There are many nights in a young ch

There are many nights in a young child's life when bedtime comes far too early. Sleep seems like a distant possibility, yet parents insist that the child remain in bed with the lights off. In this situation, many children have resorted to reading under their covers by flashlight. The meager beams of light ensure that parental attention won't be aroused while providing the children with a chance to catch up with their favorite fictional characters, from girl detectives to boy wizards and talking animals.
Unfortunately, children engaging in this activity have frequently been caught by their snooping parents. And not only is there a potential punishment in store for staying up past lights out, children are also issued the ominous warning that their dimly lit reading will ruin their eyes. This scenario may represent one of the few times in which children aren't praised for their diligent reading habits.
Yet if these children are avid readers who've consumed a few tales of pioneer life, they may wonder if this threat holds true. After all, generations of people had only candlelight to read by, and they turned out just fine. Are today's parents just overprotective of our eyesight?
As it turns out, they probably are, but they're not the only ones. In 2007, the idea that reading in dim light ruins eyesight was named one of the seven medical myths that doctors are most likely to believe [source: Parker-Pope]. The study, published in the British Medical Journal, revealed that reading in low light does not damage eyes, but rather causes eye strain. Eye strain is no walk in the park, though. Find out more about this phenomenon on the next page.

Eye Strain and Reading in Dim Light
When you walk into a room where light is low, your eye adjusts in several ways. First, the rod and cone cells on the retina begin to produce more light-sensitive chemicals. These chemicals detect light, convert it to an electrical signal and transmit that signal to the brain. Second, the iris muscles relax, which causes the opening of your eye, the pupil, to become very large. This allows your eye to collect as much light as possible. Finally, the nerve cells in the retina adapt so that they can work in low light. When you read, your eye must be able to focus an image of the words onto your retina. To do this, the iris, as well as the muscles that control the shape of your lens, must contract to keep the focused image on the retina.
If you read in low light, your visual muscles get mixed signals: Relax to collect the most light, but at the same time, contract to maintain the focused image. When that object is poorly lit, focusing becomes even more difficult because the contrast between the words and the page isn't as great, which decreases the eye's ability to distinguish visual detail. That ability is called visual acuity. Your eyes have to work harder to separate the words from the page, which strains your eye muscles.
When your eyes are working this hard for a long period of time, they become tired, much as any muscle would. The strain may result in a number of physical effects including sore or itching eyeballs, headaches, back and neck aches and blurred vision. Because you often don't blink enough when focusing on a single object, you may also experience uncomfortable dryness in your eyes. None of these symptoms damage your eyes, and they eventually go away. If the symptoms don't go away once you stop straining your eyes, however, then see an eye doctor. You may have an underlying eye problem like nearsightedness; the fact that the symptoms of eye strain overlap with those of nearsightedness is likely a reason why some continue to argue that reading in dim light causes permanent damage.
For now, it seems, the eyesight of children who read by flashlight is safe. Still, it's certainly easier on your eyes to read in good light that falls directly on the page without causing a glare. You can also avoid eye strain when you're reading by blinking frequently and taking a moment to focus on something out the window or across the room every 15 to 30 minutes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีหลายต่อหลายคืนอยู่ในชีวิตของเด็กหนุ่มเมื่อก่อนนอนมาไกลเร็วเกินไป นอนหลับดูเหมือนว่าเป็นไปได้ที่ห่างไกลยังยืนยันว่าพ่อแม่ของเด็กยังคงอยู่ในเตียงที่มีไฟออก ในสถานการณ์เช่นนี้เด็กหลายคนมี resorted การอ่านภายใต้ครอบคลุมของพวกเขาโดยไฟฉายคานของแสงไม่พอเพียงให้แน่ใจว่าให้ความสนใจผู้ปกครองจะไม่ถูกกระตุ้นในขณะที่ให้เด็กมีโอกาสที่จะจับขึ้นกับตัวละครที่ชื่นชอบของพวกเขาสวมจากนักสืบสาวตัวช่วยสร้างเด็กและสัตว์พูดคุย.
