The performance of Eq. (6) is also

The performance of Eq. (6) is also verified with the recent
experiment carried out by Shannag and Mourad [29]. They have
tested 150 mm diameter concrete cylinder confined with 2 and 4
layer mesh ferrocement jacket. The wire mesh was 12.6 mm
square opening and 0.94 mm diameter wire, having yield strength
of 385 MPa. The jacketing height was 280 mm. Table 8 shows the
experimental results of Shannag and Mourad and the predicted
results by using the current model [23]. The table clearly shows
excellent agreement between the test data of Shannag and Mourad
and predicted results using the current model [23]. The maximum
deviation is observed 7.4% for a specimen confined with 4 layer
mesh ferrocement jacket.
Although, the proposed model is based on maximum two layer
wire mesh, it can be applied for more than two layer wire mesh.
In the model, the equation for ‘‘confining pressure (fcf)’’ (Eq. (1)) is
developed based on the strain compatibility between the core concrete
and the external jacket; and the force equilibrium in any section
of confined concrete. Thus, the Eqs. (1) and (2) can be applied
for any number of mesh layer in the external ferrocement jacket.
Although, the value obtained for the confinement effectiveness
coefficient (K) is based on maximumtwo layer wire mesh, it can predict
the strength of concrete very closely that are confined by 4 layer
wire mesh. For a specimen confined with 4 layer mesh ferrocement
jacket, the maximum deviation between the predicted and the
experimental results is observed 7.4%; however, the minimum is
4.6% (Table 8). None of the previously proposed models can predict
the strength of confined concrete without a deviation from the
experimental results, and a 7% deviation is regarded as quite reasonable
[30]. Therefore, the equation can be applied for predicting the
strength of concrete confined by up to 4 layers of wire mesh.
5. Conclusion
In this study a total of 27 concrete cylinders with different size
were tested under monotonic compression. Based on the obtained
test results, the following conclusion can be drawn:
1. The external ferrocement jacket can enhance the load carrying
capacity, ductility and energy absorption capacity of concrete
specimens. This enhancement is more prominent in smaller
specimens.
2. The failure pattern and stress–strain behavior indicates that
single layer mesh ferrocement jacket cannot provide significant
external confinement. However, double layer mesh ferrocement
jacket can provide sufficient confinement to enhance the behavior
of confined concrete.
3. An analytical model is proposed to predict the strength of ferrocement
confined concrete. The predicted results agree very closely
