ชนิดของสารทำความเย็นสารทำความเย็นที่มีใช้งานในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้ การแปล - ชนิดของสารทำความเย็นสารทำความเย็นที่มีใช้งานในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้ ไทย วิธีการพูด

ชนิดของสารทำความเย็นสารทำความเย็นที

ชนิดของสารทำความเย็น
สารทำความเย็นที่มีใช้งานในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็น 7 ประเภทใหญ่ๆ ตามองค์ประกอบ
ทางเคมีและสมบัติของสารทำความเย็น ดังนี้
1 สารทำความเย็นกลุ่มฮาโลคาร์บอน (Halocarbon compounds)
สารกลุ่มนี้เป็นสารสังเคราะห์ของมีเทน อีเทน เป็นสารทำความเย็น
ที่ใช้งานเป็นส่วนใหญ่ในปัจจุบันทั้งในเครื่องทำความเย็นที่ใช้ในครัวเรือน ใช้เชิงพาณิชย์ และในทางอุตสาหกรรมการทำความเย็น แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มตามองค์ประกอบทางเคมี ดังนี้
1.1 สารทำความเย็นตระกูล CFC (Chlorofluorocarbon) เป็นสารทำความเย็นที่มี
คลอรีน (Cl) ฟลูออรีน (F) และคาร์บอน (C) เป็นองค์ประกอบ เช่น สารทำความเย็น
Dichloromonofluoromethane (R-12)
1.2 สารทำความเย็นตระกูล HCFC (Hydrochlorofluorocarbon) เป็นสารทำ
ความเย็นที่มี ไฮโดรเจน (H) คลอรีน (Cl) ฟลูออรีน (F) และคาร์บอน (C) เป็นองค์ประกอบ เช่นสารทำ
ความเย็น Monochlorodifluoromethane (R-22)
1.3 สารทำความเย็นตระกูล HFC (Hydrofluorocarbon) เป็นสารทำความเย็นที่มี
ไฮโดรเจน (H) ฟลูออรีน (F) และคาร์บอน (C) เป็นองค์ประกอบ เช่นสารทำความเย็น
Tetrafluoroethane (R-134a)

2 สารทำความเย็นผสมชนิดซีโอโทรปิก (Zeotropic blends)
สารกลุ่มนี้เป็นสารทำความเย็นที่ได้จากการนำสารที่มีส่วนประกอบทางเคมีต่างกันตั้งแต่
สองชนิดขึ้นไปมาผสมกัน สารที่นำมาผสมกันอาจมีสมบัติเป็นสารทำความเย็นอยู่เดิมที่มีใช้อยู่หรืออาจเป็นสารอื่นก็ได้ ทำให้ได้สารทำความเย็นชนิดใหม่ขึ้นมาที่มีสมบัติเหมาะสมกับการใช้งานบางลักษณะสำหรับสมบัติของสารทำความเย็นที่ได้เมื่อมาใช้ในระบบการทำความเย็น ขณะเปลี่ยนแปลงสถานะจาก42ไอควบแน่นเป็นสารทำความเย็นเหลว หรือจากสารทำความเย็นเหลวเดือดกลายเป็นไอ อุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะ (Temperature glide) จะต่างกันค่อนข้างมาก เช่นสารทำความเย็น R-407C ซึ่งเป็นสารทำความเย็นที่มีส่วนผสมของสารทำความเย็น Difluoromethane (R-32)จำนวนร้อยละ 23 สารทำความเย็น Pentafluoroethane (R-125) จำนวนร้อยละ 25 และสารทำความเย็น Tetrafluoroethane (R-134a) จำนวนร้อยละ 52 โดยน้ำหนัก มีอุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะเท่ากับ 4.9 ํC เป็นต้นเนื่องจากอุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะเปลี่ยนไป ทำให้ขณะเปลี่ยนแปลงสถานะสารทำความเย็นที่ผสมกันอยู่สามารถแยกตัว ส่งผลให้อัตราส่วนหรือความเข้มข้นของสารทำความเย็นผสมที่เหลือเปลี่ยนไป ดังนั้นเมื่อใช้สารทำความเย็นกลุ่มนี้ เมื่อต้องมีการเติมสารทำความเย็นหรือการถ่ายสารทำความเย็นออกต้องทำในสภาวะที่สารทำความเย็นมีสถานะเป็นของเหลว

