UK to adopt Hague Convention to pro

UK to adopt Hague Convention to protect artefacts in war zones
21 June 2015
From the section UK
IS image from April 2015 reportedly showing militant taking a sledgehammer to an Assyrian relief
IS militants have released images of cultural sites being destroyed in Iraq
A major international agreement designed to protect cultural property during military conflict is to be finally ratified by the UK.
The 1954 Hague Convention was set up after World War Two but has never been adopted into law by the government.
Culture Secretary John Whittingdale says destruction and looting in Syria and Iraq by Islamic State militants shows it is now essential.
The UK is the only major nation not to have endorsed the convention.
More than 115 countries are party to the agreement, including all United Nations Security Council members, except for the UK.
The Hague Convention was meant to ensure nations and armies would not target cultural treasures. The UK was one of the original signatories to the convention but never ratified it.
The 1990s conflict in the Balkans saw the agreement revised and in 2004 the UK said it would ratify when time allowed.
Mr Whittingdale says the convention will now become law in the UK "at the first opportunity".
He said: "While the UK's priority will continue to be the human cost of these conflicts, I am in no doubt we must also do what we can to prevent any further cultural destruction.
"The loss of a country's heritage threatens its very identity."
A fund to support future intervention by archaeologists to recover at-risk monuments in Iraq, Syria and Libya is also reportedly to be set up by the government at a summit in September.
Professor Peter Stone, a leading campaigner for the convention's adoption, says it was "fantastic news... as long as there are no further delays".
Shadow culture secretary, Chris Bryant, who says Labour is committed to prompt ratification, said earlier this month that he was "at a loss to understand" why the government had not yet acted.
The director of the British Museum, Neil MacGregor, is also among those to have called on the UK to ratify the convention.
Ciarán Devane, chief executive of cultural organisation the British Council, said: "Some of the most important cultural sites in the world are at significant risk of degradation and destruction by extremist elements and Britain is uniquely placed to prevent them from being lost forever."
He said the new intervention fund would ensure that the British Council could "extend the conservation work we already do... to help preserve these priceless assets".
IS militants have been accused selling Syria's cultural heritage to raise funds, leading to a UN ban in the trade of artefacts from the country.
There are fears the militants may destroy the 2,000-year-old Roman-era ruins in Palmyra in Syria, while in Iraq the ancient Assyrian city of Nimrud is among the sites they have targeted.
Mr MacGregor previously told The Times the museum was already trying to protect antiquities taken from conflict zones.
"We are playing a significant part in holding objects that have been illegally exported," he said.
"We did that in Afghanistan and are now returning them. We are holding an object we know was illegally removed from Syria and one day it will go back."