with the test data available in the literature.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบประสิทธิภาพของ Eq. (6) กับล่าสุดการทดสอบที่ดำเนิน โดย Shannag และ Mourad [29] พวกเขาได้ทดสอบ 150 มม.เส้นผ่าศูนย์กลางถังคอนกรีตขัง 2 และ 4ชั้นตาข่าย ferrocement เสื้อ ลวดตาข่าย 12.6 mmเปิดตารางและ 0.94 มม.เส้นผ่าศูนย์กลางลวด มีความแข็งแรงผลผลิตของแรง 385 ความสูง jacketing ถูกราคา 280 mm. 8 ตารางแสดงการผลการทดลองของ Shannag และ Mourad และการคาดการณ์ผลลัพธ์ โดยใช้รุ่นปัจจุบัน [23] ตารางแสดงชัดเจนแห่งข้อตกลงระหว่างการทดสอบข้อมูลของ Shannag และ Mouradและผลลัพธ์ที่คาดการณ์โดยใช้แบบจำลองปัจจุบัน [23] สูงสุดความเบี่ยงเบนคือสังเกต 7.4% สำหรับตัวอย่างที่ถูกคุมขัง มี 4 ชั้นเสื้อตาข่าย ferrocementถึงแม้ว่า แบบเสนอตั้งอยู่บนชั้นที่สองสูงสุดลวดตาข่าย ใช้สำหรับมากกว่าสองชั้นลวดตาข่ายในแบบจำลอง สมการ '' confining ดัน (fcf)'' เป็น (Eq. (1))พัฒนาตามต้องใช้ความเข้ากันได้ระหว่างหลักคอนกรีตและ เสื้อภายนอก และสมดุลแรงในส่วนใด ๆคอนกรีตจำกัด ดังนั้น Eqs (1) และ (2) สามารถนำไปใช้มีจำนวนชั้นตาข่ายในเสื้อ ferrocement ภายนอกถึงแม้ว่า ได้ค่าประสิทธิภาพเข้าสัมประสิทธิ์ (K) อยู่บน maximumtwo ชั้นลวดตาข่าย มันสามารถทำนายความแข็งแรงของคอนกรีตอย่างใกล้ชิดที่ถูกคุมขัง โดยชั้นที่ 4ลวดตาข่าย สำหรับตัวอย่างที่ถูกคุมขัง มี 4 ชั้นตาข่าย ferrocementjacket ค่าเบี่ยงเบนสูงสุดระหว่างการคาดการณ์และผลการทดลองจะสังเกต 7.4% อย่างไรก็ตาม ต่ำสุดเป็น4.6% (ตาราง 8) ไม่มีรูปแบบนำเสนอก่อนหน้านี้สามารถทำนายความแข็งแรงของคอนกรีตจำกัดโดยไม่มีความแตกต่างจากการผลการทดลอง และเบี่ยงเบน 7% ถือเป็นค่อนข้างเหมาะสม[30] . ดังนั้น จึง สามารถใช้สมการสำหรับการคาดการณ์ความแข็งแรงของคอนกรีตที่ถูกคุมขัง โดยชั้นที่ 4 ของเส้นลวดตาข่าย5. บทสรุปในการศึกษานี้เป็นผลรวมของถัง 27 คอนกรีตที่มีขนาดแตกต่างกันมีทดสอบภายใต้อัด monotonic ตามที่ได้รับสามารถออกผลการทดสอบ ข้อสรุปต่อไปนี้:1.เสื้อ ferrocement ภายนอกสามารถเพิ่มกำลังโหลดเกิดความเหนียวโดย กำลังการผลิต และกำลังการดูดซับพลังงานของคอนกรีตไว้เป็นตัวอย่าง เพิ่มประสิทธิภาพนี้จะโดดเด่นมากในขนาดเล็กไว้เป็นตัวอย่าง2. ความล้มเหลวในรูปแบบและความเครียด – ต้องใช้ลักษณะการทำงานหมายถึงชั้นเดียวตาข่าย ferrocement เสื้อไม่ให้สำคัญภายนอกเข้า อย่างไรก็ตาม สองชั้นประกบ ferrocementเสื้อสามารถให้เข้าเพียงพอเพื่อเพิ่มลักษณะการทำงานคอนกรีตจำกัด3. นำเสนอแบบจำลองวิเคราะห์ทำนายความแข็งแรงของ ferrocementคอนกรีตจำกัด ยอมรับผลการคาดการณ์อย่างใกล้ชิดมีการทดสอบข้อมูลมีอยู่ในวรรณคดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประสิทธิภาพการทำงานของสมการ (6) มีการยืนยันกับที่ผ่าน
การทดสอบที่ดำเนินการโดย Shannag และ Mourad [29] พวกเขาได้
ผ่านการทดสอบ 150 มิลลิเมตรเส้นผ่าศูนย์กลางถังคอนกรีตถูกคุมขังมี 2 และ 4
เสื้อตาข่าย ferrocement ชั้น ลวดตาข่ายเป็น 12.6 มม
เปิดตารางและ 0.94 มิลลิเมตรเส้นผ่าศูนย์กลางลวดที่มีความแข็งแรงให้ผลผลิต
385 MPa ความสูง jacketing เป็น 280 มิลลิเมตร ตารางที่ 8 แสดงให้เห็นถึง
ผลการทดลองของ Shannag และ Mourad และคาดการณ์
ผลการค้นหาโดยใช้รูปแบบในปัจจุบัน [23] ตารางแสดงให้เห็นชัดเจน
ในข้อตกลงที่ดีเยี่ยมระหว่างการทดสอบข้อมูลของ Shannag และ Mourad
และผลที่คาดการณ์โดยใช้รุ่นปัจจุบัน [23] สูงสุด
เบี่ยงเบนเป็นที่สังเกต 7.4% สำหรับชิ้นงานที่ถูกคุมขังมี 4 ชั้น
เสื้อตาข่าย ferrocement.
