Royal protocol proved to be a hindr

Royal protocol proved to be a hindrance to Prince Mahidol; after all, how could he practise medicine if he wasn’t allowed to touch his patient? The Prince decided to move to Chiang Mai to work at McCormick Hospital, run by the American Presbyterian mission. He planned to move his family up to Chiang Mai in due course.
But his illness took a turn for the worse, and he was diagnosed with amoebic liver abscess. He returned to Srapathum Palace where he spent the final days of his life until his death on September 24, 1929, from kidney failure. Prince Bhumibol Adulyadej was only two years old at the time.
The next four years were spent in relative stability, as Mom Sangwan held the family together in the grounded, down-to-earth manner that helped form the psyche of the three royal children. They first attended Mater Dei School, transferring subsequently to Debsirin School where the young Prince Bhumibol already showed a talent for music.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โพรโทคอลรอยัลที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นกำแพงเพื่อมหิดล หลังจากที่ทุก วิธีสามารถเขาฝึกแพทย์ถ้าเขาไม่อนุญาตให้สัมผัสผู้ป่วยของเขา เจ้าชายจึงตัดสินใจย้ายไปเชียงใหม่ไปทำงานที่โรงพยาบาลแมคคอร์มิค รัน โดย American Presbyterian ภารกิจ เขาวางแผนที่จะย้ายครอบครัวของเขาถึงเชียงใหม่ในหลักสูตรเนื่องจากแต่การเจ็บป่วยของเขาจึงเปิดให้แย่ลง และเขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นฝีตับ amoebic เขากลับไปวาลย์ซึ่งเขาใช้เวลาวันสุดท้ายของชีวิตของเขาจนกระทั่งเสียชีวิตบน 24 กันยายน 1929 จากไตล้มเหลว เจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้ครบในเวลาเพียงสองปีใช้ไปอีกสี่ปีในความมั่นคง เป็นแม่ Sangwan ครอบครัวร่วมกันในลักษณะที่ช่วยให้แบบฟอร์มลงเพื่อแผ่นดิน ดินจิตใจของเด็ก ๆ ที่รอยัลสาม นอกจากนี้พวกเขาแรกเข้าร่วมมาแตร์เดอี โอนโรงเรียนเทพศิรินทร์ที่ที่พระองค์เจ้าชายหนุ่มแล้วพบว่าด้านการดนตรีในเวลาต่อมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รอยัลโปรโตคอลพิสูจน์แล้วว่าเป็นอุปสรรคต่อเจ้าชายมหิดล; หลังจากที่ทุกคนว่าเขาจะปฏิบัติทางการแพทย์ถ้าเขาไม่ได้รับอนุญาตให้สัมผัสผู้ป่วยของเขา? เจ้าชายตัดสินใจที่จะย้ายไปเชียงใหม่ไปทำงานที่โรงพยาบาลแมควิ่งตามภารกิจเพรสไบทีอเมริกัน เขาวางแผนที่จะย้ายครอบครัวของเขาถึงเชียงใหม่ในหลักสูตรเนื่องจาก.
แต่ความเจ็บป่วยของเขาจึงเปิดให้แย่ลงและเขาได้รับการวินิจฉัยที่มีฝีในตับ Amoebic เขากลับไป Srapathum พาเลซซึ่งเขาใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตของเขาจนกระทั่งเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 กันยายน 1929 จากไตล้มเหลว เจ้าชายภูมิพลอดุลยเดชมีพระชนมายุเพียงสองปีในเวลานั้น.
สี่ปีต่อมาได้ใช้เวลาในความมั่นคงเป็นแม่สังวาลย์จัดขึ้นในครอบครัวร่วมกันในมูลลักษณะลงเพื่อแผ่นดินที่ช่วยสร้างจิตใจของเด็กทั้งสามพระราช พวกเขาครั้งแรกที่เข้าร่วม Mater Dei School, การถ่ายโอนต่อมาโรงเรียนเทพศิรินทร์ที่เจ้าชายหนุ่มภูมิพลแล้วแสดงให้เห็นความสามารถในการฟังเพลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พิธีสารฯ พิสูจน์แล้วว่าเป็นเครื่องกีดขวางสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ; หลังจากทั้งหมดที่เขาใช้ยาถ้าเขาไม่ได้รับอนุญาตให้สัมผัสคนไข้ของเขา เจ้าชายตัดสินใจที่จะย้ายไปอยู่เชียงใหม่ ทำงานที่ โรงพยาบาลแมคคอร์มิค วิ่งตามภารกิจเพรสไบทีเรียนอเมริกัน เขาวางแผนที่จะย้ายครอบครัวของเขาไปเชียงใหม่ในหลักสูตรเนื่องจากแต่อาการของเขาทรุดหนักลงเรื่อยๆ และเขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นฝีในตับ ัว . เขากลับมาที่วังสระปทุม ซึ่งเขาใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตของเขาจนกว่าจะตายของเขาใน 24 กันยายน 1929 จากไตวาย องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมีเพียงสองปีในเวลาสี่ปีต่อมาได้ใช้เวลาในความมั่นคงของญาติ เป็นแม่สังวาลย์ จัดครอบครัวร่วมกันในลักษณะที่เป็นพื้นดิน ติดดินช่วยฟอร์ม psyche ของ 3 พระราชบุตร พวกเขาเรียนโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย โรงเรียน โอนต่อมาให้เทพศิรินทร์โรงเรียนที่เจ้าชายหนุ่ม ภูมิพล ได้แสดงความสามารถด้านดนตรี