3 สารทำความเย็นผสมชนิดกึ่งอะซีโอโทรปิก (Semi-azeotropic blends)
สารกลุ่มนี้เป็นสารทำความเย็นที่ได้จากการนำสารที่มีส่วนประกอบทางเคมีต่างกันตั้งแต่
สองชนิดขึ้นไปมาผสมกัน ในทำนองเดียวกับสารทำความเย็นผสมชนิดซีโอโทรปิก เพียงแต่สารทำความเย็นใหม่ที่ได้เมื่อมาใช้ในระบบการทำความเย็น ขณะเปลี่ยนแปลงสถานะจากไอควบแน่นเป็นสารทำความเย็นเหลว หรือจากสารทำความเย็นเหลวเดือดกลายเป็นไอ อุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะจะต่างกันน้อยจนสามารถตัดทิ้งไม่นำมาคิดได้ เช่นสารทำความเย็น R-404A ซึ่งเป็นสารทำความเย็นที่มีส่วนผสมของสารทำความเย็น Pentafluoroethane (R-125) จำนวนร้อยละ 44 สารทำความเย็น Trifluoroethane (R-143a) จำนวนร้อยละ 52 และสารทำความเย็น Tetrafluoroethane(R-134a) จำนวนร้อยละ 4 โดยน้ำหนัก มีอุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะเท่ากับ 0.7 ํC เป็นต้น อย่างไรก็ดีเมื่อต้องมีการเติมสารทำความเย็นหรือการถ่ายสารทำความเย็นออกควรทำในสภาวะที่สารทำความเย็นมีสถานะเป็นของเหลวเช่นเดียวกับสารทำความเย็นกลุ่มซีโอโทรปิก

