Position the person on her back. Ta

Position the person on her back. Tap or shake the person, to see if she has regained consciousness. In most cases, people who have fainted regain consciousness quickly (usually between 20 seconds and 2 minutes).[3]
• When people faint, they fall, which brings the head to the same level of the heart. In this position, it is easier for the heart to pump blood to the brain. Therefore, recovery can be just as sudden as fainting is.[4]
• If the person regains consciousness, inquire about any pre-existing symptoms or conditions that may have caused the fainting. Symptoms such as headache, seizure, numbness or tingling, chest pain or trouble breathing are all worrisome. In such cases, emergency services (EMS) should be called.[5]
3. 3Help the person rest if she regains consciousness. Loosen any constrictive clothing (like a tie or collar) on the person to make her comfortable.
• Let the person lay on the ground and rest for at least 15-20 minutes. This provides enough time for blood to return to the brain.[6]
• Give the person room to breath, and fan the victim with fresh air. If fainting happens in a public place, crowds often gather around to see what happened. Ask people to back up unless they are actually helping the situation.
• Give the person water and/or food once she is conscious and stable; food and water will help revive her. Dehydration and hypoglycemia (low blood sugar) are common causes of fainting.
• Don’t let the person get up too quickly. Encourage her to stay lying down for a few minutes. This will allow blood flow to the brain to fully regain. Additionally, abrupt rise may precipitate another fainting episode. Once people have regained consciousness, they may try to brush it off by standing and trying to walk too soon after the incident.
• If the person has a head injury, additional symptoms (such as difficulty breathing, chest pain, severe headache, etc.) or a preexisting condition (pregnancy, heart disease, etc.), she should consult a doctor.
4. 4Check for a pulse if the person doesn't regain consciousness.[7] Call or ask someone else to call EMS. This is also an opportunity to have someone look for an Automatic External Defibrillator (AED). Assess the pulse at the person's neck because that is where it will be the strongest. Place your index and third fingers on the neck of the person to the side of the windpipe and feel for the pulse.[8]
• Assess the pulse only on one side of the neck at a time. Checking both sides can compromise the blood supply to the brain.
• If there is a pulse, try to raise the person’s legs a couple of feet above the ground. This helps blood flow back to the brain.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตำแหน่งบุคคลบนหลังของเธอ เคาะ หรือเขย่าคน ดูถ้าเธอมีงยนต์จิตสำนึก ในกรณีส่วนใหญ่ คนมีดิฉันฟื้นสติได้อย่างรวดเร็ว (ปกติระหว่าง 20 วินาทีและนาที) [3]•เมื่อคนสลบไสลเพราะ พวกเขาตก ซึ่งทำให้หัวของหัวใจ ในตำแหน่งนี้ มันเป็นให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปยังสมอง ดังนั้น กู้คืนได้เพียงเป็นฉับพลันเป็นกระสับกระส่าย [4]•หากผู้ฟื้นสติ สอบถามเกี่ยวกับอาการที่มีอยู่ก่อนหรือเงื่อนไขที่อาจทำให้เกิดการกระสับกระส่าย อาการเช่นปวดหัว จับกุม มึนงง หรือรู้สึกเสียวซ่า หายใจปวดหรือมีปัญหาเรื่องหน้าอกมีทั้งวิตก ในกรณี บริการฉุกเฉิน (EMS) จะได้ชื่อว่า [5]3. 