ชาวไทยภูเขาหรือชาวเขา ที่อยู่ในประเทศไทยส่วนใหญ่อพยพมาจากดินแดนเพื่อนบ้าน เป็นชนกลุ่มน้อยเล็กๆ มีจำนวนไม่เกิน 500,000 คน มีวัฒนธรรมประเพณีอันเก่าแก่ของตนเอง ซึ่งยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาโดยไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเลยนับพันปี เที่ยวร่อนเร่ไปตามเทือกเขาสูง ลึก ห่างไกล และอยู่มาเช่นนี้ในเขตแดนไทยกว่าร้อยปีมาแล้วแต่วิถีการดำรงชีพของชาวเขา ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาตินั้น ไม่เป็นผลดีทั้งต่อเขาเองและต่อภูมิภาคอันเป็นถิ่นที่อาศัย สาเหตุที่เลือกหัวข้อนี้เพราะ ชาวเขายังมีชีวิตแบบดั้งเดิม ซึ่งสุขภาพอนามัยและการศึกษาถูกละเลย มีระบบเศรษฐกิจแบบยังชีพ ซึ่งเป็นการผลิตเพื่อผู้บริโภคภายในชุมชนของตน การขาดความรู้ในการบำรุงรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินและน้ำ ทำให้ชาวเขาใช้วิธีการถากถางและเผาป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอย เคลื่อนย้ายไปตามที่ต่างๆ นอกจากนี้ ที่ยุ่งยากและเป็นปัญหาเพิ่มขึ้นอกก็คือ ชาวเขาส่วนหนึ่งทำมาหากินโดยการปลูกฝิ่น ปลูกมานานตั้งแต่สมัยโบราณที่การปลูกฝิ่น ค้าฝิ่นหากมองโดยรวม ปัญหายาเสพติดภาคเหนือมีขนาดความรุนแรงและมิติของปัญหาต่างจากภาคอื่น เนื่องจากปัจจัยสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกประเทศ พื้นที่บริเวณชายแดนภาคเหนือติดกับพื้นที่ของประเทศสหภาพพม่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และจีนตอนใต้ ซึ่งมีแหล่งผลิตยาเสพติดตามแนวตะเข็บชายแดน เช่น ชายแดนพม่ายังมีการผลิตฝิ่น เฮโรอีน ATS หรือยาบ้า ยาไอซ์ สำหรับชายแดนประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวยังคงผลิตฝิ่น ยาบ้าอัดเม็ด และผู้ค้าลักลอบลำเลียงส่งผ่านตามบริเวณชายแดนเข้าสู่ประเทศไทย เพื่อจำหน่ายและส่งออก ยังเป็นเรื่องถูกต้องตามกฎหมาย จนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายและมี กฎหายห้ามการผลิตและค้าฝิ่น ชาวเขาก็ยังไม่ยอมเลิกการทำมาค้าขายฝิ่น ทั้งนี้เนื่องจากขายได้ราคาและมีผู้มารับซื้อถึงที่ ฝิ่นกลายเป็นแหล่งรายได้เงินสดทางเดียวของตนที่ได้เป็นกอบเป็นกำ เจ้าหน้าที่รัฐก็สุดความสามารถที่จะตรวจสอบควบคุมได้ สาเหตุหนึ่งนั้นก็คือ ชาวเขามิได้รับรู้ในความเป็นชาติ มิได้รับรู้กฎหมายและความมีอยู่ของอำนาจทางการปกครอง ชาวเขาถือว่าตนเป็นชนเผ่าอิสระ คำกล่าวที่ว่า "ภูเขาเป็นของหมู่เฮา" นั้นเป็นความคิดในจิตใต้สำนึกของพวกชาวเขา