THE THAI RICE Exporters Association

THE THAI RICE Exporters Association (TREA) yesterday proposed to the National Council for Peace and Order the setting up of an independent "Rice Board", comprising representatives from all involved to set up rice management policies and development plans for promoting sustainable growth of the industry.

The proposal was made following expectations that the military government would not intervene in the market mechanism any longer, as it has created huge losses for the country as well as destroyed rice exporters' competitiveness.

The association also believes that Thailand will reclaim its crown as the world's largest rice exporter this year with expected export volume of 9 million tonnes, higher than the previous projection in January of 7.5 million tonnes due to the lower price of Thai rice and lower export competition from India and Vietnam in the short run.

Association president Charoen Laothamatas said that to increase efficiency of the rice industry management and ensure fair benefit to all involved, an independent Rice Board should be set up. The panel should be free from the impact of political changes so that the Thai rice industry could be developed without any intervention, despite changes in government.

The panel should involve representatives from farmers, millers, local traders, exporters, academics, and representatives from government agencies. The panel should have full authority to draw up policies and increase the role of the market mechanism but should not intervene in the market system, he said.

Charoen said that Thailand had learnt a valuable lesson from market intervention by setting a high pledging price. The government has faced huge losses from pledging and is left with enormous stockpiles, while the rice trading system has been destroyed. The government should no longer set up any subsidy project as it has destroyed both farmers and traders.

He pointed out that without subsidy measures, the government could save at least Bt45 billion to Bt50 billion to help farmers with other long-term measures such as reducing the cost of production.

To manage rice output in the upcoming harvest season second crop and the 2014-15 main crop harvest season, Charoen said the government could negotiate for selling rice in the futures market on export overseas so that farmers will have exact market and gain stable rice price.

TREA honorary president Korbsook Iamsuri said that Thailand needs to have a clear roadmap to develop the rice industry from upstream to downstream with no political intervention.

She said that the current National Rice Policy Committee has no efficiency to manipulate the rice industry, as it comprises only representatives from the government sides. The National Rice Policy Committee should be under the Rice Board as the board would not depend on politics and would focus only on industry development.

The Rice Board could be set up under the Act so that in future politicians would not intervene in the rice industry as in the past, she added.

Chookiat Ophaswongse, honorary president of the association, said that Thai rice exports this year would reach 9 million tonnes, worth about US$4.75 billion (Bt150 billion).

Export volume has increased largely this year as the price of Thai rice has fallen gradually because the market is aware that the Thai government holds giant stockpiles and needs to release them continuously.

The export value will not increase as much as the volume due to the low price of Thai rice. The average price per tonne of Thai rice is expected at $510 a tonne, compared with $620 a tonne last year, said Chookiat.

However, the price of Thai rice has already bottomed out in recent months. The association foresees that the price of Thai rice is expected to increase slightly in the following months by about 10 per cent or $20-30 a tonne.

Vichai Sriprasert, another honorary president, said the pledging project had not only created huge losses to the country, but also destroyed farmers in the long run. The price of paddy rice in the local market has dropped sharply from Bt11,000 a tonne during pledging to only Bt7,000 a tonne now.

Source: The Nation

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไทยข้าวผู้ส่งออกสมาคม (TREA) เมื่อวานนี้เสนอต่อสภาแห่งชาติเพื่อสันติสุขและสั่งการตั้งค่าค่าคณะมีอิสระ"ข้าว" ประกอบด้วยผู้แทนจากทั้งหมดที่เกี่ยวข้องตั้งข้าวการจัดการนโยบายและแผนการพัฒนาในการส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรม

ข้อเสนอที่ทำต่อความคาดหวังว่า รัฐบาลทหารจะไม่แทรกแซงในกลไกตลาดอีกต่อไป เป็นมันได้สร้างความสูญเสียขนาดใหญ่ในประเทศเช่นเดียว กับทำลายศักยภาพในการแข่งขันของผู้ส่งออกข้าว

สมาคมยังเชื่อว่า ไทยจะเพิ่มมงกุฎที่เป็นผู้ส่งออกข้าวที่ใหญ่ที่สุดในโลกปีนี้ มีปริมาณการส่งออกที่คาดไว้ของ 9 ล้านตัน, สูงกว่าคาดการณ์ก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคมของ 7.5 ล้านตันเนื่องจากราคาต่ำกว่าข้าวไทยและล่างส่งออกแข่งขันจากอินเดียและเวียดนามในระยะสั้นทำ