4 สารทำความเย็นผสมชนิดอะซีโอโทรปิก (Azeotropic blends)
สารกลุ่มนี้เป็นสารทำความเย็นที่ได้จากการนำสารที่มีส่วนประกอบทางเคมีต่างกันตั้งแต่
สองชนิดขึ้นไปมาผสมกัน ในทำนองเดียวกับสารทำความเย็นผสมชนิดซีโอโทรปิก เพียงแต่สารทำความเย็นใหม่ที่ได้เมื่อมาใช้ในระบบการทำความเย็น ขณะเปลี่ยนแปลงสถานะจากไอควบแน่นเป็นสารทำความเย็นเหลว หรือจากสารทำความเย็นเหลวเดือดกลายเป็นไอ อุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะจะเป็นค่าเดียวกันเหมือนสารทำความเย็นเดี่ยว เช่นสารทำความเย็น R-502 ซึ่งเป็นสารทำความเย็นที่มีส่วนผสมของสารทำความเย็น Monochlorodifluoromethane (R-22) จำนวนร้อยละ 48.8 และสารทำความเย็น Monochloropentafluoroethane (R-115) จำนวนร้อยละ 51.2โดยน้ำหนัก มีอุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะเท่ากับ 0 ํC เป็นต้น สำหรับการเติมสารทำความเย็นหรือการถ่ายสารทำความเย็นออกสามารถทำได้ทั้งในสภาวะที่สารทำความเย็นมีสถานะเป็นของเหลวหรือก๊าซ43
5 สารทำความเย็นกลุ่มสารอินทรีย์ (Organic compounds)
สารกลุ่มนี้เป็นสารทำความเย็นที่มีสารอินทรีย์เป็นองค์ประกอบ เช่น บิวเทน (Butane)
6 สารทำความเย็นกลุ่มสารอนินทรีย์ (Inorganic compounds)
สารกลุ่มนี้เป็นสารทำความเย็นที่มีสารอนินทรีย์เป็นองค์ประกอบ ถือเป็นสารทำความเย็น
ยุคแรกๆ ที่ใช้ในการทำความเย็น เช่น แอมโมเนีย คาร์บอนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เป็นต้นเนื่องจากสารทำความเย็นในกลุ่มนี้เป็นสารที่ค่อนข้างอันตราย และต้องอาศัยการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดจึงไม่เป็นที่นิยมใช้โดยทั่วไป ในปัจจุบันที่มีใช้งานในทางอุตสาหกรรมการทำความเย็นเป็นหลัก ได้แก่ แอมโมเนีย เนื่องจากมีราคาถูก และมีค่าความร้อนจำเพาะสูง
7 สารทำความเย็นกลุ่มสารอินทรีย์ที่ไม่อิ่มตัว (Unsaturated organic compounds)
สารกลุ่มนี้เป็นสารทำความเย็นที่มีสารอินทรีย์ที่ไม่อิ่มตัวเป็นองค์ประกอบ เช่น เอทิลีน
(Ethylene) โปรพิลีน (Propylene) เป็นต้น
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ชนิดของสารทำความเย็นสารทำความเย็นที่มีใช้งานในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็น 7 ประเภทใหญ่ ๆ ตามองค์ประกอบทางเคมีและสมบัติของสารทำความเย็นดังนี้สารทำความเย็นกลุ่มฮาโลคาร์บอน 1 (Halocarbon สารประกอบ)สารกลุ่มนี้เป็นสารสังเคราะห์ของมีเทนอีเทนเป็นสารทำความเย็นที่ใช้งานเป็นส่วนใหญ่ในปัจจุบันทั้งในเครื่องทำความเย็นที่ใช้ในครัวเรือนใช้เชิงพาณิชย์และในทางอุตสาหกรรมการทำความเย็นแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มตามองค์ประกอบทางเคมีดังนี้เป็นสารทำความเย็นที่มี 1.1 สารทำความเย็นตระกูล CFC (Chlorofluorocarbon)คลอรีน (Cl) ฟลูออรีน (F) และคาร์บอน (C) เป็นองค์ประกอบเช่นสารทำความเย็นDichloromonofluoromethane (R-12)เป็นสารทำ 1.2 สารทำความเย็นตระกูล HCFC (Hydrochlorofluorocarbon)ความเย็นที่มีไฮโดรเจน (H) คลอรีน (Cl) ฟลูออรีน (F) และคาร์บอน (C) เป็นองค์ประกอบเช่นสารทำความเย็น Monochlorodifluoromethane (R-22)1.3 สารทำความเย็นตระกูล HFC (Hydrofluorocarbon) เป็นสารทำความเย็นที่มีและคาร์บอน (C) ไฮโดรเจน (H) ฟลูออรีน (F) เป็นองค์ประกอบเช่นสารทำความเย็นTetrafluoroethane (R-134a)สารทำความเย็นผสมชนิดซีโอโทรปิก 2 (ผสม Zeotropic)สารกลุ่มนี้เป็นสารทำความเย็นที่ได้จากการนำสารที่มีส่วนประกอบทางเคมีต่างกันตั้งแต่สองชนิดขึ้นไปมาผสมกันสารที่นำมาผสมกันอาจมีสมบัติเป็นสารทำความเย็นอยู่เดิมที่มีใช้อยู่หรืออาจเป็นสารอื่นก็ได้ทำให้ได้สารทำความเย็นชนิดใหม่ขึ้นมาที่มีสมบัติเหมาะสมกับการใช้งานบางลักษณะสำหรับสมบัติของสารทำความเย็นที่ได้เมื่อมาใช้ในระบบการทำความเย็นขณะเปลี่ยนแปลงสถานะจาก42ไอควบแน่นเป็นสารทำความเย็นเหลว หรือจากสารทำความเย็นเหลวเดือดกลายเป็นไออุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะ (อุณหภูมิร่อน) จะต่างกันค่อนข้างมากเช่นสารทำความเย็น R - 407C ซึ่งเป็นสารทำความเย็นที่มีส่วนผสมของสารทำความเย็นดิฟลูออโรมีเทน (R-32) จำนวนร้อยละ 23 สารทำความเย็น Pentafluoroethane (R-125) จำนวนร้อยละ 25 และสารทำความเย็น Tetrafluoroethane (R-134a) จำนวนร้อยละ 52 โดยน้ำหนักมีอุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะเท่ากับ 4.9 ํC เป็นต้นเนื่องจากอุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะเปลี่ยนไปทำให้ขณะเปลี่ยนแปลงสถานะสารทำความเย็นที่ผสมกันอยู่สามารถแยกตัวส่งผลให้อัตราส่วนหรือความเข้มข้นของสารทำความเย็นผสมที่เหลือเปลี่ยนไปดังนั้นเมื่อใช้สารทำความเย็นกลุ่มนี้เมื่อต้องมีการเติมสารทำความเย็นหรือการถ่ายสารทำความเย็นออกต้องทำในสภาวะที่สารทำความเย็นมีสถานะเป็นของเหลว3 สารทำความเย็นผสมชนิดกึ่งอะซีโอโทรปิก (azeotropic กึ่งผสม)สารกลุ่มนี้เป็นสารทำความเย็นที่ได้จากการนำสารที่มีส่วนประกอบทางเคมีต่างกันตั้งแต่สองชนิดขึ้นไปมาผสมกันในทำนองเดียวกับสารทำความเย็นผสมชนิดซีโอโทรปิกเพียงแต่สารทำความเย็นใหม่ที่ได้เมื่อมาใช้ในระบบการทำความเย็นขณะเปลี่ยนแปลงสถานะจากไอควบแน่นเป็นสารทำความเย็นเหลวหรือจากสารทำความเย็นเหลวเดือดกลายเป็นไออุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะจะต่างกันน้อยจนสามารถตัดทิ้งไม่นำมาคิดได้เช่นสารทำความเย็น R 404A ซึ่งเป็นสารทำความเย็นที่มีส่วนผสมของสารทำความเย็น Pentafluoroethane (R-125) จำนวนร้อยละ 44 สารทำความเย็น Trifluoroethane (R-143a) จำนวนร้อยละ 52 และสารทำความเย็น Tetrafluoroethane(R-134a) จำนวนร้อยละ 4 โดยน้ำหนักมีอุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะเท่ากับ 0.7 ํC เป็นต้นอย่างไรก็ดีเมื่อต้องมีการเติมสารทำความเย็นหรือการถ่ายสารทำความเย็นออกควรทำในสภาวะที่สารทำความเย็นมีสถานะเป็นของเหลวเช่นเดียวกับสารทำความเย็นกลุ่มซีโอโทรปิก4 สารทำความเย็นผสมชนิดอะซีโอโทรปิก (Azeotropic ผสม)สารกลุ่มนี้เป็นสารทำความเย็นที่ได้จากการนำสารที่มีส่วนประกอบทางเคมีต่างกันตั้งแต่สองชนิดขึ้นไปมาผสมกันในทำนองเดียวกับสารทำความเย็นผสมชนิดซีโอโทรปิกเพียงแต่สารทำความเย็นใหม่ที่ได้เมื่อมาใช้ในระบบการทำความเย็นขณะเปลี่ยนแปลงสถานะจากไอควบแน่นเป็นสารทำความเย็นเหลวหรือจากสารทำความเย็นเหลวเดือดกลายเป็นไออุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะจะเป็นค่าเดียวกันเหมือนสารทำความเย็นเดี่ยวเช่นสารทำความเย็นซึ่งเป็นสารทำความเย็นที่มีส่วนผสมของสารทำความเย็น R 502 (R-22) Monochlorodifluoromethane จำนวนร้อยละ 48.8 และสารทำความเย็น Monochloropentafluoroethane (R-115) จำนวนร้อยละ 51.2โดยน้ำหนักมีอุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะเท่ากับ 0 ํC เป็นต้น สำหรับการเติมสารทำความเย็นหรือการถ่ายสารทำความเย็นออกสามารถทำได้ทั้งในสภาวะที่สารทำความเย็นมีสถานะเป็นของเหลวหรือก๊าซ435 สารทำความเย็นกลุ่มสารอินทรีย์ (สารอินทรีย์)สารกลุ่มนี้เป็นสารทำความเย็นที่มีสารอินทรีย์เป็นองค์ประกอบเช่นบิวเทน (นำ)6 สารทำความเย็นกลุ่มสารอนินทรีย์ (สารประกอบอนินทรีย์)สารกลุ่มนี้เป็นสารทำความเย็นที่มีสารอนินทรีย์เป็นองค์ประกอบถือเป็นสารทำความเย็นยุคแรก ๆ ที่ใช้ในการทำความเย็นเช่นแอมโมเนียคาร์บอนไดออกไซด์ซัลเฟอร์ไดออกไซด์เป็นต้นเนื่องจากสารทำความเย็นในกลุ่มนี้เป็นสารที่ค่อนข้างอันตรายและต้องอาศัยการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดจึงไม่เป็นที่นิยมใช้โดยทั่วไปในปัจจุบันที่มีใช้งานในทางอุตสาหกรรมการทำความเย็นเป็นหลักได้แก่แอมโมเนียเนื่องจากมีราคาถูกและมีค่าความร้อนจำเพาะสูง7 สารทำความเย็นกลุ่มสารอินทรีย์ที่ไม่อิ่มตัว (สารอินทรีย์ในระดับที่สม)สารกลุ่มนี้เป็นสารทำความเย็นที่มีสารอินทรีย์ที่ไม่อิ่มตัวเป็นองค์ประกอบเช่นเอทิลีนเป็นต้นโปรพิลีน (โพรพิลีน) (เอทิลีน)
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!

