trade-related accounts receivable.

trade-related accounts receivable. In fact, they are the least
cash-convertible of all of the current assets.
The task of managing a company’s activities begins with
procuring capital. If this procured capital can be recycled
within a year, it is considered a “current liability.” If recycling
takes a year or more, it becomes a “fixed liability.” In either
case, having use of the capital incurs a capital cost known
as interest.
As mentioned earlier, the company uses this interestbearing
capital to lay in stocks of parts and other materials,
add value to the materials through manufacturing, then sell
the finished goods for a profit, part of which can be recycled
into further capital.
The gist of the problem is that people in these companies
work so hard to earn the profit used to recycle capital, only
to waste that capital by “putting it to sleep” in raw materials, work-in-process (in which some value has already been
added), and products that do not “move” but just sit there
as inventory.
Capital costs “move” with the clock and thus never sleep.
The company must keep paying these costs while its inventory
snores away.
It should be apparent by now just how much inventory
betrays the whole principle of finance, which is to “procure
and operate capital.” Although business people make use of
the term “inventory investment,” the truth is that inventory
alone offers no return on investment and therefore should
not be considered an investment at all. How helpful it would
be if everyone kept this simple fact in mind.
Lesson 16. Inventory Is Not an Investment
When “Appropriate” Inventory Is Not Appropriate
People in training for the job of inventory management often
run into texts with titles along the lines of, “Inventory: Not
Too Much and Not Too Little Keeps Production Running
Smoothly.” “Not Too Much” foreshadows the text’s admonitions
to drastically reduce inventory.
But what does “Not Too Little” refer to? It refers to a common
piece of advice: Make sure you have at least some excess
inventory. It does not mean “minimize” inventory. It says that
we are supposed to maintain a little “fat” in the inventory, but
not too much.
The philosophy behind this “keep a little fat” approach to
inventory is that having a little extra inventory on hand as
a sort of “buffer” will enable the factory to respond quickly
to surprise sell-outs or shortages of materials and products.
However, in view of the wide range of products demanded
of factories by today’s diversifying market needs, how little
can “a little fat” really be and still serve as a buffer? We have
to face the fact that, in today’s marketplace, surprise sell-outs
and parts shortages are still bound to happen when we maintain a slightly (or even seriously) overweight inventory.
Planning a little fat into our inventory in preparation for or
in response to product sell-outs is a sure-fire way to end up
with lots of excess inventory.
Inventory managers find themselves between a rock and a
hard place: Too little inventory results in parts shortages and
too much puts a heavy load on business management. This
uncomfortable situation has helped give rise to a wonderful
concept: “appropriate inventory.”
Appropriate inventory means enough inventory to avoid
a strain on capital while also avoiding loss of sales due to
shortages. It sounds great in theory, but how can appropriate
inventory be realized?
There are even some formulas we can use to determine
appropriate inventory levels. In one formula, the calculation
