth period of nine months. To increase sucrose concentration in the crop,
ripener is applied prior to harvest. The chemical ripeners, glyphosate and trinexapac-ethyl were
applied to the sugarcane cultivars HoCP 96-540, L 99-226, L 99-233, HoCP 00-950, and L 01-
283 eight weeks prior to harvest. When glyphosate was applied at 210 g ae/ha, TRS for the
cultivars was increased 10 to 28% compared with the nontreated. Increases in TRS with
glyphosate were greatest for HoCP 96-540 and L 99-226 and least for HoCP 00-950 and L 01-
283. Trinexapac-ethyl at 350 g ai/ha increased TRS for the cultivars 7 to 10% and increases were
greatest for L 99-233 and least for HoCP 00-950. Sugarcane yield averaged across cultivars was
reduced 9% with glyphosate and 7% for trinexapac-ethyl at 350 g/ha. An increase in sugar yield
per hectare, a function of TRS and sugarcane yield, was observed only when glyphosate was
applied to HoCP 96-540 (16% increase) and when trinexapac-ethyl at 300 g ai/ha was applied to
L 01-283 (13% increase). In a second study where eight cultivars were harvested six weeks after
glyphosate application, TRS for HoCP 96-540 was increased an average of 10% compared with
the nontreated and sugarcane yield was decreased 17%; sugar yield was not affected.
In another study, sugarcane yield, TRS, and sugar yield were not affected by nitrogen rates of
67, 112, and 157 kg/ha. Six weeks after application of glyphosate at 210 g/ha TRS averaged
across N rates was 11% greater than the nontreated and 9% greater than when trinexapac-ethyl
was applied at 350 g/ha. TRS following trinexapac-ethyl was equivalent to the nontreated.
Sugarcane yield and sugar yield were not affected by ripener application. In a separate study
TRS and sugar yield were not affected when glyphosate or trinexapac-ethyl was applied in 75
and 150 L/ha spray volume or when none or 0.25% v/v surfactant was added to the spray
viii
solution. Averaged across spray volume and surfactant treatments, TRS was as much as 8%
greater for glyphosate compared with trinexapac-ethyl.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภายใต้สภาพหลุยส์เซียนา ผลิตของอ้อย) ถูกจำกัดระยะเจริญเติบโตสูงสุดของเก้าเดือน เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของน้ำตาลซูโครสในพืชripener ถูกนำมาใช้ก่อนการเก็บเกี่ยว Ripeners เคมี ไกลโฟเสต และ trinexapac-เอทิลใช้กับอ้อย HoCP 96-540, 226 L 99, L 99-233, HoCP 00-950 และ L 01-283 แปดสัปดาห์ก่อนการเก็บเกี่ยว เมื่อใช้ไกลโฟเสตที่ 210 กรัม ae/ฮา, TRS สำหรับการสายพันธุ์คือ 10 เพิ่มขึ้นถึง 28% เมื่อเทียบกับที่ nontreated TRS มีเพิ่มขึ้นไกลโฟเสตถูกสุด 540 HoCP 96 และ L 99-226 และน้อยที่สุดสำหรับ HoCP 00 950 และ 01 L-283. Trinexapac-เอทิลที่ 350 กรัม ai/ฮา เพิ่ม TRS สำหรับพันธุ์ 7-10% และเพิ่มขึ้นได้มากที่สุด L 99 233 และน้อยที่สุดสำหรับ HoCP 00-950 ผลผลิตอ้อยเฉลี่ยข้ามสายพันธุ์ได้ลดลง 9% ด้วยไกลโฟเสตและ 7% สำหรับ trinexapac-เอทิล ที่ 350 กรัม/ฮา การเพิ่มขึ้นของผลผลิตน้ำตาลต่อตารางเมตร