While most polls point to Hillary C

While most polls point to Hillary Clinton defeating Donald Trump in the presidential election, the Democrat faces an uphill battle to stimulate the US economy in the short run because the Republican Party is likely to tighten its grip on other offices, a local economist says.

"If she [Mrs Clinton] wins the election, the financial markets might be stable in the short term, but it will be hard for her government to deliver policies because the Republicans will be securing a majority in both houses of the Congress," said Amornthep Chawla, head of research at CIMB Thai Bank.
"I think people are paying less attention to the election of the two houses of the Congress, which is very important to policies issued by both candidates."
In the case of Mrs Clinton winning the election, the US economy will improve next year but not at a fast clip, Mr Amornthep said.
In his view, Mr Trump would be more successful in stimulating the economy in the short run because it would be easier for him to deliver on policies backed by a Republican-led congress.
"Also, one of the policies promised by Mr Trump is lower income taxes for the wealthy and corporations, and that should trickle down through the economy by increasing the wages of workers and employees," Mr Amornthep said.
But a win for Mr Trump could be a double-edged sword for the world's largest economy in the long run, as the Republican-led Congress might enact a batch of stimulus measures that could inflate bubbles in market.
The great challenge for both candidates is the high and rising US public debt.
"The US public debt is currently at around 77% of the GDP, and the ratio is expected to keep rising in the next 10 years to 86% if Mrs Clinton wins the White House and 105% if Mr Trump wins," Mr Amornthep said.
Both scenarios would raise the public debt to its legal limit by next March, just two months after the new president's inauguration.
If Mr Trump pulls off a win, investors in financial markets will turn risk-averse and seek safe-haven assets such as the US dollar, the Japanese yen and gold, Mr Amornthep said.
But capital is expected to flow into riskier assets in Asia, with the baht then poised to solidify in the near term if Mrs Clinton wins.
"We think these fluctuations will only persist for a short period because the market will pay more attention to a possible Fed rate hike, which is expected to happen at the end of this year," Mr Amornthep said.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในขณะที่สำรวจส่วนใหญ่ชี้ไปเอาโดนัลด์ทรัมป์ชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีคลินตัน ประชาธิปัตย์ใบหน้าการต่อสู้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นสหรัฐอเมริกาเนื่องจากพรรคมีแนวโน้มให้แน่นจับของในสำนักงานอื่น ๆ เศรษฐศาสตร์ท้องถิ่นที่กล่าว"ถ้าเธอ [นางคลินตัน] ชนะการเลือกตั้ง ตลาดการเงินอาจจะมีเสถียรภาพในระยะสั้น แต่มันจะยากสำหรับรัฐบาลของเธอส่งนโยบายเนื่องจากเพราะการจะรักษาความปลอดภัยส่วนใหญ่ในบ้านทั้งสองของการประชุม กล่าวว่า Amornthep Chawla หัวหน้าสำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบีไทย"ผมคิดว่า คนจะสนใจน้อยกว่าการเลือกตั้งของสองบ้านของสภาคองเกรส ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากกับกรมธรรม์ที่ออก โดยให้ผู้สมัคร"ในกรณีของนางคลินตันชนะการเลือกตั้ง เศรษฐกิจสหรัฐจะปรับปรุงในปีหน้า แต่ไม่ดูคลิปเร็ว นาย Amornthep กล่าวว่าในมุมมองของเขา นายทรัมป์จะประสบความสำเร็จมากในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เพราะมันจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาเพื่อให้นโยบายสนับสนุนจากสภาคองเกรสนำรีพับลิกัน"ยัง นโยบายสัญญาไว้ โดยนายทรัมพ์อย่างใดอย่างหนึ่งคือลดภาษีสำหรับมั่งคั่ง และบริษัท และที่ควรไหลลงผ่านเศรษฐกิจ โดยการเพิ่มค่าจ้างของคนงานและพนักงาน นาย Amornthep กล่าวแต่ชนะโกงนายอาจเป็นดาบสองคมสำหรับเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลกในระยะยาว ให้รีพับลิกันนำสภาคองเกรสอาจอย่างชุดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สามารถเติมลมฟองในตลาดความท้าทายที่ดีสำหรับผู้สมัครทั้งสองคือสูง และเพิ่มขึ้นสหรัฐฯ หนี้สาธารณะนาย Amornthep กล่าวว่า "สหรัฐอเมริกาสาธารณะหนี้อยู่ที่ประมาณ 77% ของ GDP และคาดว่าอัตราการเก็บเพิ่มขึ้นในอีก 10 ปี 86% ถ้านางคลินตันชนะทำเนียบขาวและ 105% หากนายทรัมป์ชนะสถานการณ์ทั้งสองจะเพิ่มหนี้สาธารณะให้ขีดจำกัดทางกฎหมายโดยเดือนมีนาคม เพียงสองเดือนหลังจากเปิดของประธานาธิบดีใหม่ถ้านายทรัมป์ดึงปิดชนะ นักลงทุนในตลาดการเงินจะเปิดความเสี่ยง และแสวงหาสินทรัพย์เช่นดอลลาร์สหรัฐ ญี่ปุ่นเยน และ ทอง นาย Amornthep กล่าวแต่ทุนคาดว่าจะไหลเข้าไปใน riskier สินทรัพย์ในเอเชีย บาททรงตัวแล้ว จะแข็งในระยะใกล้ถ้านางคลินตันชนะนาย Amornthep กล่าวว่า "เราคิดว่า ความผันผวนเหล่านี้จะยังคงมีอยู่เท่านั้นในระยะสั้น ๆ เนื่องจากตลาดจะให้ความสำคัญกับการได้ปรับขึ้นอัตรา ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในปลายปีนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขณะที่โพลส่วนใหญ่ชี้ไปที่ฮิลลารีคลินตันชนะโดนัลด์ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีพรรคประชาธิปัตย์ใบหน้าต่อสู้ขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯในระยะสั้นเพราะพรรครีพับลิกันมีแนวโน้มที่จะกระชับจับมันในสำนักงานอื่น ๆ นักเศรษฐศาสตร์ท้องถิ่นกล่าวว่า.