is based on the sales target. The other is based on cash flow.
There are many different formulas expressing different inventory
management perspectives.
For example, the following formula is common for sales
target-based calculations.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ที่เกี่ยวข้องกับการค้าบัญชีลูกหนี้ ในความเป็นจริง พวกเขามีน้อยที่สุดเงินสดแปลงสินทรัพย์หมุนเวียนทั้งหมดงานของการจัดการกิจกรรมของบริษัทเริ่มต้นด้วยทุน procuring ถ้าค้นหาทุนสามารถรีไซเคิลภายในปี ถือว่าเป็น "ปัจจุบันรับผิดชอบ" ถ้ารีไซเคิลใช้เวลาเป็นปีหรือมากกว่า จะกลายเป็นการถาวร"ความรับผิดชอบ" ในอย่างใดอย่างหนึ่งกรณี มีการใช้ทุนต่อทุนที่รู้จักกันเป็นดอกเบี้ยเป็นที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ บริษัทใช้ interestbearing นี้ทุนหุ้นชิ้นส่วนและวัสดุอื่น ๆ พายุเพิ่มค่าวัสดุผ่านผลิต แล้วขายสินค้าสำเร็จรูปสำหรับผลกำไร ส่วนหนึ่งของที่สามารถรีไซเคิลลงทุนเพิ่มเติมว่าคนในบริษัทเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของปัญหาทำงานอย่างหนักเพื่อหากำไรใช้ไซเมืองหลวง เท่านั้นเสียที่เมืองหลวง โดยมีการ"นอน" ในวัตถุดิบ งานในกระบวนการ (ที่บางค่าได้แล้วเพิ่ม), และผลิตภัณฑ์ที่ไม่ "ย้าย" แต่เพียงนั่งมีเป็นสินค้าคงคลังทุนค่าใช้จ่าย "ย้าย" ด้วยนาฬิกาจึงไม่เคยนอนหลับบริษัทต้องให้จ่ายต้นทุนเหล่านี้ในขณะที่สินค้าคงคลังsnores ไปควรมีความชัดเจน โดยขณะนี้สินค้าคงคลังมากเพียงไรbetrays หลักการทั้งหมดของเงิน ซึ่งเป็นการ "จัดหาและมีทุน" แม้ว่านักธุรกิจให้ใช้คำว่า "ลงทุนสินค้าคงคลัง ความจริงเป็นราคาคงที่คนเดียวมีกลับไม่มีการลงทุน และดังนั้นจึง ควรไม่ถือว่าการลงทุนทั้งหมด อย่างไรดีจึงจะได้ถ้าทุกคนเก็บความจริงเรื่องในจิตใจบทเรียนที่ 16 คงไม่ลงทุนเมื่อสินค้าคงคลัง "เหมาะสม" ไม่เหมาะสมคนในการฝึกอบรมในงานของการบริหารสินค้าคงคลังมักจะพบข้อความด้วยชื่อพร้อม "สินค้าคงคลัง:ไม่มากเกินไป และไม่น้อยเกินไปจะทำการผลิตได้อย่างราบรื่น" Foreshadows admonitions ของข้อความ "ไม่มากเกินไป"การลดสินค้าคงคลังแต่ว่าไม่ "ไม่น้อย" หมายถึง จะหมายถึงการร่วมชิ้นส่วนของคำแนะนำ: ให้แน่ใจว่า คุณมีบางอย่างเกินสินค้าคงคลัง ไม่หมายความว่า "ลด" สินค้าคงคลัง มันบอกว่าเราควรจะรักษาเล็กน้อย "ไขมัน" ในสินค้าคงคลัง แต่ไม่มากเกินไปปรัชญาเบื้องหลังวิธีการนี้ "เก็บไขมันน้อย"มีสินค้าคงคลังที่มีสินค้าคงคลังเพิ่มเติมเล็กน้อยคงเป็นการเรียงลำดับ "บัฟเฟอร์" จะช่วยให้โรงงานตอบสนองได้อย่างรวดเร็วsell-outs แปลกใจหรือขาดแคลนวัสดุและผลิตภัณฑ์อย่างไรก็ตาม มุมมองหลากหลายของผลิตภัณฑ์ต้องการโรงงานโดยวันนี้อย่างตลาดความต้องการ น้อยสามารถ "ไขมันน้อย" ได้จริง ๆ และยัง ทำหน้าที่เป็นบัฟเฟอร์ เรามีจะเผชิญกับความจริงที่ว่า ในตลาดวันนี้ แปลกใจ sell-outsและขาดแคลนชิ้นส่วนจะยังคงผูกพันที่เกิดขึ้นเมื่อเรารักษาคงน้ำหนักมากกว่าปกติเล็กน้อย (หรือแม้กระทั่งอย่างจริงจังไป)วางไขมันน้อยในคลังสินค้าของเราในการเตรียมการสำหรับ หรือตอบผลิตภัณฑ์ sell-outs เป็นวิธีแน่นอนจะจบลงมีจำนวนของสินค้าคงคลังส่วนเกินสินค้าคงคลังจัดการค้นหาตัวเองระหว่างร็อค และเป็นหนัก: สินค้าคงคลังน้อยเกินไปเกิดการขาดแคลนชิ้นส่วน และทำให้มากเกินไปหนักโหลดในธุรกิจบริหารจัดการ นี้สถานการณ์ที่อึดอัดได้ช่วยให้สูงขึ้นไปที่ยอดเยี่ยมแนวคิด: "คงเหมาะสม"สินค้าคงคลังเพียงพอเพื่อหลีกเลี่ยงความหมาย สินค้าคงคลังที่เหมาะสมต้องใช้ทุนขณะที่ยัง หลีกเลี่ยงการสูญหายของขายเนื่องขาดแคลน เสียงดีในทางทฤษฎี แต่วิธีสามารถเหมาะสมคงจะจริงหรือไม่มีบางสูตรที่เราสามารถใช้เพื่อกำหนดระดับสินค้าคงคลังที่เหมาะสม ในสูตรหนึ่ง การคำนวณขึ้นอยู่กับเป้าหมายการขาย อื่น ๆ จะขึ้นอยู่กับกระแสเงินสดมีหลายสูตรที่แตกต่างกันแสดงสินค้าคงคลังแตกต่างกันการจัดการมุมมองตัวอย่าง สูตรต่อไปนี้เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับการขายคำนวณตามเป้าหมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลูกหนี้การค้าที่เกี่ยวข้องกับลูกหนี้ ในความเป็นจริงพวกเขาเป็นอย่างน้อย
เงินสดแปลงสภาพทั้งหมดของสินทรัพย์หมุนเวียน.