ฟังก์ชั่นของ TRS และอ้อยผลผลิต พบว่า เฉพาะ เมื่อไกลโฟเสตได้ใช้กับ HoCP 96-540 (เพิ่มขึ้น 16%) และเมื่อใช้ trinexapac-เอทิลที่ 300 g ai/ฮาL 01-283 (เพิ่มขึ้น 13%) ในการศึกษาสองพันธุ์แปดมาหวงหกสัปดาห์หลังจากที่ประยุกต์ใช้ไกลโฟเสต TRS สำหรับ HoCP 96-540 เพิ่ม เฉลี่ย 10% เมื่อเทียบกับผลผลิตอ้อยและ nontreated ถูกลดลง 17% ไม่มีผลผลผลิตน้ำตาลในการศึกษาอื่น ผลผลิตอ้อย TRS และผลผลิตน้ำตาลไม่ถูกกระทบจากไนโตรเจนอัตรา67, 112 และ 157 กิโลกรัม/ฮา หกสัปดาห์หลังจากการประยุกต์ของไกลโฟเสต ที่ 210 กรัม/ฮา TRS เฉลี่ยข้าม N ราคาถูกมากกว่าที่ nontreated 11% และ 9% มากกว่าเมื่อ trinexapac-เอทิลถูกนำไปใช้ ที่ 350 กรัม/ฮา ต่อ trinexapac-เอทิล TRS ถูกเทียบเท่ากับการ nontreatedผลผลิตอ้อยและผลผลิตน้ำตาลไม่ถูกกระทบจากแอพลิเคชัน ripener ในการศึกษาแยกผลผลิตน้ำตาลและ TRS ได้รับผลกระทบเมื่อใช้ไกลโฟเสตหรือเอทิล trinexapac ใน 75และ 150 L/ฮา สเปรย์ปริมาตรหรือ เมื่อไม่มี หรือมีเพิ่ม 0.25% v/v ชุดการสเปรย์viiiการแก้ปัญหา เฉลี่ยทั่วปริมาตรและสารทำความสะอาดบำบัด TRS เป็นมากถึง 8%มากขึ้นสำหรับเปรียบเทียบกับ trinexapac-เอทิลไกลโฟเสต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภายใต้หลุยเซียสภาพภูมิอากาศการผลิตอ้อย (Saccharum spp.) จะถูก จำกัด
ระยะเวลาการเจริญเติบโตสูงสุดของเก้าเดือน เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของน้ำตาลซูโครสในการเพาะปลูกที่
บ่มถูกนำไปใช้ก่อนที่จะมีการเก็บเกี่ยว ripeners เคมี glyphosate และ trinexapac เอทิลถูก
นำไปใช้กับพันธุ์อ้อย HoCP 96-540, 99-226 L, L 99-233, 00-950 HoCP และ L 01-
283 แปดสัปดาห์ก่อนการเก็บเกี่ยว เมื่อถูกนำมาใช้ glyphosate ที่ 210 กรัม AE / เฮกแต TRS สำหรับ
พันธุ์เพิ่มขึ้น 10-28% เมื่อเทียบกับ nontreated การเพิ่มขึ้นของ TRS กับ
glyphosate เป็นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับ HoCP 96-540 และ 99-226 L และอย่างน้อยสำหรับ HoCP 00-950 และ L 01-
283 Trinexapac เอทิลที่ 350 กรัมสารออกฤทธิ์ / ไร่เพิ่มขึ้น TRS สำหรับสายพันธุ์ที่ 7 ถึง 10% และเพิ่มขึ้นเป็น
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับ L 99-233 และอย่างน้อยสำหรับ HoCP 00-950 เพิ่มผลผลิตอ้อยเฉลี่ยทั่วพันธุ์ได้รับการ
ลดลง 9% กับ glyphosate และ 7% สำหรับ trinexapac เอทิลที่ 350 กรัม / ไร่ การเพิ่มขึ้นของผลผลิตน้ำตาล
ต่อเฮกตาร์เป็นหน้าที่ของ TRS และผลผลิตอ้อยพบว่าเฉพาะเมื่อ glyphosate ถูก
นำไปใช้กับ HoCP 96-540 (16% เพิ่มขึ้น) และเมื่อ trinexapac เอทิลที่ 300 กรัมสารออกฤทธิ์ / ไร่ถูกนำไปใช้
L 01- 283 (13% เพิ่มขึ้น) ในการศึกษาที่สองที่แปดพันธุ์เก็บเกี่ยวหกสัปดาห์หลังจากที่
แอพลิเคชัน glyphosate, TRS สำหรับ HoCP 96-540 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% เมื่อเทียบกับ
อัตราผลตอบแทน nontreated และอ้อยลดลง 17%; ผลผลิตน้ำตาลไม่ได้รับผลกระทบ.
ในการศึกษาอื่นเพิ่มผลผลิตอ้อย, TRS และผลผลิตน้ำตาลไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราไนโตรเจนของ
67, 112 และ 157 กก. / ไร่ หกสัปดาห์หลังจากการประยุกต์ใช้ glyphosate ที่ 210 กรัม / ไร่ TRS เฉลี่ย
ทั่วอัตรา N 11% มากกว่า nontreated และ 9% สูงกว่าเมื่อ trinexapac เอทิล
ถูกนำมาใช้ที่ 350 กรัม / ไร่ TRS ต่อไป trinexapac เอทิลเป็นเทียบเท่ากับ nontreated.
เพิ่มผลผลิตอ้อยและผลผลิตน้ำตาลไม่ได้รับผลกระทบจากการประยุกต์ใช้การบ่ม ในการศึกษาแยกต่างหาก
TRS และผลผลิตน้ำตาลไม่ได้รับผลกระทบเมื่อ glyphosate หรือ trinexapac เอทิลถูกนำไปใช้ใน 75
และ 150 ลิตร / ไร่ปริมาณการฉีดพ่นหรือเมื่อไม่มีหรือ 0.25% v / V ลดแรงตึงผิวถูกบันทึกอยู่ในสเปรย์
VIII
วิธีการแก้ปัญหา เฉลี่ยทั่วปริมาณการฉีดพ่นและการรักษาลดแรงตึงผิว, TRS เป็นมากที่สุดเท่าที่ 8%
มากขึ้นสำหรับ glyphosate เมื่อเทียบกับ trinexapac เอทิล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภายใต้เงื่อนไขของภูมิอากาศ การผลิตอ้อย ( อ้อย spp . ) จํากัดมีการเจริญเติบโตสูงสุด ระยะเวลา 9 เดือน เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของน้ำตาลซูโครสในพืชripener ใช้ก่อนการเก็บเกี่ยว สารเคมีและสาร ripeners trinexapac ) , เอธิลใช้กับพันธุ์อ้อย hocp 96-540 ผม 99-226 ผม 99-233 hocp 00-950 , 01 - , และผม283 แปดสัปดาห์ก่อนเก็บเกี่ยว เมื่อใช้สารที่ 210 กรัม เอ / ha TRS สำหรับพันธุ์จะเพิ่มขึ้น 10 ถึง 28 % เมื่อเทียบกับไม่มี . เพิ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคมด้วยประสิทธิภาพมีมากที่สุดสำหรับ hocp 96-540 และฉัน 99-226 และอย่างน้อยสำหรับ hocp 00-950 01 - และฉัน283 . trinexapac เอทิลที่ 350 g ai / ha TRS สำหรับพันธุ์ 7 เพิ่มขึ้น 10% และเพิ่มคือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผม 99-233 และอย่างน้อยสำหรับ hocp 00-950 . ผลผลิตอ้อยเฉลี่ยในพันธุ์คือลดลง 9% และ 7% สำหรับ trinexapac ด้วยสารเอทิลที่ 350 g / ha การเพิ่มผลผลิตน้ำตาลต่อเฮกตาร์ ผลผลิตอ้อยของ TRS ฟังก์ชันและพบว่าเมื่อสารถูก ,ใช้กับ hocp 96-540 ( 16 % เพิ่ม ) และเมื่อ trinexapac เอทิล 300 g ai / ha ใช้ผม 01-283 ( 13 % เพิ่ม ) ในการศึกษาที่สองที่แปดพันธุ์ 6 สัปดาห์หลังจากเก็บเกี่ยวประสิทธิภาพการ hocp TRS สำหรับ 96-540 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% เมื่อเทียบกับและที่ไม่มีผลผลิตอ้อยลดลง 17 % ; ผลผลิตน้ำตาลก็ไม่ได้รับผลกระทบในการศึกษาอื่น อ้อยผลผลิต , TRS และผลผลิตน้ำตาลไม่มีผลต่ออัตราของไนโตรเจน67 , 112 , และ 157 กก. / เฮกตาร์ หกสัปดาห์หลังจากการใช้ glyphosate อัตราเฉลี่ย 210 g / ha ซิ่นข้าม N อัตรา 11 % มากกว่าไม่มีและ 9 % มากกว่าเมื่อ trinexapac เอธิลเป็นการประยุกต์ที่ 350 g / ha ต่อไปนี้ trinexapac TRS เอทิลคือเทียบเท่ากับไม่มี .ผลผลิตอ้อย และผลผลิตน้ำตาลไม่ได้รับผลกระทบจาก ripener ใบสมัคร ในการศึกษาที่แยกต่างหากในเดือนกรกฎาคม และผลผลิตน้ำตาลไม่ได้รับผลกระทบเมื่อเสทหรือ trinexapac เอทานอลที่ใช้ในรายการและ 150 ลิตร / ฮาสเปรย์ปริมาณ หรือเมื่อไม่มี หรือ 0.25 % v / v สารลดแรงตึงผิวถูกเพิ่มเข้าไป สเปรย์8โซลูชั่น เฉลี่ยในสเปรย์และรักษาปริมาณสารลดแรงตึงผิว , TRS คือเท่า 8 %มากขึ้นสำหรับประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับ trinexapac เอทิล .