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สหราชอาณาจักรให้นำอนุสัญญากรุงเฮกเพื่อปกป้องสิ่งที่อยู่ในเขตสงคราม21 2015 มิถุนายน จากส่วนของสหราชอาณาจักรเป็นภาพจาก 2015 เมษายนรายงานแสดงหัวรุนแรงการ sledgehammer การบรรเทาอัสซีเรียเป็นผู้ปฏิบัติได้ปล่อยภาพของสถานที่ทางวัฒนธรรมถูกทำลายในอิรักข้อตกลงระหว่างประเทศหลักออกแบบมาเพื่อปกป้องทรัพย์สินทางวัฒนธรรมระหว่างความขัดแย้งทางทหารได้ในที่สุดเป็นสำคัญ โดยสหราชอาณาจักร1954 อนุสัญญาเฮกถูกตั้งขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง แต่มีไม่เคยถูกนำมาใช้เป็นกฎหมาย โดยรัฐบาลWhittingdale จอห์นเลขานุการวัฒนธรรมกล่าวว่า การทำลาย และความในซีเรียและอิรัก โดยรัฐอิสลามฉะนั้นแสดงเป็นสำคัญอังกฤษเป็นประเทศหลักการได้รับรองการประชุมมากกว่า 115 ประเทศเป็นภาคีของข้อตกลง รวมสมาชิกสหประชาชาติมนตรีทั้งหมด ยกเว้นสหราชอาณาจักรอนุสัญญากรุงเฮกได้หมายถึงให้ประเทศ และกองทัพจะเป้าหมายทางวัฒนธรรม สหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งลงนามฉบับอนุสัญญา แต่ไม่สำคัญความขัดแย้งปี 1990 ในบอลข่านเห็นข้อตกลงการแก้ไข และในปี 2547 สหราชอาณาจักรว่า จะอนุมัติเมื่อเวลาอนุญาตให้นาย Whittingdale กล่าวว่า การประชุมวันนี้จะกลายเป็น กฎหมายในสหราชอาณาจักร "ในโอกาสแรก"เขากล่าวว่า: "ในขณะที่ความสำคัญของสหราชอาณาจักรยังคงมีความขัดแย้งเหล่านี้มนุษย์ ฉันไม่ต้องสงสัยเราต้องทำสิ่งที่เราสามารถป้องกันการทำลายวัฒนธรรมเพิ่มเติมใด ๆ"การสูญเสียมรดกของประเทศคุกเอกลักษณ์มาก"กองทุนเพื่อสนับสนุนการแทรกแซงในอนาคต โดยนักโบราณคดีจะฟื้นอนุสาวรีย์อุทกภัยในอิรัก ซีเรีย และลิเบียได้ยังรายงานตั้ง โดยรัฐบาลที่เป็นสุดยอดในเดือนกันยายนศาสตราจารย์ปีเตอร์หิน campaigner ชั้นนำสำหรับยอมรับการประชุม กล่าวว่า มันเป็น "ข่าวที่ยอดเยี่ยม...เป็นนานเนื่องจากมีเป็นไม่มีความล่าช้าต่อไป"รัฐมนตรีเงาวัฒนธรรม ไบรอันท์ Chris ซึ่งกล่าวว่า แรงงานมีความมุ่งมั่นให้ให้สัตยาบัน กล่าวว่า ต้นเดือนนี้ว่า เป็น "ตะลึงเข้าใจ" ทำไมรัฐบาลยังทำไม่ได้ปฏิบัติการผู้อำนวยการของพิพิธภัณฑ์บริติช นีล MacGregor ยังมีที่ได้เรียกว่าในสหราชอาณาจักรให้การประชุมCiarán Devane ผู้บริหารระดับสูงของวัฒนธรรมองค์กรบริติชเคาน์ซิล กล่าวว่า: "บางแห่งที่สำคัญที่สุดในโลกมีความเสี่ยงที่สำคัญของการลด และทำลาย โดยองค์ประกอบโต่งและสหราชอาณาจักรโดยเฉพาะวางการป้องกันไม่ให้เลือนหายไปตลอดกาล"เขากล่าวว่า กองทุนแทรกแซงใหม่จะให้สภาอังกฤษสามารถ "ขยายการอนุรักษ์งานเราแล้ว do. ... ช่วยรักษาสินทรัพย์ล้ำค่าเหล่านี้"เป็นผู้ปฏิบัติได้ถูกกล่าวหาว่าขายซีเรียของมรดกทางวัฒนธรรมเพื่อกุศล นำไปสู่บ้านสหประชาชาติในการค้าขายสิ่งประดิษฐ์จากประเทศมีความกลัวฉะนั้นอาจทำลายโบราณสถานยุคโรมันอายุ 2000 ปีในปาล์มไมร่าในซีเรีย ในขณะที่ในอิรักโบราณอัสซีเรียเมืองของ Nimrud เป็นหนึ่งใน พวกเขามีเป้าหมายนาย MacGregor ก่อนหน้านี้บอกว่า ไทม์พิพิธภัณฑ์แล้วพยายามปกป้องโบราณวัตถุที่มาจากเขตความขัดแย้ง"เราจะเล่นเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการจับวัตถุที่มีการผิดกฎหมายส่งออก เขากล่าวว่า"เราไม่ว่าในอัฟกานิสถาน และมีตอนนี้กลับไป เราจะถือวัตถุที่เรารู้ว่าผิดกฎหมายถูกเอาออก จากซีเรีย และ วันหนึ่งมันจะย้อนกลับไป"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สหราชอาณาจักรเพื่อนำมาใช้อนุสัญญากรุงเฮกเพื่อปกป้องสิ่งของในเขตสงคราม
21 มิถุนายน 2015
ส่วนจากสหราชอาณาจักร
เป็นภาพจากเมษายน 2015 รายงานแสดงการต่อสู้ค้อนขนาดใหญ่เพื่อบรรเทาแอส
IS ก่อการร้ายได้ออกภาพของแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมถูกทำลายในอิรัก
ข้อตกลงระหว่างประเทศที่สำคัญได้รับการออกแบบ เพื่อปกป้องทรัพย์สินทางวัฒนธรรมในช่วงความขัดแย้งทางทหารจะได้รับการยอมรับในที่สุดโดยสหราชอาณาจักร.