งานด้านการจัดการกิจกรรมของ บริษัท ที่เริ่มต้นด้วย
การจัดหาเงินทุน หากจัดหาทุนในครั้งนี้สามารถนำกลับมา
ภายในปีก็ถือว่าเป็น "ความรับผิดในปัจจุบัน." ถ้ารีไซเคิล
ใช้เวลาเป็นปีหรือมากกว่านั้นมันจะกลายเป็น "ความรับผิดคง." ในทั้งสอง
กรณีที่มีการใช้เงินทุนที่เกิดขึ้นจากเงินทุนที่รู้จักกัน
เป็นที่น่าสนใจ.
ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ บริษัท จะใช้ interestbearing นี้
เงินทุนที่จะวางในหุ้นของชิ้นส่วนและวัสดุอื่น ๆ
เพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุที่ผ่านการผลิตแล้วขาย
สินค้าสำเร็จรูปสำหรับกำไรส่วนที่สามารถนำมารีไซเคิล
เป็นทุนต่อไป
สรุปสาระสำคัญของปัญหาคือการที่คนใน บริษัท เหล่านี้
ทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะได้รับผลกำไรที่ใช้ในการรีไซเคิลทุนเท่านั้น
ที่จะเสียเงินทุนว่าด้วยการ "วางไว้ในการนอน" ในวัตถุดิบ, การทำงานในกระบวนการ (ซึ่งมีค่าบางอย่าง รับแล้ว
เพิ่ม) และผลิตภัณฑ์ที่ทำไม่ได้ "ย้าย" แต่เพียงนั่งมี
สินค้าคงคลัง.
ค่าใช้จ่ายทุน "ย้าย" กับนาฬิกาจึงไม่เคยนอนหลับ.
บริษัท จะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายให้เหล่านี้ขณะที่สินค้าคงคลัง
snores ไป.
มันควรจะเป็นที่เห็นได้ชัด โดยขณะนี้เป็นเพียงวิธีการที่สินค้าคงคลังมาก
ทรยศต่อหลักการของเงินทุนทั้งหมดซึ่งก็คือการ "จัดหา
เงินทุนและการดำเนินการ. "แม้ว่านักธุรกิจทำให้การใช้
คำว่า "การลงทุนในสินค้าคงคลัง" ความจริงก็คือสินค้าคงคลังที่
มีอยู่คนเดียวกลับไม่มีการลงทุนจึงควร
ไม่ได้รับการพิจารณาการลงทุนที่ทุกคน วิธีที่เป็นประโยชน์ก็จะ
เป็นถ้าทุกคนเก็บไว้เป็นจริงง่ายๆในใจ.
บทเรียน 16. สินค้าคงคลังไม่ลงทุน
เมื่อ "เหมาะสม" สินค้าคงคลังไม่เหมาะสม
ในการฝึกอบรมคนงานของการจัดการสินค้าคงคลังมักจะ
ใช้เป็นตำราที่มีชื่อตามสายของ, "สินค้าคงคลัง: ไม่
มากเกินไปและไม่น้อยเกินไปช่วยให้การผลิตวิ่ง
. ได้อย่างราบรื่น "" ไม่มากเกินไป "foreshadows ค่อนขอดข้อความ
เพื่อลดสินค้าคงคลัง.
แต่สิ่งที่ "ไม่น้อยเกินไป" หมายถึง? มันหมายถึงการร่วมกัน
ส่วนของคำแนะนำ: ให้แน่ใจว่าคุณมีอย่างน้อยบางส่วนที่เกิน
สินค้าคงคลัง มันไม่ได้หมายความว่า "ลด" สินค้าคงคลัง มันบอกว่า
เราควรจะรักษาน้อย "ไขมัน" ในสินค้าคงคลัง แต่
ไม่มากเกินไป.
ปรัชญาที่อยู่เบื้องหลังนี้ "ให้ไขมันน้อย" วิธีการ
คือสินค้าคงคลังที่มีสินค้าคงคลังที่เพิ่มเล็กน้อยในมือเป็น
เรียงลำดับของ "บัฟเฟอร์ "จะช่วยให้โรงงานที่จะตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว
ที่จะแปลกใจขายลึกหรือการขาดแคลนวัสดุและผลิตภัณฑ์.