3Help เหลือคนถ้าเธอฟื้นสติ คลายเสื้อผ้า constrictive (เช่นผูกหรือคอ) ในคนจะทำให้เธอสบาย•ให้บุคคลที่วางบนพื้นดินและส่วนที่เหลืออย่างน้อย 15-20 นาที มีเวลาเพียงพอสำหรับเลือดกลับไปยังสมอง [6]•ห้องคนให้ลมหายใจ และพัดลมเหยื่ออากาศสดชื่น ถ้ากระสับกระส่ายเกิดขึ้นในสาธารณะ ฝูงชนมักจะรวบรวมรอบเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น ถามคนสำรองยกเว้นว่าพวกเขากำลังช่วยสถานการณ์จริง•ให้บุคคลน้ำหรืออาหารเมื่อเธอมีสติ และมั่น คง อาหารและน้ำจะช่วยชุบชีวิตเธอ ภาวะขาดน้ำและภาวะน้ำตาลในเลือด (น้ำตาลในเลือดต่ำ) เป็นสาเหตุของการกระสับกระส่าย•ไม่ให้คนลุกขึ้นเร็วเกินไป ขอให้เธอพักนอนกี่นาที นี้จะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดไปยังสมองเพื่อให้เต็ม นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นทันทีทันใดอาจตกตะกอนตอน fainting อื่น เมื่อคนมีงยนต์สติ พวกเขาอาจพยายามแปรงออก โดยยืนอยู่ และพยายามเดินเร็วเกินไปหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น•ถ้าบุคคลมีการบาดเจ็บที่ศีรษะ อาการเพิ่มเติม (เช่นโรคไต อาการเจ็บหน้าอก ปวด ฯลฯ) หรือโรคฟิ (ตั้งครรภ์ โรคหัวใจ ฯลฯ), เธอควรปรึกษาแพทย์4. 4Check ชีพจรถ้าบุคคลไม่ฟื้นสติ [7] โทร หรือขอให้เรียก EMS นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่จะมีคนมองสำหรับอัตโนมัติภายนอกเครื่องกระตุ้นหัวใจ (AED) ประเมินชีพจรที่คอของบุคคลเนื่องจากเป็นที่คุณจะสามารถที่แข็งแกร่ง ทำดัชนีและสามนิ้วของคุณบนบุคคลด้านข้างของหลอดลมคอ และรู้สึกสำหรับชีพจร [8]•ประเมินชีพจรเพียงด้านหนึ่งของคอครั้ง ตรวจสอบทั้งสองด้านสามารถประนีประนอมเลือดไปยังสมอง•ถ้ามีชีพจร พยายามยกขาของบุคคลสองฟุตเหนือพื้นดิน นี้ช่วยให้เลือดไหลกลับไปยังสมอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตำแหน่งคนบนหลังของเธอ แตะหรือเขย่าคนเพื่อดูว่าเธอได้ฟื้นคืนสติ ในกรณีส่วนใหญ่คนที่มีลมฟื้นได้อย่างรวดเร็ว (ปกติจะอยู่ระหว่าง 20 วินาทีและ 2 นาที). [3]
•เมื่อมีคนเป็นลมพวกเขาตกอยู่ซึ่งนำหัวให้อยู่ในระดับเดียวกันของหัวใจ ในตำแหน่งนี้มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับหัวใจสูบฉีดเลือดไปยังสมอง ดังนั้นการกู้คืนสามารถเช่นเดียวกับเป็นลมอย่างกะทันหันเป็น. [4]
•ถ้าคนที่รู้สึกสอบถามเกี่ยวกับอาการที่มีอยู่ก่อนหรือเงื่อนไขใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดเป็นลม อาการเช่นปวดหัว, โรคลมชัก, ชาหรือรู้สึกเสียวซ่าเจ็บหน้าอกหายใจลำบากหรือน่าเป็นห่วงทั้งหมด ในกรณีเช่นบริการฉุกเฉิน (EMS) ควรจะเรียกว่า. [5]
3 3Help ส่วนที่เหลือคนที่ถ้าเธอรู้สึกตัว คลายเสื้อผ้าหดใด ๆ (เช่นการผูกหรือปก) กับคนที่จะทำให้เธอสบาย.
•ให้คนนอนอยู่บนพื้นและส่วนที่เหลือเป็นเวลาอย่างน้อย 15-20 นาที นี้จะให้เวลามากพอสำหรับเลือดที่จะกลับไปยังสมอง. [6]
•ให้ห้องบุคคลเพื่อลมหายใจและแฟนเหยื่อที่มีอากาศบริสุทธิ์ หากเป็นลมที่เกิดขึ้นในสถานที่สาธารณะฝูงชนมักจะมารวมตัวกันรอบ ๆ เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น ขอให้คนที่จะกลับขึ้นจนกว่าพวกเขาจะเป็นจริงช่วยให้สถานการณ์.
•ให้น้ำบุคคลและ / หรืออาหารเมื่อเธอมีสติและมีเสถียรภาพ; อาหารและน้ำจะช่วยให้เธอฟื้น การคายน้ำและภาวะน้ำตาลในเลือด (น้ำตาลในเลือดต่ำ) เป็นสาเหตุของการเป็นลม.
•อย่าปล่อยให้คนที่ได้รับการขึ้นเร็วเกินไป กระตุ้นให้เธอนอนลงอยู่ไม่กี่นาที ซึ่งจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดไปยังสมองที่จะฟื้นอย่างเต็มที่ นอกจากนี้การเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันอาจเกิดการตกตะกอนตอนเป็นลมอีก เมื่อคนได้ฟื้นคืนสติพวกเขาอาจพยายามที่จะแปรงออกโดยการยืนและพยายามที่จะเดินเร็วเกินไปหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.
•หากบุคคลที่มีการบาดเจ็บที่ศีรษะอาการเพิ่มเติม (เช่นหายใจลำบากเจ็บหน้าอกปวดหัวอย่างรุนแรง ฯลฯ ) หรือสภาพมาก่อน (การตั้งครรภ์, โรคหัวใจ ฯลฯ ) เธอควรจะปรึกษาแพทย์.