ประธานสมาคม Laothamatas เจริญกล่าวว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารจัดการอุตสาหกรรมข้าว และให้ประโยชน์เป็นธรรมกับส่วนเกี่ยวข้อง อิสระคณะกรรมการข้าวควรตั้งค่า แผงควรเป็นอิสระจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเพื่อให้สามารถพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวโดยไม่แทรกแซงใด ๆ แม้มีการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล

แผงควรเกี่ยวข้องกับตัวแทนจากเกษตรกร โรง ผู้ค้าท้องถิ่น ส่งออก นักวิชาการ และตัวแทนจากหน่วยงานราชการ แผงควรมีอำนาจเต็มในการร่างนโยบาย และเพิ่มบทบาทของกลไกตลาด แต่ไม่ควรแทรกแซงระบบตลาด เขากล่าวว่า

เจริญกล่าวว่า ไทยได้เรียนรู้บทเรียนอันมีค่าจากการแทรกแซงตลาด โดยตั้งราคา pledging สูง รัฐบาลต้องเผชิญกับความสูญเสียขนาดใหญ่จากกอง และซ้าย มีขนาดใหญ่ stockpiles ในขณะที่ข้าวระบบการซื้อขายได้ถูกทำลาย รัฐบาลควรไม่ตั้งเงินสมทบโครงการใด ๆ จะได้ทำลายทั้งเกษตรกรและผู้ค้า

เขาชี้ให้เห็นว่า ไม่ มีเงินสมทบมาตรการ รัฐบาลสามารถบันทึกน้อย Bt45 พันล้านกับ Bt50 พันล้านช่วยเกษตรกร ด้วยมาตรการระยะยาวอื่น ๆ เช่นลดต้นทุนการผลิต

การจัดการผลผลิตในพืชสองฤดูการเก็บเกี่ยวมาถึงและฤดูเก็บเกี่ยวพืชหลัก 2014-15 ข้าว เจริญกล่าวว่า รัฐบาลไม่สามารถเจรจาขายข้าวในตลาดล่วงหน้าในการส่งออกต่างประเทศเพื่อให้เกษตรกรจะมีตลาดที่แน่นอน และได้รับราคาข้าวมีเสถียรภาพ

ประธานกิตติมศักดิ์ TREA สกาวเอี่ยมสุรีย์ Korbsook กล่าวว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องมีแผนชัดเจนในการพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวจากขั้นต้นน้ำกับปลายน้ำกับไม่มีการเมืองแทรกแซงการ

กล่าวว่า ปัจจุบันชาติข้าวนโยบายคณะกรรมการมีประสิทธิภาพไม่มีการจัดการอุตสาหกรรมข้าว เป็นมันประกอบด้วยพนักงานจากฝ่ายรัฐบาล คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติควรอยู่ภายใต้คณะกรรมการข้าวคณะจะขึ้นอยู่กับการเมือง และจะเน้นเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรม

สามารถตั้งค่ากระดานข้าวที่ตามพระราชบัญญัตินี้เพื่อว่าในอนาคตนักการเมืองต้องไม่แทรกแซงในอุตสาหกรรมข้าวในอดีต เธอเพิ่ม

Chookiat Ophaswongse นายกสมาคมกิตติมศักดิ์, กล่าวว่า การส่งออกข้าวไทยปีนี้จะถึง 9 ล้านตัน มูลค่าประมาณระดับ 4.75 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (Bt150 พันล้าน) .

ปริมาณการส่งออกได้เพิ่มขึ้นมากปีนี้ราคาข้าวตกทีละน้อยเนื่องจากตลาดไม่ทราบว่า รัฐบาลไทยมี stockpiles ยักษ์ และต้องปล่อยอย่างต่อเนื่อง

มูลค่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้นไม่มากเท่าข้าวปริมาณเนื่องจากราคาต่ำสุดของไทย ราคาเฉลี่ยต่อ tonne ข้าวคาดว่าที่ $510 tonne เมื่อเทียบกับ $620 เป็น tonne ปี กล่าวว่า Chookiat.

อย่างไรก็ตาม ราคาข้าวไทยมีแล้วยนที่ออกในเดือนที่ผ่านมา สมาคม foresees ว่า ราคาข้าวคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนต่อไปนี้ โดยประมาณร้อยละ 10 หรือ $20-30 เป็น tonne

Sriprasert วิชัย ประธานกิตติมศักดิ์อีก กล่าวว่า โครงการ pledging ไม่เพียงแต่ สร้างความสูญเสียขนาดใหญ่ไปยังประเทศ แต่ยัง ทำลายเกษตรกรในระยะยาว ราคาข้าวเปลือกในท้องตลาดได้ลดลงอย่างรวดเร็วจาก Bt11000 เป็น tonne ระหว่างกองการ Bt7 เพียง 000 เป็น tonne นี้

แหล่ง: ประชาชาติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ส่งออกข้าวไทยสมาคม (Trea) เมื่อวานนี้ได้เสนอให้สภาแห่งชาติเพื่อสันติภาพและการสั่งซื้อการจัดตั้งอิสระ "คณะกรรมการข้าว" ที่ประกอบไปด้วยผู้แทนจากทุกส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายการจัดการข้าวและแผนพัฒนาในการส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรม . ข้อเสนอที่ถูกสร้างขึ้นความคาดหวังต่อไปว่ารัฐบาลทหารจะไม่เข้ามาแทรกแซงกลไกตลาดได้อีกต่อไปในขณะที่มันได้สร้างความสูญเสียอย่างมากสำหรับประเทศเช่นเดียวกับความสามารถในการแข่งขันส่งออกข้าวทำลาย ' สมาคมยังเชื่อว่าประเทศไทยจะเรียกคืนมงกุฎเป็น ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลกในปีที่มีปริมาณการส่งออกคาดว่าจาก 9 ล้านตันนี้สูงกว่าการประมาณการครั้งก่อนในเดือนมกราคมของ 7.5 ล้านตันเนื่องจากราคาที่ต่ำกว่าข้าวไทยและการแข่งขันการส่งออกที่ลดลงจากอินเดียและเวียดนามในระยะสั้นประธานสมาคม เจริญ Laothamatas กล่าวว่าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดการอุตสาหกรรมข้าวและให้เกิดประโยชน์ที่เป็นธรรมในการมีส่วนร่วมทุกคณะกรรมการข้าวอิสระควรจะตั้งขึ้น แผงควรจะเป็นอิสระจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเพื่อให้อุตสาหกรรมข้าวไทยอาจจะได้รับการพัฒนาโดยปราศจากการแทรกแซงใด ๆ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลแผงควรจะเกี่ยวข้องกับผู้แทนจากเกษตรกรมิลเลอร์, ผู้ค้าท้องถิ่นส่งออกนักวิชาการและผู้แทนจากรัฐบาล หน่วยงานที่ แผงควรจะมีอำนาจเต็มในการวาดขึ้นนโยบายและเพิ่มบทบาทของกลไกตลาด แต่ไม่ควรเข้าไปแทรกแซงในระบบตลาดเขากล่าวว่าเจริญกล่าวว่าประเทศไทยได้เรียนรู้บทเรียนที่มีคุณค่าจากการแทรกแซงตลาดโดยการตั้งราคารับจำนำสูง รัฐบาลต้องเผชิญกับความสูญเสียมากจากการให้คำมั่นว่าและถูกทิ้งไว้กับอัตคัดมหาศาลในขณะที่ระบบการค้าข้าวได้ถูกทำลาย รัฐบาลไม่ควรตั้งโครงการเงินอุดหนุนใด ๆ ตามที่ได้ทำลายทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการค้าเขาชี้ให้เห็นว่าไม่มีมาตรการเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจะสามารถประหยัดอย่างน้อย 45 บาทเป็น 50 บาทพันล้านพันล้านเพื่อช่วยให้เกษตรกรที่มีมาตรการระยะยาวอื่น ๆ เช่นการลด ต้นทุนการผลิตในการจัดการการส่งออกข้าวในฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังที่จะเกิดขึ้นและฤดูเก็บเกี่ยวพืชหลัก 2014-15 เจริญกล่าวว่ารัฐบาลจะเจรจาต่อรองสำหรับการขายข้าวในตลาดฟิวเจอร์สในการส่งออกในต่างประเทศเพื่อให้เกษตรกรจะมีตลาดที่แน่นอนและ ได้ข้าวที่มีเสถียรภาพราคาTrea ประธานกิตติมศักดิ์ Korbsook เอี่ยมสุรีย์กล่าวว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีแผนงานที่ชัดเจนในการพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำโดยไม่มีการแทรกแซงทางการเมืองของเธอบอกว่าคณะกรรมการแห่งชาติในปัจจุบันข้าวนโยบายที่มีประสิทธิภาพในการจัดการอุตสาหกรรมข้าวไม่มี มันประกอบไปด้วยผู้แทนจากฝ่ายรัฐบาล คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติควรจะอยู่ภายใต้คณะกรรมการข้าวตามที่คณะกรรมการจะไม่ขึ้นอยู่กับการเมืองและจะมุ่งเน้นเฉพาะในการพัฒนาอุตสาหกรรมของคณะกรรมการข้าวจะได้รับการจัดตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติเพื่อให้นักการเมืองในอนาคตจะไม่แทรกแซงในอุตสาหกรรมข้าวเป็น ในอดีตที่ผ่านมาที่เธอเข้ามาชู Ophaswongse ประธานกิตติมศักดิ์ของสมาคมกล่าวว่าการส่งออกข้าวไทยในปีนี้จะถึง 9 ล้านตันมูลค่าประมาณ US $ 4750000000 (150 พันล้านดอลลาร์) ปริมาณการส่งออกได้เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ในปีนี้ขณะที่ราคาของ ข้าวไทยได้ลดลงเรื่อย ๆ เพราะตลาดจะทราบว่ารัฐบาลไทยถืออัตคัดยักษ์และความต้องการที่จะปล่อยให้พวกเขาอย่างต่อเนื่องมูลค่าการส่งออกจะไม่เพิ่มขึ้นมากที่สุดเท่าที่ปริมาณเนื่องจากราคาต่ำของข้าวไทย โดยราคาเฉลี่ยต่อตันของข้าวไทยเป็นที่คาดหวังที่ $ 510 ต่อตันเมื่อเทียบกับ $ 620 ต่อตันเมื่อปีที่แล้วกล่าวว่าชูอย่างไรก็ตามราคาข้าวไทยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในเดือนที่ผ่านมา สมาคมเล็งเห็นว่าราคาข้าวไทยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนต่อประมาณร้อยละ 10 หรือ $ 20-30 ตันวิชัยศรีประเสริฐประธานกิตติมศักดิ์อีกกล่าวว่าโครงการรับจำนำไม่ได้สร้างขึ้นเฉพาะการสูญเสียมากไปยังประเทศ แต่ยังทำลายเกษตรกรในระยะยาว ราคาข้าวเปลือกในตลาดท้องถิ่นได้ลดลงอย่างมากจาก 11,000 ตันในระหว่างการให้คำมั่นว่าจะเพียง 7,000 ตันขณะนี้ที่มา: เดอะเนชั่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ( เตรีย ) เมื่อวานนี้ เสนอให้สภาเพื่อสันติภาพและเพื่อการจัดตั้งองค์กรอิสระข้าว " บอร์ด " ประกอบด้วยผู้แทนจากทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการตั้งค่านโยบายการบริหารการพัฒนาข้าวและแผนการส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรม .

ข้อเสนอที่ถูกสร้างตามความคาดหวังว่ารัฐบาล ทหาร จะไม่แทรกแซงกลไกตลาดได้อีกต่อไป มันได้สร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ของประเทศ ตลอดจนทำลายขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกข้าว

สมาคมยังเชื่อว่าประเทศไทยจะเรียกคืนมงกุฎ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลกในปีนี้ คาดว่าปริมาณการส่งออกของ 9 ล้านตันสูงกว่าก่อนฉายในเดือนมกราคมที่ 7.5 ล้านตัน เนื่องจากการลดลงของราคาข้าวไทย และลดการส่งออกการแข่งขันจากอินเดีย และเวียดนาม ในเวลาอันสั้น เจริญ laothamatas

ประธานสมาคมกล่าวว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของอุตสาหกรรมข้าวและการจัดการให้ยุติธรรมผลประโยชน์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการข้าวควรตั้งค่าอิสระ .แผงควรจะฟรีจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเพื่อให้อุตสาหกรรมข้าวไทยจะพัฒนาไปโดยไม่มีการแทรกแซงใด ๆ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล

แผงควรเกี่ยวข้องกับตัวแทนจากเกษตรกร โรงสี พ่อค้าท้องถิ่น ผู้ประกอบการ นักวิชาการ และตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐแผงควรมีอำนาจเต็มที่ในการร่างนโยบาย และเพิ่มบทบาทของกลไกตลาด แต่ไม่ควรแทรกแซงในระบบตลาด เขากล่าวว่า .