1954 สนธิสัญญากรุงเฮกได้ถูกจัดตั้งขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ไม่เคยถูกนำไปใช้เป็นกฎหมายโดยรัฐบาล.
กระทรวงวัฒนธรรมกล่าวว่าจอห์น Whittingdale การทำลายและปล้นสะดมในซีเรียและอิรัก โดยการก่อการร้ายของรัฐอิสลามแสดงให้เห็นก็คือตอนนี้ที่สำคัญ.
สหราชอาณาจักรเป็นประเทศเดียวที่สำคัญไม่ได้ที่จะมีการรับรองการประชุม.
กว่า 115 ประเทศมีบุคคลที่ตกลงรวมทั้งความมั่นคงแห่งสหประชาชาติสมาชิกสภายกเว้นสหราชอาณาจักร.
สนธิสัญญากรุงเฮก ก็หมายความว่าจะให้แน่ใจว่าประเทศและกองทัพจะไม่กำหนดเป้าหมายสมบัติทางวัฒนธรรม สหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในผู้ลงนามเดิมจะมีการประชุม แต่ไม่เคยยอมรับมัน.
1990 ความขัดแย้งในคาบสมุทรบอลข่านเห็นข้อตกลงฉบับปรับปรุงและสหราชอาณาจักรในปี 2004 กล่าวว่ามันจะให้สัตยาบันเมื่อถึงเวลาที่ได้รับอนุญาต.
นาย Whittingdale กล่าวว่าการประชุมจะกลายเป็นกฎหมายใน . สหราชอาณาจักร "ในโอกาสแรก"
เขากล่าวว่า "ในขณะที่การจัดลำดับความสำคัญของสหราชอาณาจักรจะยังคงเป็นค่าใช้จ่ายของมนุษย์ความขัดแย้งเหล่านี้ผมไม่ต้องสงสัยเลยเรายังต้องทำในสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อป้องกันการทำลายวัฒนธรรมเพิ่มเติมใด ๆ .
"การสูญเสียของ มรดกของประเทศขู่ว่าตัวตนของมัน. "
กองทุนเพื่อสนับสนุนการแทรกแซงในอนาคตโดยนักโบราณคดีในการกู้คืนอนุเสาวรีย์ที่มีความเสี่ยงในอิรักซีเรียและลิเบียนอกจากนี้ยังมีรายงานว่าจะได้รับการจัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลในการประชุมสุดยอดในเดือนกันยายน.
ศาสตราจารย์ปีเตอร์สโตน รณรงค์ชั้นนำสำหรับการนำไปใช้การประชุมกล่าวว่ามันเป็น "ข่าวที่ยอดเยี่ยม ... ตราบใดที่ไม่มีความล่าช้าต่อไป".
เลขานุการวัฒนธรรมเงาคริสไบรอันท์กล่าวว่าแรงงานที่มีความมุ่งมั่นเพื่อให้การให้สัตยาบันกล่าวว่าเดือนก่อนหน้านี้ว่าเขาเป็น " ที่สูญเสียที่จะเข้าใจ "ทำไมรัฐบาลไม่ได้ทำหน้าที่ยัง.