แม้ว่าการนำเสนอรูปแบบขึ้นอยู่กับสองชั้นสูงสุด
ตาข่ายลวดก็สามารถนำมาใช้มานานกว่าสองตาข่ายลวดชั้น.
ในรูปแบบสมการ สำหรับ '' ดัน จำกัด (FCF) '' (. สมการ (1)) จะถูก
พัฒนาบนพื้นฐานของการทำงานร่วมกันระหว่างสายพันธุ์หลักที่เป็นรูปธรรม
และแจ็คเก็ตภายนอก และความสมดุลบังคับใช้ในส่วนใด ๆ
ของคอนกรีตที่ถูกคุมขัง ดังนั้น EQS (1) และ (2) สามารถนำมาใช้
สำหรับจำนวนของชั้นตาข่ายในแจ็คเก็ต ferrocement ภายนอก.
แม้ว่าค่าที่ได้รับสำหรับประสิทธิภาพการคุมขัง
สัมประสิทธิ์ (K) จะขึ้นอยู่กับตาข่ายลวดชั้น maximumtwo ก็สามารถคาดการณ์
ความแข็งแรงของคอนกรีต อย่างใกล้ชิดว่าจะถูกคุมขังโดย 4 ชั้น
ลวดตาข่าย สำหรับชิ้นงานที่ถูกคุมขังมี 4 ชั้นตาข่าย ferrocement
เสื้อเบี่ยงเบนสูงสุดระหว่างที่คาดการณ์และ
ผลการทดลองเป็นที่สังเกต 7.4%; แต่ขั้นต่ำเป็น
4.6% (ตารางที่ 8) ไม่มีรูปแบบที่นำเสนอก่อนหน้านี้สามารถทำนาย
ความแข็งแรงของคอนกรีตที่ถูกคุมขังโดยไม่มีการเบี่ยงเบนจาก
ผลการทดลองและการเบี่ยงเบน 7% ถือได้ว่าเป็นค่อนข้างเหมาะสม
[30] ดังนั้นสมการที่สามารถนำมาใช้ในการทำนาย
ความแข็งแรงของคอนกรีตที่ถูกคุมขังได้ถึง 4 ชั้นของตาข่ายลวด.
5 สรุป
ในการศึกษาครั้งนี้ทั้งหมด 27 ถังคอนกรีตที่มีขนาดแตกต่างกัน
มีการทดสอบภายใต้แรงอัดต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับการที่ได้รับ
ผลการทดสอบดังต่อไปนี้ข้อสรุปที่สามารถวาด:
1 แจ็คเก็ต ferrocement ภายนอกสามารถเพิ่มภาระแบก
ความจุความเหนียวและความสามารถในการดูดซับพลังงานของคอนกรีต
ตัวอย่าง การเพิ่มประสิทธิภาพนี้จะโดดเด่นมากขึ้นในขนาดเล็ก
ตัวอย่าง.
2 รูปแบบพฤติกรรมความล้มเหลวและความเครียดแสดงให้เห็นว่า
เสื้อตาข่าย ferrocement ชั้นเดียวไม่สามารถให้อย่างมีนัยสำคัญ
ที่คุมขังภายนอก อย่างไรก็ตามสองชั้นตาข่าย ferrocement
เสื้อสามารถให้คุมขังเพียงพอที่จะเสริมสร้างพฤติกรรม
ของคอนกรีตที่ถูกคุมขัง.
3 รูปแบบการวิเคราะห์มีการเสนอที่จะคาดการณ์ความแข็งแรงของ ferrocement
ถูกคุมขังที่เป็นรูปธรรม ผลการคาดการณ์อย่างใกล้ชิดเห็นด้วย
กับการทดสอบข้อมูลที่มีอยู่ในวรรณคดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประสิทธิภาพของอีคิว ( 6 ) ยังยืนยันกับล่าสุด
การทดลองดำเนินการโดย shannag และ mourad [ 29 ] พวกเขามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 150 มม.