โชคไม่ดีที่เด็กมีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้มีบ่อย ถูกจับโดยพ่อแม่ของพวกเขาสอดแนมและไม่เพียง แต่จะมีการลงโทษที่มีศักยภาพในการจัดเก็บสำหรับการอยู่ขึ้นไฟออกมาเด็ก ๆ ก็ออกมาเตือนว่าเป็นลางไม่ดีอ่านสลัวของพวกเขาจะทำลายสายตาของพวกเขา สถานการณ์นี้อาจจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เด็กจะไม่ได้รับการยกย่องว่านิสัยรักการอ่านขยันของพวกเขา.
แต่ถ้าเด็กเหล่านี้เป็นผู้อ่านตัวยงที่เคยบริโภคไม่กี่เรื่องของชีวิตของผู้บุกเบิก,พวกเขาอาจจะสงสัยว่าภัยคุกคามนี้ถือเป็นจริง หลังจากที่ทุกรุ่นของคนมีแสงเทียนเท่านั้นที่จะอ่านได้โดยและพวกเขาก็เปิดออกเพียงแค่ปรับ พ่อแม่ของวันนี้เพียงแค่ปกป้องสายตาของเราหรือไม่
เป็นก็คือพวกเขาอาจมี แต่พวกเขาไม่ได้เป็นคนเดียว ในปี 2007ความคิดที่ว่าในสายตาการอ่านแสงสลัวซากปรักหักพังเป็นชื่อหนึ่งในเจ็ดตำนานทางการแพทย์ที่แพทย์ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะเชื่อว่าที่มา: [ปาร์คเกอร์สมเด็จพระสันตะปาปา] การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์อังกฤษเผยให้เห็นว่าการอ่านในที่แสงน้อยไม่ให้เกิดความเสียหายตา แต่สาเหตุที่ทำให้ปวดตา ปวดตาเป็นเดินในสวนไม่มีแม้ หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้ในหน้าถัดไป.

ปวดตาและการอ่านใน
แสงสลัวเมื่อคุณเดินเข้าไปในห้องที่มีแสงต่ำที่ตาของคุณปรับในหลายวิธี แรกและก้านเซลล์รูปกรวยม่านตาเริ่มต้นในการผลิตสารเคมีที่ไวต่อแสงมากขึ้น สารเคมีเหล่านี้สามารถตรวจจับแสงแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าและส่งสัญญาณไปยังสมองว่า สองกล้ามเนื้อม่านตาผ่อนคลายซึ่งเป็นสาเหตุของการเปิดตาของคุณ, นักเรียน,ที่จะกลายเป็นขนาดใหญ่มาก นี้จะช่วยให้ตาของคุณที่จะเก็บแสงมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ในที่สุดเซลล์ประสาทในม่านตาปรับตัวเพื่อให้พวกเขาสามารถทำงานในที่มีแสงน้อย เมื่อคุณอ่านตาของคุณจะต้องสามารถที่จะมุ่งเน้นภาพของคำลงบนจอประสาทตาของคุณ การทำเช่นนี้ไอริสเช่นเดียวกับกล้ามเนื้อที่ควบคุมรูปร่างของเลนส์ของคุณจะต้องทำสัญญาเพื่อให้ภาพที่มุ่งเน้นม่านตา.
ถ้าคุณอ่านในที่มีแสงน้อยกล้ามเนื้อภาพของคุณได้รับสัญญาณผสม: ผ่อนคลายในการเก็บรวบรวมแสงมากที่สุด แต่ในเวลาเดียวกัน, สัญญาที่จะรักษาภาพที่มุ่งเน้น เมื่อวัตถุที่มืดก็ตามโดยมุ่งเน้นแม้จะกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้นเพราะความแตกต่างระหว่างคำและหน้าไม่ดีเท่าซึ่งจะเป็นการลดความสามารถในตาที่จะแยกแยะความแตกต่างรายละเอียดภาพ ความสามารถที่เรียกว่าภาพความรุนแรงตาของคุณต้องทำงานหนักเพื่อแยกคำจากหน้าซึ่งสายพันธุ์ที่กล้ามเนื้อตาของคุณ.