4 4Check สำหรับชีพจรถ้าคนที่ไม่ได้สติได้. [7] สอบถามหรือขอให้คนอื่นเรียก EMS นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่จะมีใครสักคนมองหา External Defibrillator อัตโนมัติ (AED) ประเมินชีพจรที่คอของบุคคลนั้นเพราะนั่นเป็นที่ที่มันจะได้รับที่แข็งแกร่ง วางดัชนีและนิ้วมือที่สามของคุณบนคอของบุคคลที่ด้านข้างของหลอดลมและความรู้สึกสำหรับชีพจร. [8]
•ประเมินชีพจรเพียงด้านใดด้านหนึ่งของลำคอในเวลา การตรวจสอบทั้งสองฝ่ายสามารถประนีประนอมการส่งเลือดไปยังสมอง.
•หากมีการเต้นของชีพจรพยายามที่จะยกขาของคนสองสามฟุตเหนือพื้นดิน ซึ่งจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดกลับไปยังสมอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตำแหน่งบุคคลบนหลังของเธอ เคาะหรือเขย่า คน เพื่อดูว่าเธอฟื้นแล้ว ในกรณีส่วนใหญ่คนที่เป็นลมฟื้นได้อย่างรวดเร็ว ( โดยปกติจะอยู่ระหว่าง 20 วินาที และ 2 นาที ) [ 2 ]- เมื่อมีคนเป็นลม ล้ม ซึ่งนำหัวไปในระดับเดียวกับหัวใจ ในตำแหน่งนี้ มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับหัวใจที่จะปั๊มเลือดไปยังสมอง ดังนั้นการกู้คืนได้อย่างฉับพลัน เช่น เป็นลม คือ [ 5 ]- ถ้าเขาฟื้นขึ้นมา สอบถามเกี่ยวกับอาการที่มีอยู่ก่อนหรือเงื่อนไขที่อาจเกิดจากการเป็นลม ใด ๆ เช่นอาการปวดหัว , อาการชัก , ชาหรือรู้สึกเสียวซ่า , เจ็บหน้าอกหรือปัญหาในการหายใจจะน่าเป็นห่วง ในบางกรณี บริการฉุกเฉิน ( EMS ) ควรจะเรียกว่า [ 5 ]3 . 3help คนส่วนที่เหลือถ้าเธอจะได้สติ คลายการหดตัวเสื้อผ้าใด ๆ ( เหมือนผูกหรือปก ) คนที่ทำให้เธอสบายใจ- ให้คนที่นอนอยู่บนพื้น และพักผ่อนอย่างน้อย 15-20 นาที นี้จะให้เวลามากพอสำหรับเลือดกลับไปยังสมอง [ 6 ]- ให้ห้องคนที่ลมหายใจ และแฟนคลับของเหยื่อ กับอากาศที่สดชื่น ถ้าเป็นลมเกิดขึ้นในที่สาธารณะ ผู้คนมักจะมารวมตัวกันเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น ขอให้คนที่จะกลับขึ้นมา ถ้าพวกเขาเป็นจริงช่วยให้สถานการณ์- ให้คนน้ำและ / หรืออาหารเมื่อเธอมีสติและมั่นคง อาหารและน้ำจะช่วยชุบชีวิตเธอ การขาดน้ำ และภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ( น้ำตาลในเลือดต่ำ ) สาเหตุของการเป็นลม- อย่าให้คนลุกขึ้นเร็วเกินไป กระตุ้นให้เธอพักนอนในไม่กี่นาที นี้จะช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้อย่างเต็มที่อีกครั้ง . นอกจากนี้ ฉับพลันเพิ่มขึ้นอาจตกตะกอนอีกเป็นลมตอน ถ้าคนมีสติ พวกเขาอาจพยายามที่จะขจัดมันออกไปด้วยการยืนและพยายามเดินเร็วไป หลังจากเหตุการณ์นั้น- ถ้าบุคคลได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ อาการเพิ่มเติม ( เช่น หายใจลำบาก เจ็บหน้าอกรุนแรง ปวดศีรษะ ฯลฯ ) หรือ อยู่ภาวะการตั้งครรภ์ โรคหัวใจ ฯลฯ ) , เธอควรรีบปรึกษาแพทย์4 . 4check สำหรับชีพจร ถ้าคนไม่ฟื้นคืนสติ [ 7 ] โทรหรือถามคนอื่นที่จะโทร ems นี้ยังเป็นโอกาสที่จะมีใครบางคนมองหาเครื่องกระตุ้นหัวใจภายนอกอัตโนมัติ ( AED ) ประเมินชีพจรที่คอของคน เพราะนั่นคือที่ที่มันจะจบ สถานที่ของคุณและดัชนีนิ้วที่สามบนคอของคนด้านข้างของหลอดลมและความรู้สึกสำหรับชีพจร [ 8 ]- ประเมินชีพจรบนด้านหนึ่งของคอในเวลา ตรวจสอบทั้งสองฝ่ายสามารถประนีประนอมการส่งเลือดไปยังสมอง- ถ้าไม่มีชีพจร พยายามเพิ่มกำลังขาคนสองสามฟุตเหนือพื้นดิน นี้จะช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมอง