ความหมายของคำว่า “เมตตากรุณา” เมตตา

ความหมายของคำว่า “เมตตากรุณา”

เมตตา คือ ความคิดปรารถนาจะให้เขาเป็นสุข เมื่อตนได้รับความสุขแล้วก็อยากให้ผู้อื่นได้บ้าง กรุณา คือ ปรารถนาให้เขาพ้นทุกข์ เมื่อผู้ใดรับทุกข์ก็พลอยหวั่นไหวไปด้วย

ผลของการเมตตากรุณา

ผลอันเกิดจากความเมตตา คือ ความรักอันประกอบด้วยไมตรีจิต คือ อยากให้เขาได้ดีมีความสุขเป็นความหวังดีต่อผู้อื่น ส่วนผู้ที่ได้รับอนุเคราะห์ด้วยกำลังเมตตาจิตนั้น ก็มีความยินดีต่อผลซึ่งพึงมีต่อผู้ได้รับความช่วยเหลือ ผลนั้นย่อมทำให้เป็นที่ปลื้มใจแก่ทั้งสองฝ่ายทั้งผู้ให้และผู้รับ ตัวอย่างเช่น เราตั้งขวดโหลน้ำยาอุทัยไว้หน้าบ้านเพื่อเป็นสาธารณทานแก่ผู้สัญจรไปมา จะได้ดื่มน้ำนั้นเป็นเครื่องแก้กระหายและแก้ร้อน ผู้ดื่มน้ำยานั้นย่อมยินดีปรีดาแสดงอนุโมทนาในความดีมีน้ำใจของเรา ฝ่ายเราเมื่อได้พบเห็นผู้มาดื่มน้ำยาอุทัยตามความตั้งใจ ก็เกิดปรีดาปราโมทย์ นี่เป็นผลแห่งการแสดงความเมตตา

ผลอันเกิดจากความกรุณา คือ เป็นความรู้สึก สงสาร เมื่อผู้อื่นได้รับทุกข์ ใจก็พลอยหวั่นไหวไปด้วยเสมือนความทุกข์อันนั้นตนได้รับเอง แล้วพยายามช่วยเหลือเขา ถึงแม้ต้องเสียความสุขตนเองก็ยอมสละได้ เพราะฝังจิตใจอยากให้เขาพ้นทุกข์ มีความปรารถนาอยากให้เขาพ้นทุกข์ภัยทั้งปวง ผู้ที่ได้รับความกรุณาช่วยเหลืออนุเคราะห์ย่อมรู้สึกชื่นชมยินดี ผลอันได้ซึ่งเกิดจากกรุณาช่วยเหลืออนุเคราะห์ ผลอันนั้นย่อมเป็นที่ชุ่มชื่นเบิกบานใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย นี่เป็นผลแห่งการแสดงความกรุณา

การแสดงความเมตตากรุณาต่อกัน

มีอยู่ ๓ ทาง คือ แสดงด้วยกาย แสดงด้วยวาจา แสดงด้วยใจ

แสดงด้วยกายได้แก่ ช่วยทำประโยชน์สุข ปลดเปลื้องทุกข์ภัยให้แก่ผู้อื่นด้วยกาย เช่น ช่วยทำกิจธุระของผู้อื่น การช่วยเหลือนี้บางทีอาจช่วยใหญ่หรือช่วยชีวิตก็ได้ เช่น คนไข้ไม่มีผู้พยาบาลเราช่วยหยอดตา ป้อนอาหาร ช่วยตามหมอ หรือเกิดไฟไหม้บ้านผู้อื่น เราช่วยดับไฟ เป็นต้น การแสดงออกด้วยกายเพียงแต่เราไปเยี่ยมคนไข้เท่านั้น ก็เป็นการทำให้เขาเห็นว่า เรามีความเมตตากรุณาเอื้อเฟื้อแก่เขาเป็นอันมาก

แสดงด้วยวาจา ได้แก่ช่วยทำประโยชน์สุข ปลดเปลื้องทุกข์ภัยให้แก่ผู้อื่นด้วยวาจา เช่นแนะนำตักเตือนให้เขาละเว้นความชั่ว ทำความดี แม้เพียงแต่กล่าววาจาปราศรัยถามทุกข์สุขก็อาจทำให้ผู้ที่ได้รับปราศรัย รู้สึกว่าเรามีเมตตากรุณาเขามิใช่น้อย

แสดงด้วยใจ ได้แก่การตั้งจิตหวังสุขสวัสดิ์ ปรารถนาความไม่มีภัยไม่มีเวรแก่ผู้อื่นทั่วไป ไม่คิดเบียดเบียนเขา ตั้งใจจะช่วยทุกข์บำรุงสุขแก่เขาเป็นต้น (ถึงหากว่าเขาจะไม่ได้ขวนขวายช่วยเหลือเราด้วย กาย

วาจา ก็ตามเมื่อใครเขาหวังทุกข์ประโยชน์แก่เขาอยู่เช่นนั้นแล้ว แสดงอาการออกด้วย กาย วาจา ของเราที่แสดงออกมาภายนอกนั้น ย่อมเป็นที่ถูกตาต้องใจไพเราะหู เป็นการประทุษร้ายเขาด้วยประการใด ๆ) เมื่อเราได้รับเมตตาจิตจากเขา ก็ย่อมแสดงไมตรีจิตตอบแทน ต่างฝ่ายก็จะมีความรักใคร่หวังดี ช่วยทุกข์บำรุงสุขแก่กันและกัน

ประโยชน์ของการแสดงความเมตตากรุณา

การแสดงความเมตตากรุณานี้ย่อมทำให้สำเร็จประโยชน์แก่ตนและผู้อื่นทั้งสองฝ่าย ผู้ประกอบด้วย

ความเมตตากรุณาย่อมอยู่เป็นสุขสบาย ไม่ต้องร้อนใจเพราะความอาฆาตพยาบาทมีจิตใจเยือกเย็นแช่มชื่นและปลอดโปร่งหาที่ติดขัดมิได้ ย่อมห่างไกลจากอันตรายเป็นที่รักใคร่ของคนทั้งหลาย ฝ่ายผู้อื่นที่ได้รับการอนุเคราะห์ด้วยกำลังแห่งความเมตตากรุณานั้นย่อมที่จะได้รับความสุขสำราญด้วย

ผลแห่งการแสดงความเมตตากรุณานั้นอาจไม่ได้รับประโยชน์อะไร ถ้าการแสดงความเมตตากรุณานั้นทำไม่ถูกต้อง หรือทำด้วยความเขลารู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้ว ก็ไม่สู้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้รับ อาจเป็นโทษแก่ผู้ทำก็เป็นได้ เช่น เห็นเขาจับผู้ร้ายมัดมา มีความเมตตากรุณา คิดให้ผู้ร้ายรอดพ้นอาญาแผ่นดินแล้วทำการแย่งชิงให้รอดพ้นไปได้ดังนี้ ถึงช่วยให้ผู้ร้ายรอดพ้นไปคราวหนึ่งก็จริง แต่เชื่อได้ว่าช่วยผู้ร้ายให้หลุดพ้นไปเที่ยวเบียดเบียนคนทั้งหลายอีก และกิริยาที่เข้าแย่งเจ้าหน้าที่นับเป็นการดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ มีโทษตามกฎหมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความหมายของคำว่า "เมตตากรุณา"

เมตตาคือความคิดปรารถนาจะให้เขาเป็นสุขเมื่อตนได้รับความสุขแล้วก็อยากให้ผู้อื่นได้บ้างกรุณาคือปรารถนาให้เขาพ้นทุกข์เมื่อผู้ใดรับทุกข์ก็พลอยหวั่นไหวไปด้วย

ผลของการเมตตากรุณา

ผลอันเกิดจากความเมตตาคือความรักอันประกอบด้วยไมตรีจิตคืออยากให้เขาได้ดีมีความสุขเป็นความหวังดีต่อผู้อื่นส่วนผู้ที่ได้รับอนุเคราะห์ด้วยกำลังเมตตาจิตนั้น ผลนั้นย่อมทำให้เป็นที่ปลื้มใจแก่ทั้งสองฝ่ายทั้งผู้ให้และผู้รับตัวอย่างเช่นเราตั้งขวดโหลน้ำยาอุทัยไว้หน้าบ้านเพื่อเป็นสาธารณทานแก่ผู้สัญจรไปมาจะได้ดื่มน้ำนั้นเป็นเครื่องแก้กระหายและแก้ร้อน ฝ่ายเราเมื่อได้พบเห็นผู้มาดื่มน้ำยาอุทัยตามความตั้งใจก็เกิดปรีดาปราโมทย์นี่เป็นผลแห่งการแสดงความเมตตา

ผลอันเกิดจากความกรุณาคือเป็นความรู้สึกสงสารเมื่อผู้อื่นได้รับทุกข์ใจก็พลอยหวั่นไหวไปด้วยเสมือนความทุกข์อันนั้นตนได้รับเองแล้วพยายามช่วยเหลือเขาถึงแม้ต้องเสียความสุขตนเองก็ยอมสละได้ มีความปรารถนาอยากให้เขาพ้นทุกข์ภัยทั้งปวงผู้ที่ได้รับความกรุณาช่วยเหลืออนุเคราะห์ย่อมรู้สึกชื่นชมยินดีผลอันได้ซึ่งเกิดจากกรุณาช่วยเหลืออนุเคราะห์ นี่เป็นผลแห่งการแสดงความกรุณา

การแสดงความเมตตากรุณาต่อกัน

มีอยู่ ๓ ชนิดคือแสดงด้วยกายแสดงด้วยวาจาแสดงด้วยใจ

แสดงด้วยกายได้แก่ช่วยทำประโยชน์สุขปลดเปลื้องทุกข์ภัยให้แก่ผู้อื่นด้วยกายเช่นช่วยทำกิจธุระของผู้อื่นการช่วยเหลือนี้บางทีอาจช่วยใหญ่หรือช่วยชีวิตก็ได้เช่นคนไข้ไม่มีผู้พยาบาลเราช่วยหยอดตาป้อนอาหาร หรือเกิดไฟไหม้บ้านผู้อื่นเราช่วยดับไฟเป็นต้นการแสดงออกด้วยกายเพียงแต่เราไปเยี่ยมคนไข้เท่านั้นก็เป็นการทำให้เขาเห็นว่าเรามีความเมตตากรุณาเอื้อเฟื้อแก่เขาเป็นอันมาก

แสดงด้วยวาจาได้แก่ช่วยทำประโยชน์สุขปลดเปลื้องทุกข์ภัยให้แก่ผู้อื่นด้วยวาจาเช่นแนะนำตักเตือนให้เขาละเว้นความชั่วทำความดีแม้เพียงแต่กล่าววาจาปราศรัยถามทุกข์สุขก็อาจทำให้ผู้ที่ได้รับปราศรัย
แสดงด้วยใจได้แก่การตั้งจิตหวังสุขสวัสดิ์ปรารถนาความไม่มีภัยไม่มีเวรแก่ผู้อื่นทั่วไปไม่คิดเบียดเบียนเขาตั้งใจจะช่วยทุกข์บำรุงสุขแก่เขาเป็นต้น (ถึงหากว่าเขาจะไม่ได้ขวนขวายช่วยเหลือเราด้วยกาย

วาจาก็ตามเมื่อใครเขาหวังทุกข์ประโยชน์แก่เขาอยู่เช่นนั้นแล้วแสดงอาการออกด้วยกายวาจาของเราที่แสดงออกมาภายนอกนั้นย่อมเป็นที่ถูกตาต้องใจไพเราะหูเป็นการประทุษร้ายเขาด้วยประการใดๆ) ก็ย่อมแสดงไมตรีจิตตอบแทนต่างฝ่ายก็จะมีความรักใคร่หวังดีช่วยทุกข์บำรุงสุขแก่กันและกัน

ประโยชน์ของการแสดงความเมตตากรุณา

การแสดงความเมตตากรุณานี้ย่อมทำให้สำเร็จประโยชน์แก่ตนและผู้อื่นทั้งสองฝ่ายผู้ประกอบด้วย