" ถ้าเธอ [นางคลินตัน] ชนะการเลือกตั้งที่ตลาดการเงินอาจจะมีเสถียรภาพในระยะสั้น แต่มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับรัฐบาลของเธอที่จะส่งมอบนโยบายเพราะรีพับลิกันจะได้รับการรักษาความปลอดภัยส่วนใหญ่ในบ้านทั้งสองของรัฐสภาที่ "อมรเทพกล่าวว่า Chawla หัวหน้าฝ่ายวิจัยของธนาคาร CIMB Thai.
"ผมคิดว่าผู้คนกำลังให้ความสนใจน้อยลงในการเลือกตั้งของทั้งสองบ้านของสภาซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะนโยบายที่ออกโดยผู้สมัครทั้งสอง. ว่า"
ในกรณีที่นางคลินตันชนะการเลือกตั้ง เศรษฐกิจสหรัฐจะดีขึ้นในปีหน้า แต่ไม่ที่คลิปได้อย่างรวดเร็วนายอมรเทพกล่าวว่า.
ในมุมมองของนายทรัมป์จะประสบความสำเร็จในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นเพราะมันจะง่ายสำหรับเขาที่จะส่งมอบนโยบายการสนับสนุนจาก รีพับลิกันที่นำโดยสภาคองเกรส.
"นอกจากนี้หนึ่งในนโยบายที่สัญญาไว้โดยนายทรัมป์จะต่ำกว่ารายได้ภาษีสำหรับผู้มั่งคั่งและ บริษัท และที่ควรจะหยดลงผ่านเศรษฐกิจโดยการเพิ่มค่าจ้างของแรงงานและพนักงาน" นายอมรเทพกล่าวว่า.
แต่ ชนะนายทรัมป์อาจจะเป็นดาบสองคมสำหรับเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกในระยะยาวขณะที่สภาคองเกรสพรรครีพับลินำอาจตราชุดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจขยายฟองอากาศในตลาด.
ความท้าทายที่ดีสำหรับผู้สมัครทั้งสองเป็น สูงและการเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะของสหรัฐ.
"หนี้สาธารณะของสหรัฐขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 77% ของจีดีพีและอัตราที่คาดว่าจะให้เพิ่มขึ้นใน 10 ปีข้างหน้าถึง 86% ถ้านางคลินตันชนะทำเนียบขาวและ 105% ถ้านาย คนที่กล้าหาญชนะ "นายอมรเทพกล่าวว่า.
สถานการณ์ทั้งสองจะยกหนี้สาธารณะที่จะ จำกัด การตามกฎหมายโดยเดือนมีนาคมปีหน้าเพียงสองเดือนหลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของ.
ถ้านายทรัมป์ดึงออกชนะนักลงทุนในตลาดการเงินจะเปิดไม่ชอบความเสี่ยงและ แสวงหาสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นเงินดอลลาร์สหรัฐเยนญี่ปุ่นและทองนายอมรเทพกล่าวว่า.
แต่เงินทุนที่คาดว่าจะไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงในเอเชียบาทแล้วพร้อมที่จะเสริมความแข็งแกร่งในระยะใกล้ถ้านางคลินตันชนะ.
" เราคิดว่าความผันผวนเหล่านี้จะยังคงมีอยู่ในช่วงเวลาสั้นเพราะตลาดจะให้ความสนใจมากขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเป็นไปได้ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ "นายอมรเทพกล่าวว่า