ผู้อำนวยการของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติอังกฤษนีลเกรเกอร์ยังเป็นหนึ่งในผู้ที่จะมีการเรียกร้องให้สหราชอาณาจักรที่จะให้สัตยาบันอนุสัญญา.
Ciarán Devane หัวหน้าผู้บริหารขององค์กรทางวัฒนธรรมบริติชเคานซิ กล่าวว่า "บางส่วนของแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดในโลกที่มีความเสี่ยงที่สำคัญของการย่อยสลายและการทำลายล้างโดยหัวรุนแรงและสหราชอาณาจักรจะถูกวางไว้โดยเฉพาะเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาจากการหายไปตลอดกาล."
เขากล่าวว่ากองทุนแทรกแซงใหม่จะให้แน่ใจว่าอังกฤษ สภาสามารถ "ขยายงานอนุรักษ์ที่เราทำอยู่แล้ว ... ที่จะช่วยรักษาสินทรัพย์ล้ำค่าเหล่านี้".
ก่อการร้าย IS ถูกกล่าวหาว่ามีการขายมรดกทางวัฒนธรรมของซีเรียเพื่อระดมทุนนำไปสู่การห้ามของสหประชาชาติในการค้าของสิ่งประดิษฐ์จากประเทศ.
มี กลัวการก่อการร้ายอาจทำลาย 2,000 ปีซากปรักหักพังของโรมันยุคใน Palmyra ในซีเรียขณะที่ในอิรักเมืองโบราณของแอส Nimrud เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่พวกเขามีการกำหนดเป้าหมาย.
นายเกรเกอร์สก่อนหน้านี้บอกเวลาพิพิธภัณฑ์แล้วก็พยายามที่จะปกป้อง โบราณวัตถุที่นำมาจากโซนความขัดแย้ง.
"เรากำลังเล่นเป็นส่วนสำคัญในการถือครองวัตถุที่มีการส่งออกอย่างผิดกฎหมาย" เขากล่าว.
"เราไม่ว่าในอัฟกานิสถานและตอนนี้พวกเขากลับมา เราจะถือวัตถุที่เรารู้ว่าผิดกฎหมายจะถูกลบออกจากซีเรียและวันหนึ่งมันจะกลับไป. "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สหราชอาณาจักรรับรองอนุสัญญากรุงเฮก เพื่อปกป้องสิ่งประดิษฐ์ในเขตสงคราม

21 มิถุนายน 2015 จากฝ่ายอังกฤษ
เป็นภาพจากเมษายน 2015 รายงานแสดงการใช้ค้อนกับ
โล่งอกอัสซีเรียเป็นโจรก่อการร้ายได้ปล่อยภาพของเว็บไซต์วัฒนธรรมถูกทำลายในอิรัก
หลักข้อตกลงระหว่างประเทศที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องทรัพย์สินทางวัฒนธรรมในความขัดแย้งทางทหารเป็นในที่สุดให้สัตยาบันโดย UK .
อนุสัญญาปี 1954 ตั้งขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ไม่เคยถูกประกาศใช้เป็นกฎหมาย โดยรัฐบาล รัฐมนตรีวัฒนธรรม กล่าวว่า จอห์น whittingdale
ทำลายและปล้นสะดมในซีเรียและอิรักโดยทหารรัฐอิสลามที่แสดงให้เห็นว่ามันคือ
ตอนนี้จำเป็นอังกฤษเป็นเพียงสาขาประเทศไม่ต้องรับรองอนุสัญญา .
มากกว่า 115 ประเทศภาคีความตกลง รวมทั้งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติสมาชิก ยกเว้นอังกฤษ
อนุสัญญากรุงเฮก ตั้งใจจะให้ชาติและกองทัพจะไม่เป็นเป้าหมายของสมบัติทางวัฒนธรรม สหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในผู้ลงนามเดิมไปประชุม แต่ไม่เคยยอมรับมัน
ในยุค 90 ความขัดแย้งในคาบสมุทรบอลข่านเห็นข้อตกลงแก้ไขและในปี 2004 อังกฤษกล่าวว่าจะให้สัตยาบันเมื่อเวลาที่ได้รับอนุญาต .