เมื่อตาของคุณกำลังทำงานอย่างหนักเป็นระยะเวลานานของเวลาพวกเขากลายเป็นเหนื่อยมากที่สุดเท่าที่จะกล้ามเนื้อใด ๆ ความเครียดอาจส่งผลให้จำนวนของผลกระทบทางกายภาพรวมทั้งดวงตาเจ็บหรือมีอาการคันปวดศีรษะปวดหลังและคอและสายตาพร่ามัวเพราะคุณมักจะไม่กระพริบพอเมื่อมุ่งเน้นไปที่วัตถุเดียวนอกจากนี้คุณยังอาจพบความแห้งกร้านอึดอัดในสายตาของคุณ ไม่มีอาการเหล่านี้เกิดความเสียหายตาของคุณและในที่สุดพวกเขาหายไป ถ้าอาการไม่หายไปเมื่อคุณหยุดการรัดตาของคุณ แต่แล้วพบแพทย์ตา คุณอาจมีปัญหาตาพื้นฐานเช่นสายตาสั้น;ความจริงที่ว่าอาการของการทับซ้อนปวดตากับของคนสายตาสั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นเหตุผลว่าทำไมบางคนยังคงที่จะโต้แย้งการอ่านในแสงสลัวที่ทำให้เกิดความเสียหายถาวร.
ตอนนี้ดูเหมือนว่าสายตาของเด็กที่อ่านโดยไฟฉายที่มีความปลอดภัย ยังก็แน่นอนง่ายในสายตาของคุณอ่านในที่มีแสงที่ดีที่ตกอยู่ในเพจโดยตรงโดยไม่ทำให้เกิดแสงจ้าคุณยังสามารถหลีกเลี่ยงการปวดตาเมื่อคุณกำลังอ่านโดยกระพริบบ่อยและสละเวลาสักครู่เพื่อมุ่งเน้นไปที่บางสิ่งบางอย่างออกไปนอกหน้าต่างหรือในห้องพักทุก 15 ถึง 30 นาที

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ได้คืนมากมายในชีวิตของเด็กหนุ่มเมื่อนอนเร็วเกินไป เหมือนว่านอนหลับไปได้ไกล แต่ผู้ปกครองยืนยันว่า เด็กอยู่ในเตียงไฟปิด ในสถานการณ์นี้ เด็กจำนวนมากมี resorted การอ่านภายใต้หน้ากากของพวกเขา โดยไฟฉายที่ คานไม่เพียงพอของแสงให้แน่ใจว่า จะไม่ aroused สนใจผู้ปกครองให้เด็กมีโอกาสในการตรวจจับของพวกเขาชื่นชอบสมมติตัว จากนักสืบสาวไปช่วยเด็กและสัตว์พูด
อับ เด็กในกิจกรรมนี้ได้บ่อย ๆ การจับพ่อแม่ snooping และไม่เพียงแต่ จะมีการลงโทษที่อาจเกิดขึ้นในที่เก็บพักค่าไฟออกมา เด็กยังออกคำเตือนดคิลอ่านของพวกเขามีแสงจะทำลายตา สถานการณ์นี้อาจหมายถึงเวลาน้อยที่เด็กไม่ได้ยกย่องสำหรับนิสัยขยันอ่านของพวกเขาได้อย่างใดอย่างหนึ่ง
แต่ ถ้าเด็กเหล่านี้มีผู้อ่านมักมากที่ได้ใช้นิทานกี่ชีวิตผู้บุกเบิก พวกเขาอาจสงสัยว่า ถ้า ภัยคุกคามนี้มีจริง หลังจากที่ทุก รุ่นของคนมีเพียงแสงเทียนโดย และพวกเขาเปิดออกเพียงปรับ มีพ่อแม่วันนี้เพียง overprotective ของสายตาของเรา?