เจริญกล่าวว่าประเทศไทยได้เรียนรู้บทเรียนอันมีค่าจากการแทรกแซงตลาดโดยการรับจำนำราคาสูง . รัฐบาลต้องเผชิญกับความสูญเสียครั้งใหญ่จากการจำนำข้าวเปลือก และเหลือสต็อกมหึมาในขณะที่ระบบการค้าข้าวที่ถูกทำลาย รัฐบาลไม่ควรตั้งโครงการเงินอุดหนุนใด ๆตามที่มันได้ทำลายทั้งเกษตรกรและผู้ค้า

เขาชี้ให้เห็นว่าไม่มีมาตรการอุดหนุนของรัฐบาลสามารถบันทึกอย่างน้อยบริหารบาทกับ 50 บาท ช่วยเกษตรกรด้วยมาตรการระยะยาวอื่นๆ เช่น การลดต้นทุนการผลิต

เพื่อบริหารจัดการข้าว ผลผลิตที่จะเกิดขึ้นในฤดูการเก็บเกี่ยวที่สองพืชและ 2014-15 หลักฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลเจริญ กล่าวว่า รัฐบาลสามารถเจรจาขายข้าวในตลาดซื้อขายล่วงหน้าในต่างประเทศ เพื่อที่เกษตรกรจะได้ส่งออกตลาดแน่นอน และได้รับราคาข้าวมีเสถียรภาพ .

ประธานกิตติมศักดิ์ นายชูเกียรติ เตรีย iamsuri กล่าวว่าประเทศไทยต้องเป็นแผนงานที่ชัดเจนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมต้นน้ำถึงปลายน้ำข้าวไม่มีการเมืองแทรกแซง

เธอกล่าวว่า ปัจจุบัน คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ไม่มีประสิทธิภาพในการจัดการอุตสาหกรรมข้าว ที่ประกอบด้วยผู้แทนจากรัฐบาลเท่านั้น ด้านคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ควรอยู่ภายใต้ข้าวบอร์ดบอร์ดจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเมือง และจะเน้นเฉพาะในการพัฒนาอุตสาหกรรม .

ข้าวบอร์ดอาจจะจัดตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติเพื่อให้นักการเมืองในอนาคตจะไม่แทรกแซงในอุตสาหกรรมข้าว ที่ในอดีต เธอเพิ่ม

ophaswongse ชูเกียรติ , ประธานกิตติมศักดิ์ของสมาคมกล่าวว่า การส่งออกข้าวไทยปีนี้น่าจะถึง 9 ล้านตัน มูลค่าประมาณ US $ 4.75 พันล้าน ( bt150 พันล้าน ) .

ปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นมากในปีนี้ ขณะที่ราคาข้าวไทยได้ลดลงเรื่อยๆ เพราะตลาดจะทราบว่ารัฐบาลไทยมียักษ์สต็อกและความต้องการที่จะปล่อยพวกเขาอย่างต่อเนื่อง

มูลค่าการส่งออกจะไม่เพิ่มขึ้นมากเท่าปริมาณเนื่องจากราคาต่ำของข้าวไทย ราคาเฉลี่ยต่อตันของข้าวไทยคาดที่ 510 บาทต่อตัน เมื่อเทียบกับ $ 620 ตันเมื่อปีที่แล้ว กล่าวว่า โครงการ

อย่างไรก็ตาม ราคาข้าวไทยมี bottomed ออกในเดือนล่าสุดสมาคมเล็งเห็นว่าราคาข้าวไทยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนต่อไปนี้ประมาณร้อยละ 10 หรือ $ 20-30 ตัน

วิชัย สมจิตร อีกคนหนึ่งเป็นประธานกิตติมศักดิ์ กล่าวว่า โครงการรับจำนำได้ไม่เพียง แต่สร้างความสูญเสียมหาศาลให้ประเทศ แต่ยังทำลายเกษตรกรในระยะยาว ราคาข้าวเปลือกในตลาดในประเทศได้ลดลงอย่างรวดเร็ว จาก บาท ,000 ตัน ในช่วงรับจำนำเพียง 2% ต่อตันในขณะนี้ ประเทศ


ที่มา :