ความเมตตากรุณาย่อมอยู่เป็นสุขสบายไม่ต้องร้อนใจเพราะความอาฆาตพยาบาทมีจิตใจเยือกเย็นแช่มชื่นและปลอดโปร่งหาที่ติดขัดมิได้ย่อมห่างไกลจากอันตรายเป็นที่รักใคร่ของคนทั้งหลาย
ผลแห่งการแสดงความเมตตากรุณานั้นอาจไม่ได้รับประโยชน์อะไรถ้าการแสดงความเมตตากรุณานั้นทำไม่ถูกต้องหรือทำด้วยความเขลารู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้วก็ไม่สู้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้รับอาจเป็นโทษแก่ผู้ทำก็เป็นได้ เห็นเขาจับผู้ร้ายมัดมามีความเมตตากรุณาคิดให้ผู้ร้ายรอดพ้นอาญาแผ่นดินแล้วทำการแย่งชิงให้รอดพ้นไปได้ดังนี้ถึงช่วยให้ผู้ร้ายรอดพ้นไปคราวหนึ่งก็จริง และกิริยาที่เข้าแย่งเจ้าหน้าที่นับเป็นการดูหมิ่นเจ้าหน้าที่มีโทษตามกฎหมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความหมายของคำว่า "เมตตากรุณา" เมตตาคือความคิดปรารถนาจะให้เขาเป็นสุข กรุณาคือปรารถนาให้เขาพ้นทุกข์ คือความรักอันประกอบด้วยไมตรีจิตคือ ตัวอย่างเช่น ก็เกิดปรีดาปราโมทย์ คือเป็นความรู้สึกสงสารเมื่อผู้อื่นได้รับทุกข์ แล้วพยายามช่วยเหลือเขา เพราะฝังจิตใจอยากให้เขาพ้นทุกข์ 3 ทางคือแสดงด้วยกายด้วยวาจาแสดงแสดงด้วยใจแสดงด้วยกาย ได้แก่ ช่วยทำประโยชน์สุข เช่นช่วยทำกิจธุระของผู้อื่น เช่นคนไข้ไม่มีผู้พยาบาลเราช่วยหยอดตาป้อนอาหารช่วยตามหมอหรือเกิดไฟไหม้บ้านผู้อื่นเราช่วยดับไฟเป็นต้น ก็เป็นการทำให้เขาเห็นว่า ได้แก่ ช่วยทำประโยชน์สุข ทำความดี ได้แก่ การตั้งจิตหวังสุขสวัสดิ์ ไม่คิดเบียดเบียนเขา กายวาจา แสดงอาการออกด้วยกายวาจาของเราที่แสดงออกมาภายนอกนั้นย่อมเป็นที่ถูกตาต้องใจไพเราะหูเป็นการประทุษร้ายเขาด้วยประการใด ๆ ) เมื่อเราได้รับเมตตาจิตจากเขาก็ย่อมแสดงไมตรีจิตตอบแทนต่างฝ่ายก็จะมีความรักใคร่ หวังดี ก็ไม่สู้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้รับอาจเป็นโทษแก่ผู้ทำก็เป็นได้เช่นเห็นเขาจับผู้ร้ายมัดมามีความเมตตากรุณา มีโทษตามกฎหมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความหมายของคำว่า " เมตตากรุณา "

เมตตาความความคิดปรารถนาจะให้เขาเป็นสุขเมื่อตนได้รับความสุขแล้วก็อยากให้ผู้อื่นได้บ้างกรุณาความปรารถนาให้เขาพ้นทุกข์เมื่อผู้ใดรับทุกข์ก็พลอยหวั่นไหวไปด้วย

ผลของการเมตตากรุณา

ผลอันเกิดจากความเมตตาความความรักอันประกอบด้วยไมตรีจิตความอยากให้เขาได้ดีมีความสุขเป็นความหวังดีต่อผู้อื่นส่วนผู้ที่ได้รับอนุเคราะห์ด้วยกำลังเมตตาจิตนั้นผลนั้นย่อมทำให้เป็นที่ปลื้มใจแก่ทั้งสองฝ่ายทั้งผู้ให้และผู้รับตัวอย่างเช่นเราตั้งขวดโหลน้ำยาอุทัยไว้หน้าบ้านเพื่อเป็นสาธารณทานแก่ผู้สัญจรไปมาจะได้ดื่มน้ำนั้นเป็นเครื่องแก้กระหายและแก้ร้อนฝ่ายเราเมื่อได้พบเห็นผู้มาดื่มน้ำยาอุทัยตามความตั้งใจก็เกิดปรีดาปราโมทย์นี่เป็นผลแห่งการแสดงความเมตตา

ผลอันเกิดจากความกรุณาความเป็นความรู้สึกสงสารเมื่อผู้อื่นได้รับทุกข์ใจก็พลอยหวั่นไหวไปด้วยเสมือนความทุกข์อันนั้นตนได้รับเองแล้วพยายามช่วยเหลือเขาถึงแม้ต้องเสียความสุขตนเองก็ยอมสละได้มีความปรารถนาอยากให้เขาพ้นทุกข์ภัยทั้งปวงผู้ที่ได้รับความกรุณาช่วยเหลืออนุเคราะห์ย่อมรู้สึกชื่นชมยินดีผลอันได้ซึ่งเกิดจากกรุณาช่วยเหลืออนุเคราะห์นี่เป็นผลแห่งการแสดงความกรุณา



มีอยู่การแสดงความเมตตากรุณาต่อกันกันทางความแสดงด้วยกายแสดงด้วยวาจาแสดงด้วยใจ

แสดงด้วยกายได้แก่ช่วยทำประโยชน์สุขปลดเปลื้องทุกข์ภัยให้แก่ผู้อื่นด้วยกายเช่นช่วยทำกิจธุระของผู้อื่นการช่วยเหลือนี้บางทีอาจช่วยใหญ่หรือช่วยชีวิตก็ได้เช่นคนไข้ไม่มีผู้พยาบาลเราช่วยหยอดตาป้อนอาหารหรือเกิดไฟไหม้บ้านผู้อื่นเราช่วยดับไฟเป็นต้นการแสดงออกด้วยกายเพียงแต่เราไปเยี่ยมคนไข้เท่านั้นก็เป็นการทำให้เขาเห็นว่าเรามีความเมตตากรุณาเอื้อเฟื้อแก่เขาเป็นอันมาก

แสดงด้วยวาจาได้แก่ช่วยทำประโยชน์สุขปลดเปลื้องทุกข์ภัยให้แก่ผู้อื่นด้วยวาจาเช่นแนะนำตักเตือนให้เขาละเว้นความชั่วทำความดีแม้เพียงแต่กล่าววาจาปราศรัยถามทุกข์สุขก็อาจทำให้ผู้ที่ได้รับปราศรัย
แสดงด้วยใจได้แก่การตั้งจิตหวังสุขสวัสดิ์ปรารถนาความไม่มีภัยไม่มีเวรแก่ผู้อื่นทั่วไปไม่คิดเบียดเบียนเขาตั้งใจจะช่วยทุกข์บำรุงสุขแก่เขาเป็นต้น ( ถึงหากว่าเขาจะไม่ได้ขวนขวายช่วยเหลือเราด้วยกาย

วาจาก็ตามเมื่อใครเขาหวังทุกข์ประโยชน์แก่เขาอยู่เช่นนั้นแล้วแสดงอาการออกด้วยกายวาจาของเราที่แสดงออกมาภายนอกนั้นย่อมเป็นที่ถูกตาต้องใจไพเราะหูเป็นการประทุษร้ายเขาด้วยประการใดไม่มี )ก็ย่อมแสดงไมตรีจิตตอบแทนต่างฝ่ายก็จะมีความรักใคร่หวังดีช่วยทุกข์บำรุงสุขแก่กันและกัน





ประโยชน์ของการแสดงความเมตตากรุณาการแสดงความเมตตากรุณานี้ย่อมทำให้สำเร็จประโยชน์แก่ตนและผู้อื่นทั้งสองฝ่ายผู้ประกอบด้วยความเมตตากรุณาย่อมอยู่เป็นสุขสบายไม่ต้องร้อนใจเพราะความอาฆาตพยาบาทมีจิตใจเยือกเย็นแช่มชื่นและปลอดโปร่งหาที่ติดขัดมิได้ย่อมห่างไกลจากอันตรายเป็นที่รักใคร่ของคนทั้งหลาย
ผลแห่งการแสดงความเมตตากรุณานั้นอาจไม่ได้รับประโยชน์อะไรถ้าการแสดงความเมตตากรุณานั้นทำไม่ถูกต้องหรือทำด้วยความเขลารู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้วก็ไม่สู้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้รับอาจเป็นโทษแก่ผู้ทำก็เป็นได้เห็นเขาจับผู้ร้ายมัดมามีความเมตตากรุณาคิดให้ผู้ร้ายรอดพ้นอาญาแผ่นดินแล้วทำการแย่งชิงให้รอดพ้นไปได้ดังนี้ถึงช่วยให้ผู้ร้ายรอดพ้นไปคราวหนึ่งก็จริงและกิริยาที่เข้าแย่งเจ้าหน้าที่นับเป็นการดูหมิ่นเจ้าหน้าที่มีโทษตามกฎหมาย