เป็นดังปรากฎว่า อาจจะ แต่พวกเขาไม่ได้คนเดียว ในปี 2007 ความคิดอ่านในแสงซากปรักหักพังสายตาชื่อหนึ่งของตำนานเจ็ดทางการแพทย์ที่แพทย์มักจะเชื่อ [แหล่งที่มา: ปาร์คเกอร์สมเด็จพระสันตะปาปา] การศึกษา ประกาศในสมุดการแพทย์อังกฤษ เปิดเผยว่า อ่านหนังสือในที่แสงน้อยไม่เสียตา แต่แทนที่จะ ทำให้ปวดตา ปวดตาจะไม่เดินในสวน แม้ว่า หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้ในหน้าถัดไป

ตาต้องใช้และอ่านในแสง
เมื่อคุณเดินเข้าไปในห้องที่แสงมีน้อย ตาของคุณปรับปรุงในหลายวิธีการ แรก ร็อดและโคนเซลล์บนจอตาเริ่มต้นในการผลิตสารเคมีที่ไวต่อแสงมากขึ้น สารเคมีเหล่านี้ตรวจพบไฟ แปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า และส่งสัญญาณนั้นไปยังสมองเพื่อ สอง ไอริสที่กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ซึ่งทำให้เปิดตาของคุณ นักเรียน เป็นขนาดใหญ่มาก นี้ช่วยให้คุณตาเก็บแสงมากที่สุด สุดท้าย เซลล์ประสาทในจอตาปรับเพื่อให้สามารถทำงานในที่แสงน้อย เมื่อคุณอ่าน ตาของคุณต้องสามารถที่จะโฟกัสภาพคำบนเรตินาของคุณ การทำเช่นนี้ ดิไอริส ตลอดจนกล้ามเนื้อที่ควบคุมรูปร่างของเลนส์กล้อง ต้องสัญญาภาพโฟกัสบนจอตาให้
ถ้าคุณอ่านในที่แสงน้อย กล้ามภาพรับผสมสัญญาณ: ผ่อนคลายเพื่อรวบรวมแสงมากที่สุด แต่ในเวลาเดียวกัน สัญญาเพื่อรักษาภาพที่เน้น เมื่อวัตถุนั้นไม่ดีใต้แสง กำลังจะยากมากเนื่องจากความแตกต่างระหว่างคำและหน้าไม่เป็นใหญ่ การลดลงของตาความสามารถในการแยกแยะรายละเอียดภาพ ความสามารถที่เรียกว่าชัด ตาต้องทำงานหนักเพื่อแยกคำจากหน้า ซึ่ง strains กล้ามเนื้อตาของคุณ.
เมื่อดวงตาของคุณกำลังทำงานหนักนี้สำหรับรอบระยะเวลายาวนาน พวกเขาจะเหนื่อย มากกล้ามเนื้อใด ๆ จะ สายพันธุ์อาจทำในลักษณะทางกายภาพรวมทั้งมีอาการคัน หรือเจ็บตา ปวดหัว ปวดหลังและคอ และวิสัยทัศน์ที่ไม่คมชัด เนื่องจากคุณมักไม่กะพริบพอเมื่อเน้นวัตถุเดียว คุณอาจพบความแห้งกร้านอึดอัดในดวงตาของคุณ อาการเหล่านี้ไม่มีเสียหายตา และพวกเขาก็หายไป ถ้าอาการไม่หายไปเมื่อคุณหยุดรัดตา ไร แล้วเห็นเป็นหมอตา คุณอาจมีปัญหาตาต้นเช่น nearsightedness ความจริงที่ว่าอาการปวดตาที่ทับซ้อนกับ nearsightedness อาจจะเป็นเหตุผลทำไมบางต่อเถียงว่า อ่านในแสงทำให้เกิดความเสียหายถาวร
ตอนนี้ เหมือน สายตาของเด็กผู้อ่านไฟฉายมีความปลอดภัย ยัง มีแน่นอนช่วยอ่านแสงดีที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่ทำให้เกิดแสงจ้า คุณสามารถหลีกเลี่ยงปวดตายังเมื่อคุณกำลังอ่านกะพริบบ่อย ๆ และถ่ายขณะนี้ให้ความสำคัญกับสิ่งที่หน้าต่าง หรือหลังห้องทุก 15-30 นาที

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีหลายคืนในชีวิตของหนุ่มลูกที่เมื่อก่อนนอนมาไกลเกินไป นอนหลับพักผ่อนดูเหมือนจะเป็นความเป็นไปได้ที่อยู่ไกลออกไปแต่คุณพ่อคุณแม่ขอยืนยันว่าเด็กที่อยู่ในเตียงนอนขนาดคิงส์ไซด์พร้อมด้วยแสงไฟที่ปิด ในสถานการณ์แบบนี้หลายคนได้หันไปอ่านหนังสือตามครอบคลุมของพวกเขาโดยไฟฉายคานเบี้ยน้อยหอยน้อยของแสงให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าให้ความสนใจของผู้ปกครองจะไม่ได้ถูกปลุกขึ้นในขณะที่การให้บริการสำหรับเด็กที่พร้อมด้วยโอกาสเพื่อรับชมได้ด้วยอักขระสมมติที่ชื่นชอบของพวกเขาจากนักสืบสาวกับสัตว์กำลังพูดถึงและตัวช่วยสร้างเด็ก.