7 ประเภทใหญ่ ๆ
ดังนี้
1 สารทำความเย็นกลุ่มฮาโลคาร์บอน (เฮโลคาร์บอน
อีเทน
ใช้เชิงพาณิชย์และในทางอุตสาหกรรมการทำความเย็นแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มตามองค์ประกอบทางเคมีดังนี้
1.1 สารทำความเย็นตระกูล CFC (Chlorofluorocarbon) เป็นสารทำความเย็นที่มี
คลอรีน (Cl) ฟลูออรีน (F) และคาร์บอน (C) เป็นองค์ประกอบ เช่นสารทำความเย็น
Dichloromonofluoromethane (R-12)
1.2 สารทำความเย็นตระกูล HCFC (Hydrochlorofluorocarbon) เป็นสารทำ
ความเย็นที่มีไฮโดรเจน (H) คลอรีน (Cl) ฟลูออรีน (F) และคาร์บอน (C) เป็นองค์ประกอบเช่นสารทำ
ความเย็น Monochlorodifluoromethane (R-22)
1.3 สารทำความเย็นตระกูล HFC (hydrofluorocarbon) เป็นสารทำความเย็นที่มี
ไฮโดรเจน (H) ฟลูออรีน (F) และคาร์บอน (C) เป็นองค์ประกอบเช่นสารทำความเย็น
Tetrafluoroethane (R-134a) 2 สารทำความเย็น ผสมชนิดซีโอโทรปิก (Zeotropic (เหินอุณหภูมิ) จะต่างกันค่อนข้างมากเช่นสารทำความเย็น R-407C ไดฟลูออโรมีเทน (R-32) จำนวนร้อยละ 23 สารทำความเย็น Pentafluoroethane (R-125) จำนวนร้อยละ 25 และสารทำความเย็น Tetrafluoroethane (R-134a) จำนวนร้อยละ 52 โดยน้ำหนัก 4.9 ํ C (Semi-azeotropic เช่นสารทำความเย็น R-404A Pentafluoroethane (R-125) จำนวนร้อยละ 44 สารทำความเย็น Trifluoroethane (R-143a) จำนวนร้อยละ 52 และสารทำความเย็น Tetrafluoroethane (R-134a) จำนวนร้อยละ 4 โดยน้ำหนัก 0.7 ํ C เป็นต้น สารทำความเย็นผสมชนิดอะซีโอโทรปิก (azeotropic เช่นสารทำความเย็น R-502 Monochlorodifluoromethane (R-22) จำนวนร้อยละ 48.8 และสารทำความเย็น Monochloropentafluoroethane (R-115) จำนวนร้อยละ 51.2 โดยน้ำหนัก 0 ํ C เป็นต้น สารทำความเย็นกลุ่มสารอินทรีย์ (Organic เช่นบิวเทน (Butane) 6 สารทำความเย็นกลุ่มสารอนินทรีย์ (นินทรีย์ ถือเป็นสารทำความเย็นยุคแรก ๆ ที่ใช้ในการทำความเย็นเช่นแอมโมเนียคาร์บอนไดออกไซด์ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ได้แก่ แอมโมเนียเนื่องจากมีราคาถูกและมีค่าความร้อนจำเพาะสูง7 (ไม่อิ่มตัวอินทรีย์ เช่นเอทิลีน(Ethylene) โปรพิลีน (Propylene) เป็นต้น



















การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ชนิดของสารทำความเย็น
สารทำความเย็นที่มีใช้งานในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็น 7 ประเภทใหญ่ๆตามองค์ประกอบ

ทางเคมีและสมบัติของสารทำความเย็นดังนี้สารทำความเย็นกลุ่มฮาโลคาร์บอน ( สารประกอบฮาโลคาร์บอน )
1สารกลุ่มนี้เป็นสารสังเคราะห์ของมีเทนอีเทนเป็นสารทำความเย็น
ที่ใช้งานเป็นส่วนใหญ่ในปัจจุบันทั้งในเครื่องทำความเย็นที่ใช้ในครัวเรือนใช้เชิงพาณิชย์และในทางอุตสาหกรรมการทำความเย็นแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มตามองค์ประกอบทางเคมีดังนี้
11 สารทำความเย็นตระกูล CFC ( คลอโรฟลูออโรคาร์บอน ) เป็นสารทำความเย็นที่มี
คลอรีน ( CL ) ฟลูออรีน ( F ) และคาร์บอน ( C ) เป็นองค์ประกอบเช่นสารทำความเย็น

เตือน ( องศาเซลเซียส ) 1.2 สารทำความเย็นตระกูล hcfc ( ไฮโดรคลอโรฟลูออโรคาร์บอน ) เป็นสารทำ
ความเย็นที่มีไฮโดรเจน ( H ) คลอรีน ( CL ) ฟลูออรีน ( F ) และคาร์บอน ( C ) เป็นองค์ประกอบเช่นสารทำ

( ความเย็น monochlorodifluoromethane ละอองเกสร ) 1.3 สารทำความเย็นตระกูล HFC ( ไฮโครฟลูออโรคาร์บอน ) เป็นสารทำความเย็นที่มี
ไฮโดรเจน ( H ) ฟลูออรีน ( F ) และคาร์บอน ( C ) เป็นองค์ประกอบเช่นสารทำความเย็น
tetrafluoroethane ( R - 134a )

สารทำความเย็นผสมชนิดซีโอโทรปิก ( zeotropic ผสม )
2สารกลุ่มนี้เป็นสารทำความเย็นที่ได้จากการนำสารที่มีส่วนประกอบทางเคมีต่างกันตั้งแต่
สองชนิดขึ้นไปมาผสมกันสารที่นำมาผสมกันอาจมีสมบัติเป็นสารทำความเย็นอยู่เดิมที่มีใช้อยู่หรืออาจเป็นสารอื่นก็ได้ขณะเปลี่ยนแปลงสถานะจาก 42 ไอควบแน่นเป็นสารทำความเย็นเหลวหรือจากสารทำความเย็นเหลวเดือดกลายเป็นไออุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะ ( เหินอุณหภูมิ ) จะต่างกันค่อนข้างมากเช่นสารทำความเย็น r-407cไดฟลูออโรมีเทน ( r-32 ) จำนวนร้อยละ 23 สารทำความเย็นเพนต้าฟลูออโรอีเทน ( r-125 ) จำนวนร้อยละ 25 และสารทำความเย็น tetrafluoroethane ( R - 134a ) จำนวนร้อยละ 52 โดยน้ำหนักมีอุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะเท่ากับ 4เป็นต้นเนื่องจากอุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะเปลี่ยนไปทำให้ขณะเปลี่ยนแปลงสถานะสารทำความเย็นที่ผสมกันอยู่สามารถแยกตัว 9 องศาเซลเซียสดังนั้นเมื่อใช้สารทำความเย็นกลุ่มนี้เมื่อต้องมีการเติมสารทำความเย็นหรือการถ่ายสารทำความเย็นออกต้องทำในสภาวะที่สารทำความเย็นมีสถานะเป็นของเหลว

3 สารทำความเย็นผสมชนิดกึ่งอะซีโอโทรปิก ( กึ่งผสม azeotropic )

สารกลุ่มนี้เป็นสารทำความเย็นที่ได้จากการนำสารที่มีส่วนประกอบทางเคมีต่างกันตั้งแต่สองชนิดขึ้นไปมาผสมกันในทำนองเดียวกับสารทำความเย็นผสมชนิดซีโอโทรปิกเพียงแต่สารทำความเย็นใหม่ที่ได้เมื่อมาใช้ในระบบการทำความเย็นขณะเปลี่ยนแปลงสถานะจากไอควบแน่นเป็นสารทำความเย็นเหลวอุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะจะต่างกันน้อยจนสามารถตัดทิ้งไม่นำมาคิดได้เช่นสารทำความเย็น r-404a ซึ่งเป็นสารทำความเย็นที่มีส่วนผสมของสารทำความเย็นเพนต้าฟลูออโรอีเทน ( r-125 ) จำนวนร้อยละ 44trifluoroethane ( r-143a ) จำนวนร้อยละ 52 และสารทำความเย็น tetrafluoroethane ( R - 134a ) จำนวนร้อยละ 4 โดยน้ำหนักมีอุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะเท่ากับ 0เป็นต้นอย่างไรก็ดีเมื่อต้องมีการเติมสารทำความเย็นหรือการถ่ายสารทำความเย็นออกควรทำในสภาวะที่สารทำความเย็นมีสถานะเป็นของเหลวเช่นเดียวกับสารทำความเย็นกลุ่มซีโอโทรปิก

7 องศาเซลเซียส4 สารทำความเย็นผสมชนิดอะซีโอโทรปิก ( azeotropic ผสม )

สารกลุ่มนี้เป็นสารทำความเย็นที่ได้จากการนำสารที่มีส่วนประกอบทางเคมีต่างกันตั้งแต่สองชนิดขึ้นไปมาผสมกันในทำนองเดียวกับสารทำความเย็นผสมชนิดซีโอโทรปิกเพียงแต่สารทำความเย็นใหม่ที่ได้เมื่อมาใช้ในระบบการทำความเย็นขณะเปลี่ยนแปลงสถานะจากไอควบแน่นเป็นสารทำความเย็นเหลวอุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะจะเป็นค่าเดียวกันเหมือนสารทำความเย็นเดี่ยวเช่นสารทำความเย็น r-502 ซึ่งเป็นสารทำความเย็นที่มีส่วนผสมของสารทำความเย็น monochlorodifluoromethane ( ละอองเกสร ) จำนวนร้อยละ 488 และสารทำความเย็น monochloropentafluoroethane ( r-115 ) จำนวนร้อยละ 512 โดยน้ำหนักมีอุณหภูมิเริ่มต้นและอุณหภูมิสุดท้ายขณะเปลี่ยนแปลงสถานะเท่ากับเป็นต้น 0 องศาเซลเซียส5 สารทำความเย็นกลุ่มสารอินทรีย์ ( สารอินทรีย์ )
สารกลุ่มนี้เป็นสารทำความเย็นที่มีสารอินทรีย์เป็นองค์ประกอบเช่นบิวเทน ( บิวเทน )
6
สารทำความเย็นกลุ่มสารอนินทรีย์ ( สารอนินทรีย์ )สารกลุ่มนี้เป็นสารทำความเย็นที่มีสารอนินทรีย์เป็นองค์ประกอบถือเป็นสารทำความเย็น
ยุคแรกๆที่ใช้ในการทำความเย็นเช่นแอมโมเนียคาร์บอนไดออกไซด์ซัลเฟอร์ไดออกไซด์เป็นต้นเนื่องจากสารทำความเย็นในกลุ่มนี้เป็นสารที่ค่อนข้างอันตรายในปัจจุบันที่มีใช้งานในทางอุตสาหกรรมการทำความเย็นเป็นหลักได้แก่แอมโมเนียเนื่องจากมีราคาถูกและมีค่าความร้อนจำเพาะสูง
7 สารทำความเย็นกลุ่มสารอินทรีย์ที่ไม่อิ่มตัว ( สารประกอบอินทรีย์ชนิดไม่อิ่มตัว )
สารกลุ่มนี้เป็นสารทำความเย็นที่มีสารอินทรีย์ที่ไม่อิ่มตัวเป็นองค์ประกอบเช่นเอทิลีน
( ลีน ) โปรพิลีน ( โพรพิลีน ) เป็นต้น
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: