As Portuguese Macau, it was adminis

As Portuguese Macau, it was administered by the Portuguese Empire and its inheritor states from the mid-16th century until late 1999, when it was the last remaining European colony in Asia under Portugal.[9][10] Portuguese traders first settled in Macau in the 1550s. In 1557, Macau was rented to Portugal from Ming China as a trading port. The Portuguese Empire administered the city under Chinese authority and sovereignty until 1887, when Macau became a colony. Sovereignty over Macau was transferred to China on 20 December 1999. The Joint Declaration on the Question of Macau and Macau Basic Law stipulate that Macau operate with a high degree of autonomy until at least 2049, fifty years after the transfer.[11]

Under the policy of "one country, two systems", the State Council of the People's Republic of China is responsible for military defense and foreign affairs while Macau maintains its own legal system, the public security force, monetary system, customs policy, and immigration policy. Macau participates in many international organizations and events that do not require members to possess national sovereignty.[11][12]

Macau is one of the world's richest cities, and as of 2013 its GDP per capita by purchasing power parity is higher than that of any country in the world, according to the World Bank.[13][14] It became the world's largest gambling centre in 2006,[15] with the economy heavily dependent on gambling and tourism, as well as manufacturing. Cantonese people from Hong Kong and Guangdong, in addition to the recent mainland tourism from Mandarin-speaking regions, have boosted the economy of Macau significantly. According to The World Factbook, Macau has the second highest life expectancy in the world.[16] Moreover, it is one of only a few regions in Asia with a "very high Human Development Index", ranking 14th as of 2013.[6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นมาเก๊าโปรตุเกส มันถูกจัดการ โดยจักรวรรดิโปรตุเกสและของอเมริกา inheritor จากศตวรรษ 16 กลางจนปลายปี 1999 เมื่อมันเป็นที่สุดท้ายเหลือยุโรปอาณานิคมเอเชียใต้โปรตุเกส [9] [10] ค้าก่อนตัดสินในมาเก๊าใน 1550s ใน 1557 มาเก๊าถูกเช่าไปโปรตุเกสจากจีนหมิงเป็นท่าเรือการค้า จักรวรรดิโปรตุเกสจัดการเมืองภายใต้อำนาจจีนและอธิปไตยจน 1887 เมื่อมาเก๊าเป็น อาณานิคมที่ อำนาจอธิปไตยเหนือมาเก๊ามีการโอนย้ายไปยังประเทศจีนเมื่อวันที่ 20 2542 ธันวาคม แถลงการณ์ในคำถามของมาเก๊าและกฎหมายพื้นฐานของมาเก๊า stipulate ว่า มาเก๊ามี มีอิสระในระดับสูงจนถึงที่ 2049 ห้าสิบปีหลังจากการโอนย้าย [11]ภายใต้นโยบาย "หนึ่งประเทศ สองระบบ" สภารัฐของสาธารณรัฐประชาชนจีนรับผิดชอบการป้องกันทางทหารและกิจการต่างประเทศในขณะที่มาเก๊ารักษากฎหมายของตัวเอง หน่วยรักษาความปลอดภัยสาธารณะ ระบบเงิน นโยบายศุลกากร และนโยบายการตรวจคนเข้าเมือง มาเก๊าเข้าร่วมในองค์กรระหว่างประเทศและเหตุการณ์ที่ไม่ต้องการให้มีอำนาจอธิปไตยแห่งชาติสมาชิก [11] [12]มาเก๊าเป็นเมืองที่รวยที่สุดในโลกอย่างใดอย่างหนึ่ง และ ณปี 2013 ของ GDP ต่อหัว โดยเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อจะสูงกว่าของประเทศใดในโลก ตามธนาคารโลก [13] [14] ได้กลายเป็นศูนย์ในปี 2549, [15] กับเศรษฐกิจมากขึ้นอยู่กับการพนันและการท่องเที่ยวการพนัน ตลอดจนการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก คนกวางตุ้งจาก Hong Kong และกวางตุ้ง นอกเหนือจากการท่องเที่ยวแผ่นดินใหญ่ล่าสุดจากภูมิภาค พูดจีนกลางได้ประจำเศรษฐกิจของมาเก๊าอย่างมาก ตามโลก Factbook มาเก๊าได้ที่สองสูงสุดอายุขัยในโลก [16] นอกจากนี้ มันเป็นหนึ่งในเพียงไม่กี่ภูมิภาคในเอเชียด้วยการ "สูงมากดัชนีการพัฒนามนุษย์" อันดับ 14 ณ 2013 [6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นโปรตุเกสมาเก๊า มันถูกปกครองโดยจักรวรรดิโปรตุเกสและรัฐผู้รับมรดกจากศตวรรษที่ mid-16th จนถึงปลายปี 1999 เมื่อมันเหลือยุโรปอาณานิคมในเอเชียภายใต้โปรตุเกส [ 9 ] [ 10 ] โปรตุเกสผู้ตั้งถิ่นฐานในมาเก๊าในคริสต์ทศวรรษ 1530 . ใน 1 , มาเก๊าถูกเช่าโดยโปรตุเกสจากเมืองจีนเป็น พอร์ตเทรดดิ้งจักรวรรดิโปรตุเกสและเมืองภายใต้อำนาจของจีนและอธิปไตยจนกว่า 1887 เมื่อมาเก๊าเป็นอาณานิคม อำนาจอธิปไตยเหนือมาเก๊าได้ย้ายไปยังประเทศจีน เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 1999 ร่วมประกาศในคำถามของมาเก๊าและมาเก๊าพื้นฐานกฎหมายกำหนดว่า มาเก๊า ใช้กับระดับสูงของเอกราชจนถึงอย่างน้อย 2049 ห้าสิบปีหลังจากโอน [ 11 ]

ภายใต้นโยบาย " หนึ่งประเทศ สองระบบ " โดยสภาแห่งรัฐของสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นผู้รับผิดชอบในกิจการป้องกันประเทศและต่างประเทศทหารในขณะที่มาเก๊าระบบรักษากฎหมายของตัวเอง , การรักษาความปลอดภัยระบบศุลกากรบังคับ นโยบายการเงิน และนโยบายตรวจคนเข้าเมืองมาเก๊ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศและหลายเหตุการณ์ที่ไม่ต้องมีสมาชิกยึดครองอธิปไตยของชาติ . [ 11 ] [ 12 ]

มาเก๊า เป็นหนึ่งของโลกที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองและเป็น 2013 ของ GDP ต่อหัว โดยความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อสูงกว่าของประเทศใดในโลก , ตามที่ธนาคารทั่วโลก [ 13 ] [ 14 ] มันกลายเป็นศูนย์กลางการพนันที่ใหญ่ที่สุดของโลกในปี 2549[ 15 ] กับเศรษฐกิจต้องพึ่งพาการพนัน และการท่องเที่ยว รวมทั้งการผลิต คนกวางตุ้งจากฮ่องกงและมณฑลกวางตุ้ง นอกจากนี้ล่าสุดจากแผ่นดินใหญ่การท่องเที่ยวภูมิภาคพูดภาษาจีนกลางได้ประกอบการเศรษฐกิจของมาเก๊าได้อย่างมีนัยสำคัญ ตามโลก Factbook มาเก๊า มีความคาดหวังในชีวิตที่สองสูงสุดในโลก . [ 16 ] นอกจากนี้มันเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่ในภูมิภาคเอเชียด้วย " ดัชนีการพัฒนามนุษย์สูงมาก อันดับที่ 14 ของปี 2013 [ 6 ]