แต่ในมุมมองของความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เรียกร้อง
ของโรงงานโดยกระจายการลงทุนในปัจจุบันความต้องการของตลาดว่าน้อย
"สามารถไขมันน้อย" จริงๆจะเป็นและ ยังคงทำหน้าที่เป็นบัฟเฟอร์? เรามี
ที่จะเผชิญกับความจริงที่ว่าในตลาดวันนี้แปลกใจขายลึก
และชิ้นส่วนขาดแคลนจะผูกพันยังคงที่จะเกิดขึ้นเมื่อเรารักษาเล็กน้อย (หรือแม้กระทั่งอย่างจริงจัง) สินค้าคงคลังที่มีน้ำหนักเกิน.
วางแผนไขมันน้อยลงในสินค้าคงคลังของเราในการเตรียมการหรือ
ในการตอบสนอง กับผลิตภัณฑ์ขายลึกเป็นวิธีที่แน่นอนที่จะจบลงด้วยการ
ที่มีจำนวนมากของสินค้าคงคลังส่วนเกิน.
ผู้จัดการสินค้าคงคลังพบว่าตัวเองระหว่างหินและ
สถานที่ที่ยาก: น้อยเกินไปผลในการขาดแคลนสินค้าคงคลังชิ้นส่วนและ
มากเกินไปทำให้ภาระหนักในการบริหารจัดการธุรกิจ นี้
สถานการณ์อึดอัดได้ช่วยก่อให้เกิดยอดเยี่ยม
แนวคิด ". สินค้าคงคลังที่เหมาะสม"
สินค้าคงคลังที่เหมาะสมหมายถึงสินค้าคงคลังเพียงพอที่จะหลีกเลี่ยง
ความเครียดในเมืองหลวงในขณะที่ยังหลีกเลี่ยงการสูญเสียของยอดขายเนื่องจากการ
ขาดแคลน มันฟังดูดีในทฤษฎี แต่วิธีที่สามารถจัดสรร
สินค้าคงคลังจะรู้?
มีสูตรแม้กระทั่งบางคนที่เราสามารถใช้เพื่อกำหนด
ระดับสินค้าคงคลังที่เหมาะสม หนึ่งในสูตรการคำนวณ
ขึ้นอยู่กับเป้าหมายการขาย อื่น ๆ จะขึ้นอยู่กับกระแสเงินสด.
มีสูตรที่แตกต่างกันแสดงสินค้าคงคลังที่แตกต่างกัน
ในมุมมองการจัดการ.
ยกตัวอย่างเช่นสูตรต่อไปนี้เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับการขาย
คำนวณตามเป้าหมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การค้าที่เกี่ยวข้องกับบัญชีลูกหนี้ ในความเป็นจริงพวกเขาเป็นอย่างน้อย
เงินสดแปลงทั้งหมดของสินทรัพย์หมุนเวียน .
งานจัดการกิจกรรมของบริษัทเริ่มต้นด้วย
จัดหาทุน ถ้าจัดหาเงินทุนสามารถรีไซเคิล
ภายในปีนี้ เพราะถือว่าเป็น " ธาตุ " ถ้ารีไซเคิล
ใช้เวลาเป็นปีหรือมากกว่านั้น จะกลายเป็น " ความรับผิดคงที่ " ใน
กรณีมีการใช้ทุน incurs ต้นทุนเงินทุนที่รู้จักกัน

เป็นดอกเบี้ย ตามที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ บริษัท ใช้นี้ interestbearing
ทุนที่จะวางในหุ้นชิ้นส่วนและวัสดุ อื่น ๆ ,
เพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุที่ผ่านการผลิต ขาย
สินค้าสําเร็จรูปสำหรับกำไร ส่วนที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่
เป็นทุน เพิ่มเติม
ประเด็นปัญหาคือ ว่า คน ใน บริษัท เหล่านี้
ทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะได้รับกำไรที่ใช้หมุนเวียนเงินทุนเท่านั้น
เสียทุน " จะหลับ " ในวัตถุดิบ งานระหว่างทำ ( ซึ่งค่าบางอย่างได้ถูก
เพิ่ม ) และผลิตภัณฑ์ที่ไม่ " ย้าย " แต่เฉยๆ

" เป็นทุนค่าใช้จ่ายในสินค้าคงคลัง ย้าย " กับนาฬิกา และดังนั้นจึง ไม่เคยหลับ
บริษัทต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเหล่านี้ในขณะที่สินค้าคงคลังของ

เสียงกรนหายไปมันควรจะชัดเจนได้แล้ว
สินค้าคงคลังเพียงเท่าใด ทรยศต่อหลักการทั้งหมดของกระทรวงการคลัง ซึ่งก็คือ " การจัดหาเงินทุน
และการใช้งาน . " แม้ว่าธุรกิจคนให้ใช้
การลงทุนสินค้าคงคลัง คำว่า " , " ความจริงก็คือสินค้าคงคลัง
อยู่คนเดียว มีอัตราผลตอบแทนการลงทุนจึงควร
ไม่ถือเป็นการลงทุน ที่ทั้งหมด วิธีการที่เป็นประโยชน์จะ
ถ้าทุกคนเอาแต่ความจริงในใจนี้ .
