In languages, a stem is the root wo

In languages, a stem is the root word that takes the suffix or the prefix to form a new word. Often, prefixes change the meaning of a base adjective into its negative and the meaning of a base verb into its opposite. For example, for the adjective "lovable," the prefix "un" turns it into "unlovable."
When added to the end of a base word, suffixes may change the meaning of the word or act as inflections. The suffixes "s" and "es" are added to words to change them into their plural forms. In these cases, each suffix acts as an inflection, as it is added to the root word to create a new form of the word without changing its meaning. In other cases, suffixes are added to verbs to convert them into nouns. For example, a person can add the suffix "or" to the verb "sail" to create the noun "sailor."
Derivational suffixes are added to root words to change their meanings. For example, adding "ism" to the word "race" creates the new word "racism," which has a different meaning.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภาษา ต้นกำเนิดเป็นรากคำที่ใช้คำต่อท้ายหรือนำหน้าเพื่อสร้างคำใหม่ มักจะ คำนำหน้าเปลี่ยนความหมายของคุณศัพท์ฐานเป็นลบความและความหมายของคำกริยาพื้นฐานเป็นของตรงข้าม ตัวอย่างเช่น สำหรับที่คุณศัพท์ "รัก คำนำหน้า"un"เปลี่ยนเป็น"unlovable"เมื่อเพิ่มการสิ้นสุดของคำพื้นฐาน ส่วนต่อท้ายอาจเปลี่ยนความหมายของคำ หรือทำหน้าที่เป็น inflections ส่วนต่อท้าย "s" และ "es" ลงในคำที่เปลี่ยนแปลงลงในฟอร์มของพหูพจน์ ในกรณีเหล่านี้ แต่ละคำต่อท้ายทำหน้าที่เป็นโรคติดเชื้อ เต็มคำรากเพื่อสร้างฟอร์มใหม่ของคำโดยไม่เปลี่ยนความหมาย ในกรณีอื่น ๆ มีเพิ่มส่วนต่อท้ายเพื่อจะแปลงเป็นคำนาม เช่น บุคคลที่สามารถเพิ่มคำต่อท้าย "หรือ" คำกริยา "เรือ" เพื่อสร้างคำนาม "กะลาสี"มีเพิ่มส่วนต่อท้าย derivational รากคำเปลี่ยนความหมาย ตัวอย่างเช่น เพิ่มสร้างคำใหม่ "ism" เพื่อการ "แข่งขัน" "สิทธิมนุษยชน" ซึ่งได้หมายแตกต่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในภาษาลำต้นเป็นรากคำที่ใช้ต่อท้ายหรือคำนำหน้าในรูปแบบคำใหม่ บ่อยครั้งที่คำนำหน้าเปลี่ยนความหมายของคำคุณศัพท์ฐานลงในเชิงลบและความหมายของคำกริยาฐานเข้าตรงข้าม ตัวอย่างเช่นสำหรับคำคุณศัพท์ "น่ารัก" คำนำหน้า "อู" เปลี่ยนมันเป็น "น่ารัก."
เมื่อเข้ามาในตอนท้ายของคำฐานต่อท้ายอาจมีการเปลี่ยนแปลงความหมายของคำหรือการกระทำเป็นโทน ส่วนต่อท้าย "S" และ "ES" จะมีการเพิ่มคำที่จะเปลี่ยนพวกเขาในรูปแบบที่เป็นพหูพจน์ของพวกเขา ในกรณีเหล่านี้แต่ละคำต่อท้ายทำหน้าที่เป็นโรคติดเชื้อในขณะที่มันจะถูกเพิ่มรากคำในการสร้างรูปแบบใหม่ของคำโดยไม่ต้องเปลี่ยนความหมายของมัน ในกรณีอื่น ๆ ต่อท้ายจะมีการเพิ่มคำกริยาแปลงให้เป็นคำนาม ตัวอย่างเช่นคนที่สามารถเพิ่มปัจจัย "หรือ" คำกริยา "เรือใบ" เพื่อสร้างรูปธรรม "กะลาสี."
ต่อท้าย derivational จะมีการเพิ่มคำรากที่จะเปลี่ยนความหมายของพวกเขา ตัวอย่างเช่นการเพิ่ม "ลัทธิ" กับคำว่า "การแข่งขัน" สร้างคำใหม่ "เหยียดเชื้อชาติ" ซึ่งมีความหมายที่แตกต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในภาษา ก้านเป็นรากคำที่ใช้ต่อท้ายหรือคำนำหน้าเพื่อสร้างคำใหม่ มักจะใช้เปลี่ยนความหมายของฐานคำคุณศัพท์เป็นลบ และความหมายของคำกริยาในฐานที่ตรงกันข้าม ตัวอย่างเช่น คำคุณศัพท์ " น่ารัก " คำนำหน้า " ยูเอ็น " เปลี่ยนเป็น " ไม่น่ารัก " .เมื่อเพิ่มส่วนท้ายของฐานคำต่อท้ายอาจจะเปลี่ยนความหมายของคำหรือเป็น inflections . ส่วนต่อท้าย " S " และ " es " จะเพิ่มคำเพื่อเปลี่ยนให้เป็นพหูพจน์ของแบบฟอร์ม ในกรณีเหล่านี้แต่ละทำหน้าที่เป็นการผันคำต่อท้าย เป็นเพิ่มรากคำเพื่อสร้างรูปแบบใหม่ของคำโดยไม่เปลี่ยนแปลงความหมายของมัน ในกรณีอื่น ๆเพิ่มต่อท้ายกริยาเพื่อแปลงให้เป็นคำนาม ตัวอย่างเช่น บุคคลสามารถเพิ่มคำต่อท้าย " หรือ " คำกริยา " เรือใบ " เพื่อสร้างคำนาม " กะลาสี "derivational ต่อท้ายเพิ่มรากคำเพื่อเปลี่ยนความหมาย ตัวอย่างเช่น การเพิ่ม " ลัทธิ " กับคำว่า " เชื้อชาติ " สร้างคำใหม่ " เหยียดเชื้อชาติ " ซึ่งมีความหมายแตกต่างกัน