ทดสอบคอนกรีตรูปทรงกระบอกคับกับ 2 และ 4
เฟอร์โรซีเมนต์ชั้นตาข่าย เสื้อแจ็คเก็ต ลวดตาข่ายสี่เหลี่ยมเปิดได้ 12.6 มิลลิเมตรและลวดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง
0.94 มม. มีความแข็งแรงให้ผลผลิต
ของ 385 เมกะปาสคาล แจ็คเก็ตที่ความสูง 280 มิลลิเมตร ตารางที่ 8 แสดง
ผลของ shannag และ mourad และคาดการณ์
ผลโดยใช้แบบจำลองกระแส [ 23 ] ตารางแสดงให้เห็นชัดเจน
ข้อตกลงยอดเยี่ยมระหว่างข้อมูลและทดสอบ shannag mourad
และคาดการณ์ผลลัพธ์ของการใช้แบบจำลองกระแส [ 23 ] ความเบี่ยงเบนสูงสุด
เป็นที่สังเกต 7.4% สำหรับตัวอย่างชั้น 4 เฟอร์โรซีเมนต์คับ

แต่ตาข่าย เสื้อแจ็คเก็ตรูปแบบจะขึ้นอยู่กับสองชั้น
ลวดตาข่ายสูงสุดสามารถใช้มากกว่า 2 ชั้นลวดตาข่าย .
ในรูปแบบสมการ ' 'confining ความดัน ( fcf ) ' ' ( อีคิว ( 1 )
การพัฒนาบนพื้นฐานของความเครียดความเข้ากันได้ระหว่างแกนคอนกรีต
และแจ็คเก็ตภายนอก ; และการสมดุลแรงในส่วน
จำกัดคอนกรีต ดังนั้น , EQS . ( 1 ) และ ( 2 ) สามารถใช้
สำหรับหมายเลขใด ๆของชั้นตาข่ายในรั้วภายนอกเสื้อ
ถึงแม้ว่ามูลค่าที่ได้รับสำหรับการประสิทธิผลค่าสัมประสิทธิ์
( K ) ตาม maximumtwo ชั้นลวดตาข่าย สามารถทำนายความแข็งแรงของคอนกรีต
อย่างใกล้ชิดที่ถูกจำกัดโดย 4 ตาข่ายลวดชั้น

สำหรับตัวอย่างคับกับ 4 เสื้อ
รั้วตาข่ายชั้นเบี่ยงเบนสูงสุดระหว่าง คาดการณ์และ
ผลการทดลองพบ 7.4% อย่างไรก็ตาม ขั้นต่ำ
4.6% ( ตารางที่ 8 ) ไม่มีของรุ่นก่อนหน้านี้ที่เสนอสามารถทำนายความแข็งแรงของคอนกรีตโดยคับ

ส่วนเบี่ยงเบน จากผลการทดลอง และ 7% ส่วนถือว่าค่อนข้างสมเหตุสมผล
[ 30 ] ดังนั้นสมการที่สามารถใช้เพื่อทำนายกำลังอัดของคอนกรีตคับ
ถึง 4 ชั้นของตาข่ายลวด .
5สรุป
ในการศึกษานี้ทั้งหมด 27 ถังคอนกรีตที่มีขนาดแตกต่างกัน
ถูกทดสอบภายใต้เนื่องการบีบอัด ได้มา
ผลข้อสรุปต่อไปนี้สามารถวาด :
1 ส่วนเฟอร์โรซีเมนต์ภายนอกเสื้อสามารถเพิ่มภาระแบก
ความจุ ความเหนียวและพลังงานการดูดซึมความจุคอนกรีต

การเพิ่มประสิทธิภาพนี้จะโดดเด่นมากขึ้นในชิ้นงานขนาดเล็ก
.
2ความล้มเหลวของรูปแบบและพฤติกรรมความเครียดและความเครียด พบว่าเสื้อชั้นตาข่ายเดียว
ไม่ได้เฟอร์โรซีเมนต์ให้พันธนาการภายนอกที่สำคัญ

อย่างไรก็ตาม สองชั้น ตาข่ายรั้ว
เสื้อแจ็คเก็ตสามารถให้พันธนาการเพียงพอเพื่อเพิ่มพฤติกรรมของคอนกรีตคับ
.
3 แบบจำลองการวิเคราะห์ที่เสนอให้ทำนายความแข็งแรงของแผ่นเฟอร์โรซีเมนต์
คับ คอนกรีตที่คาดการณ์ผลลัพธ์ที่เห็นด้วยอย่างใกล้ชิด
กับข้อมูลที่มีอยู่ในวรรณคดี