The problem with many alternatives,

The problem with many alternatives, like wind, solar, etc. is that they simply aren’t practical. Transporting enough stored electricity derived from these mechanisms to make an average journey is very difficult. Many experts believe that practical breakthroughs in these technologies are decades away at best. So, the challenge is to find a fuel that can replace the practical qualities of oil (like being easy to drive around), but which does not pollute the same way.

The solution, at least for now, appears to be algal-based biofuels, which are still years if not decades away from commercialization. The idea is simple. Algae have lipid and lipid can be converted to a number of fuels including diesel, ethanol, butanol, and methanol. Because algae absorb CO2 to make lipid, the net impact on the environment should be very small. Additionally, biofuels are biodegradable, so if they do spill, less harm is done compared to when fossil fuels spill. What is the hold-up you ask? At this point in time, developing fuel from algae requires huge investments of water and fertilizer because the algae must be killed in order to harvest the lipid and then a new stock is grown back up again. The energy needed to grow algae from a seed stock to “harvest-ready” is orders of magnitude larger than the energy obtained from harvesting them. In other words, more energy is put into the system than is taken out, so it leads to a net loss. Until the input of energy is lower than what the system produces (excluding energy from the sun of course), the system will not be viable.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปัญหา มีหลายทางเลือก เช่นลม แสงอาทิตย์ ฯลฯ คือ ว่า พวกเขาไม่เพียงปฏิบัติ ขนส่งเก็บไว้พอไฟฟ้ามาจากกลไกเหล่านี้จะทำให้การเดินทางเฉลี่ยเป็นเรื่องยากมาก ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเชื่อว่า นวัตกรรมใหม่ในเทคโนโลยีเหล่านี้การปฏิบัติเป็นทศวรรษไปที่ดีที่สุด ดังนั้น ความท้าทายคือการ หาเชื้อเพลิงที่สามารถแทนคุณภาพจริงของมัน (เช่นกำลังการขับรอบ), แต่ที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษเหมือนกันการแก้ปัญหา น้อยสำหรับตอนนี้ ปรากฏเป็น สาหร่ายชีวภาพ ซึ่งเป็นปีถ้าไม่ทศวรรษจาก commercialization ความคิดเป็นเรื่องง่าย สาหร่ายมีไขมัน และไขมันสามารถแปลงเป็นจำนวนของเชื้อเพลิงดีเซล เอทานอล วทานอ และเมทานอล เนื่องจากสาหร่ายดูดซับ CO2 ให้ไขมัน สุทธิผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมควรมีขนาดเล็กมาก นอกจากนี้ เชื้อเพลิงชีวภาพย่อยสลายได้ ดังนั้นถ้าพวกเขาหก อันตรายน้อยเสร็จเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อการรั่วไหลของเชื้อเพลิงฟอสซิล เงินค้างที่คุณถามคืออะไร ที่จุดนี้ในเวลา พัฒนาเชื้อเพลิงจากสาหร่ายต้องใช้เงินลงทุนขนาดใหญ่ของน้ำและปุ๋ยเนื่องจากสาหร่ายต้องถูกฆ่าตายเพื่อเก็บไขมันแล้ว หุ้นใหม่ปลูกกลับมาอีกครั้ง พลังงานที่ต้องการปลูกสาหร่ายจากสต็อคเมล็ด "ที่พร้อมเก็บเกี่ยว" เป็นอันดับของขนาดมากกว่าพลังงานที่ได้จากการเก็บเกี่ยวได้ ในคำอื่น ๆ พลังงานมากขึ้นจะอยู่ในระบบกว่านำออก เพื่อจะนำไปสู่การขาด จนกว่าอินพุตของพลังงานต่ำกว่าอะไรระบบการการผลิต (ไม่รวมพลังงานจากดวงอาทิตย์แน่นอน), ระบบจะไม่ทำงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปัญหาที่มีทางเลือกมากเช่นลมแสงอาทิตย์และอื่น ๆ ก็คือว่าพวกเขาก็ไม่ได้ในทางปฏิบัติ การขนส่งการผลิตไฟฟ้าที่เก็บไว้พอมาจากกลไกเหล่านี้จะทำให้การเดินทางเฉลี่ยเป็นเรื่องยากมาก ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่านวัตกรรมการปฏิบัติในการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เป็นทศวรรษที่ผ่านมาไปที่ที่ดีที่สุด ดังนั้นความท้าทายคือการหาเชื้อเพลิงที่สามารถเปลี่ยนคุณภาพการปฏิบัติของน้ำมัน (เหมือนเป็นเรื่องง่ายที่จะขับรถไปรอบ) แต่ที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางเดียวกัน. การแก้ปัญหาอย่างน้อยตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพสาหร่ายตาม ซึ่งยังคงปีถ้าไม่ได้ออกไปจากทศวรรษที่ผ่านมาการค้า ความคิดที่ง่าย สาหร่ายมีไขมันและไขมันสามารถแปลงไปเป็นจำนวนมากรวมถึงเชื้อเพลิงดีเซลเอทานอลบิวทานอและเมทานอล เพราะสาหร่ายดูดซับ CO2 จะทำให้ไขมัน, ผลกระทบสุทธิต่อสิ่งแวดล้อมควรจะมีขนาดเล็กมาก นอกจากนี้เชื้อเพลิงชีวภาพที่ย่อยสลายได้ดังนั้นหากพวกเขาทำรั่วไหลอันตรายน้อยจะทำเมื่อเทียบกับการรั่วไหลของเชื้อเพลิงฟอสซิล คือถือขึ้นคุณถามอะไร? เมื่อมาถึงจุดนี้ในเวลาพัฒนาเชื้อเพลิงจากสาหร่ายต้องลงทุนขนาดใหญ่ของน้ำและปุ๋ยเนื่องจากสาหร่ายจะต้องถูกฆ่าตายในการสั่งซื้อที่จะเก็บเกี่ยวไขมันแล้วหุ้นใหม่จะเติบโตกลับมาอีกครั้ง พลังงานที่จำเป็นในการเจริญเติบโตของสาหร่ายจากสต็อกเมล็ดพันธุ์ที่จะ "เก็บเกี่ยวพร้อม" เป็นคำสั่งของขนาดใหญ่กว่าพลังงานที่ได้จากการเก็บเกี่ยวพวกเขา ในคำอื่น ๆ พลังงานมากขึ้นจะใส่ลงในระบบกว่าจะนำออกจึงนำไปสู่การมีผลขาดทุนสุทธิ จนกว่าการป้อนข้อมูลของพลังงานที่ต่ำกว่าที่ระบบการผลิต (ไม่รวมพลังงานจากดวงอาทิตย์ของหลักสูตร) ​​ระบบจะไม่สามารถทำงานได้