The one who is called the ‘Dharmarā

The one who is called the ‘Dharmarājā’ will hold on to The Rule of Law (Dhamma Democracy) which is the righteousness according to reasons including both private and others’ interests.
•
Thus, the concept of ‘Dharmarājā’ is the origin of Buddhist Good Governance that has got the outstanding ideology and aims to solve the problems both in the structure and individual levels; plus, the aim to correct the decline of morality in society by not overlooking the material problem (e.g. power, economy)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้ที่ถูกเรียกว่า 'Dharmarājā' จะเก็บกฎของกฎหมาย (ธรรมประชาธิปไตย) ซึ่งเป็นความชอบธรรมตามเหตุผลส่วนตัวและผลประโยชน์ของคนอื่น•ดังนั้น แนวคิดของ 'Dharmarājā' เป็นต้นกำเนิดของพุทธธรรมาภิบาลที่มีอุดมการณ์โดดเด่น และมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาทั้ง ในโครงสร้างและระดับแต่ละ พลัส จุดมุ่งหมายที่ต้องการลดลงของศีลธรรมในสังคม โดยไม่มองเห็นปัญหาวัสดุ (เช่นพลังงาน เศรษฐกิจ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป็นผู้หนึ่งที่ถูกเรียกว่า 'ธรรม' จะยึดมั่นในหลักนิติธรรม (ธรรมประชาธิปไตย) ซึ่งเป็นความชอบธรรมตามเหตุผลรวมทั้งภาคเอกชนและอื่น ๆ สนใจ.
•ดังนั้นแนวคิดของ 'ธรรม' เป็นที่มาของพุทธศาสนา การกำกับดูแลที่ดีที่ได้มีอุดมการณ์ที่โดดเด่นและมีจุดมุ่งหมายที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งในโครงสร้างและระดับบุคคล;
รวมทั้งมีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขการลดลงของความมีคุณธรรมในสังคมโดยไม่สามารถมองเห็นปัญหาวัสดุ (เช่นพลังงานเศรษฐกิจ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คนที่ถูกเรียกว่า ' ' J dharmar อุบาสกอุบาสกจะยึดมั่นในกฎของกฎหมาย ( ประชาธิปไตยธรรมะ ) ซึ่งมีความชอบธรรมตามเหตุผลทั้งส่วนบุคคลและคนอื่นสนใจ
-
ดังนั้นแนวคิดของ ' dharmar อุบาสกอุบาสก J ' ที่มาของธรรมาภิบาลเชิงพุทธที่ได้รับอุดมการณ์ที่โดดเด่นและมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งในระดับโครงสร้าง และ บุคคล บวกจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขความเสื่อมโทรมของศีลธรรมในสังคม โดยไม่สามารถมองเห็นปัญหาวัสดุ ( เช่นไฟเศรษฐกิจ )