คุณ whittingdale กล่าวว่า การประชุมจะกลายเป็นกฎหมายใน UK " ในโอกาสแรก " .
เขากล่าวว่า : " ในขณะที่ของสหราชอาณาจักรที่สำคัญจะยังคงได้ต้นทุนมนุษย์ของความขัดแย้งเหล่านี้ ฉันสงสัยนะ เราต้องทำสิ่งที่เราสามารถที่จะป้องกันการทำลายวัฒนธรรมใด ๆเพิ่มเติม .
" การสูญเสียของมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศคุกคามตัวตนของมันมาก . "
กองทุนเพื่อสนับสนุนในอนาคตของการแทรกแซงโดยนักโบราณคดีกู้อนุสาวรีย์ที่มีความเสี่ยงในอิรัก ซีเรียและลิเบียยังทัวร์ที่จะจัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลในการประชุมสุดยอดในเดือนกันยายน .
อาจารย์ปีเตอร์ สโตน นำรณรงค์เพื่อการยอมรับของอนุสัญญาว่า มันเป็นข่าวที่ยอดเยี่ยม " . . . . . . . ตราบใดที่ไม่มีความล่าช้า
" เพิ่มเติมเงารัฐมนตรีวัฒนธรรม คริส ไบรอันท์ ใครบอกว่าแรงงานมุ่งมั่นที่จะให้สัตยาบัน กล่าวเมื่อต้นเดือนนี้ว่า เขา " ที่สูญเสียที่จะเข้าใจ " ทำไมรัฐบาลยังมิได้ทำ .
ผู้อำนวยการของพิพิธภัณฑ์ British Neil MacGregor , ยังเป็นหนึ่งในผู้ที่จะเรียกใน UK ที่จะให้สัตยาบันอนุสัญญาฯ
ciar . kgm N ดีเวน หัวหน้าผู้บริหารขององค์กรวัฒนธรรมสภาอังกฤษกล่าวว่า :" บางส่วนของแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดในโลกมีความเสี่ยงที่สำคัญของการย่อยสลายและทำลายโดยองค์ประกอบหัวรุนแรงและอังกฤษถูกวางไว้เพื่อป้องกันพวกเขาจากการสูญเสียตลอดไป "
เขาบอกว่ากองทุนการแทรกแซง ใหม่ จะ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสภาอังกฤษ " อาจขยายการอนุรักษ์งานที่เราทำแล้ว . . . เพื่อช่วยรักษาทรัพย์สินล้ำค่า
" เหล่านี้เป็นโจรก่อการร้ายได้ถูกกล่าวหาว่าขายมรดกทางวัฒนธรรมของซีเรีย เพื่อระดมทุนสู่สหประชาชาติ บัน ในการค้าของสิ่งประดิษฐ์จากประเทศ
มีกลัวก่อการร้ายอาจทำลาย 2000 ปีเก่าสมัยโรมันซากปรักหักพังใน Palmyra ในซีเรีย ขณะที่ในอิรักแอสโบราณเมืองนิมรัดเป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่พวกเขามีเป้าหมาย .
นายลินแม็คเกรเกอร์ก่อนหน้านี้บอกเวลาพิพิธภัณฑ์ก็พยายามปกป้องโบราณวัตถุที่นำมาจากพื้นที่เสี่ยงภัย .
" เราเล่นเป็นส่วนสําคัญในการจับวัตถุที่มีการลักลอบส่งออก , " เขากล่าว .
" เราทำมันในอัฟกานิสถานและเพิ่งกลับมาตอนนี้เลย เราถือวัตถุที่เรารู้คือลักลอบเอาออกจากซีเรีย และวันหนึ่งก็จะกลับไป "
.