เป็นที่น่าเสียดายว่าเด็กทำกิจกรรมนี้มีการจับโดยผู้ปกครองลับๆล่อๆของตนอยู่เสมอและไม่เพียงมีการลงโทษที่อาจเกิดขึ้นในที่จัดเก็บสำหรับการเข้าพักผ่านไปแสงไฟออกจากเด็กที่มีออกมาเตือนลางที่ว่าการอ่านหนังสือแสงสลัวของพวกเขาจะทำลายดวงตาของเขาด้วย เหตุการณ์นี้อาจเป็นหนึ่งในช่วงเวลาเพียงไม่กี่แห่งที่เด็กไม่ได้ชื่นชมในนิสัยการอ่านหนังสือไม่หยุดนิ่งของพวกเขา.
แต่ถ้าคนเหล่านี้เป็นผู้อ่านเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ที่เคยใช้ไม่กี่เรื่องของชีวิต Pioneerพวกเขาอาจสงสัยว่า ภัย คุกคามนี้เป็นความจริง หลังจากนั้นทั้งหมดตลอดชั่วอายุของผู้คนเท่านั้น ภายใต้ แสงเทียนในการอ่านและพวกเขาก็หันออกมาดี ในวันนี้มีบิดามารดาของเพียง overprotective ในสายตาของเราหรือไม่?
เมื่อคุณได้รับข้อความเป็นเขาก็อาจจะมีแต่ก็ไม่ใช่คนเดียวที่ ในปี 2007แนวความคิดที่ว่าการอ่านหนังสือในซากปรักหักพังแสงสลัวสายตาได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดตำนานทางการแพทย์ที่แพทย์ได้มากที่สุดมีแนวโน้มที่จะเชื่อว่าแหล่ง parker-pope [] การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์อังกฤษเปิดเผยว่าการอ่านหนังสือใน สภาพ แสงน้อยจะไม่ได้รับความเสียหายแต่เป็นตาตาจะทำให้ความตึงเครียด ดึงตาไม่มีเดินเล่นในสวนสนุกที่จะ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้ในหน้าถัดไป.

Eye ความเมื่อยล้าและอ่านหนังสือในแสงสลัว
เมื่อคุณเดินเข้ามาในห้องซึ่งมีแสงอยู่ในระดับต่ำสายตาของคุณจะปรับในหลายวิธีด้วยกัน. เซลล์เป็นครั้งแรกส่วนกรวยและไม้เท้าที่จอประสาทตาเสื่อมที่จะเริ่มผลิตสารเคมีแสง - ที่สำคัญมาก สารเคมีเหล่านี้พบแสงแปลงเป็นสัญญาณทางไฟฟ้าและการส่งสัญญาณว่าจะสมอง ที่สองกล้ามเนื้อไอริสที่ผ่อนคลายซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการเปิดให้นักเรียนที่สายตาของคุณเป็นขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก โรงแรมแห่งนี้ทำให้สายตาของคุณในการเก็บรวบรวมเป็นเบาๆมากเป็นไปได้ ในที่สุดเซลล์ประสาทในจอประสาทตาที่ปรับตัวเพื่อว่าพวกเขาสามารถทำงานใน สภาพ แสงน้อย เมื่อคุณอ่านสายตาของคุณจะต้องสามารถโฟกัส ภาพ ที่มีคำใดคำหนึ่งที่จอประสาทตาของคุณ ในการดำเนินการนี้ออโตไอริสและกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ควบคุมรูปร่างของเลนส์ของท่านจะต้องทำสัญญาในการทำให้ ภาพ ที่มุ่งเน้นที่บนจอประสาทตา.