บทที่ 16 สินค้าคงคลังไม่ใช่การลงทุน
เมื่อ " เหมาะสม " สินค้าคงคลังไม่เหมาะสม
คนฝึกงานของการจัดการสินค้าคงคลังมักจะ
เจอข้อความที่มีชื่อตามสายของ " สินค้าคงคลัง :
มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป ทำให้การผลิตวิ่ง
ราบรื่น " ไม่มากเกินไป " foreshadows admonitions ข้อความของ
เพื่อลดสินค้าคงคลัง .
แต่อะไร " ไม่เล็ก " หมายถึง ? มันหมายถึงชิ้นส่วนทั่วไป
คำแนะนำ : ให้แน่ใจว่าคุณมีอย่างน้อยบางเกิน
สินค้าคงคลัง มันไม่ได้หมายความว่า " ลด " สินค้าคงคลัง มันบอกว่า
เราควรจะรักษา " ไขมัน " ในสินค้าคงคลัง แต่ไม่เยอะ
.
ปรัชญาที่อยู่เบื้องหลัง " เก็บไขมันน้อย

" วิธีการสินค้าคงคลังที่มีสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในมือเป็น
อย่าง " กันชน " จะช่วยให้โรงงานที่จะตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว
แปลกใจขายลึกหนาบางหรือขาดแคลนวัสดุและผลิตภัณฑ์ .
แต่ในมุมมองของหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการของโรงงาน โดยวันนี้

วิธีการเล็ก ๆน้อย ๆที่มีความต้องการของตลาด สามารถ " มีไขมันน้อย " จริงๆ และยังทำหน้าที่เป็นบัฟเฟอร์ เรามี
ที่จะเผชิญหน้ากับความจริงนั้นในตลาดวันนี้ , เซอร์ไพรส์ขายมือตก
และชิ้นส่วนขาดแคลนยังคงผูกพันที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราได้รักษาเล็กน้อย ( หรือแม้กระทั่งอย่างจริงจัง ) สินค้าคงคลังอ้วน .
วางแผนไขมันน้อยในสินค้าคงคลังของเราในการเตรียมการสำหรับการขายสินค้าหรือ
มือตกคือว่าไฟวิธีการสิ้นสุด
ของสินค้าคงคลังส่วนเกิน
ผู้จัดการสินค้าคงคลังพบตัวเองระหว่างหินและสถานที่ที่ยาก :
น้อยเกินไปของผลลัพธ์ในการขาดแคลนชิ้นส่วนและ
มากเกินไปทำให้หนักในการจัดการธุรกิจ สถานการณ์ที่อึดอัดนี้
ช่วยก่อให้เกิดแนวคิดที่ยอดเยี่ยม
: สินค้าคงคลัง " เหมาะสม "
เหมาะสมสินค้าคงคลังหมายถึงพอสินค้าคงคลังเพื่อหลีกเลี่ยง
เมื่อยทุนในขณะที่ยังหลีกเลี่ยงการสูญเสียของยอดขายเนื่องจาก
ขาดแคลน มันเสียงดีในทฤษฎี แต่วิธีที่เหมาะสม
สินค้าคงคลังตระหนัก
มีบางสูตรที่เราสามารถใช้เพื่อตรวจสอบ
ระดับสินค้าคงคลังที่เหมาะสม หนึ่งในสูตรการคำนวณ
ตามเป้าหมายการขาย อื่น ๆขึ้นอยู่กับกระแสเงินสด
มีหลายสูตร แสดงมุมมองการจัดการสินค้าคงคลัง

ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ตามสูตรทั่วไป ขาย
เป้าหมายตามการคำนวณ