ถ้าคุณได้อ่านใน สภาพ แสงน้อยกล้ามเนื้อ ภาพ ของคุณได้รับสัญญาณแบบผสมผ่อนคลายไปกับไปรับมากที่สุดแต่ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ทำสัญญาเพื่อรักษา ภาพ ที่มุ่งเน้นให้ เมื่อมีวัตถุที่เป็นได้ไม่ดีนักมีแสงไฟส่องสว่างเน้นจะกลายเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้นเพราะความขัดแย้งระหว่างคำว่าที่หน้าและไม่ได้เป็นของตาซึ่งจะช่วยลดความสามารถในการแยกรายละเอียดของ ภาพ ความสามารถที่มีชื่อว่าตรวจวัดสายตาดวงตาของคุณจะต้องทำงานให้หนักขึ้นเพื่อแยกคำนี้จากหน้าที่ความตึงเครียดสายตากล้ามเนื้อ.
ของคุณเมื่อสายตาของคุณจะทำงานนี้ยากสำหรับช่วงเวลาอันยาวนานของเวลาที่พวกเขาจะกลายเป็นเหนื่อยล้ามากเป็นกล้ามเนื้อที่จะ สายพันธุ์นี้อาจส่งผลให้ในจำนวนที่มีผลกระทบทาง กายภาพ รวมถึงตาคู่หนึ่งมีเรื่องน่าปวดหัวเจ็บหรืออาการคันหลังและคอปวดเมื่อยและไร้เรี่ยวแรงเนื่องจากคุณมักไม่กะพริบไม่เพียงพอเมื่อโฟกัสกับวัตถุตัวเดียวคุณอาจได้รับประสบการณ์ทำให้แห้งทำให้ไม่สบายใจในสายตาของคุณด้วย ไม่มีอาการเหล่านี้เกิดความเสียหายตาของคุณและในท้ายที่สุดพวกเขาไป กรณีที่มีอาการไม่ได้ไปอยู่ห่างออกไปในเมื่อคุณหยุดทำตาของคุณอย่างไรก็ตามแล้วดูหมอตา คุณอาจมีปัญหาสายตาพื้นฐานเช่นสายตาสั้นความจริงที่ว่าอาการของตาความเมื่อยล้าสองส่วนทับซ้อนกันพอดีกับสายตาสั้นผู้ที่มีแนวโน้มว่าเหตุผลที่บางส่วนยังให้เหตุผลว่าการอ่านหนังสือในแสงสลัวจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างถาวร.
สำหรับตอนนี้มันดูเหมือนว่าจะถนอมสายตาของเด็กที่อ่านโดยไฟฉายเป็นตู้นิร ภัย แน่นอนว่ามันก็ยังเป็นได้ง่ายขึ้นในสายตาของคุณที่จะต้องอ่านในแสงที่ดีที่อยู่ในหน้าที่โดยตรงโดยไม่ทำให้เกิดแสงสะท้อนที่คุณสามารถป้องกันไม่ให้ความเมื่อยล้าสายตาเมื่อคุณกำลังอ่านหนังสือกะพริบอยู่เสมอและการให้ความสำคัญกับบางสิ่งบางอย่างออกไปนอกหน้าต่างหรือในห้องที่ 15 ถึง 30 นาทีทุกครั้งยัง