1. IntroductionThe genetic potentia

1. Introduction
The genetic potential for maximum protein accretion of modem broilers can be
realized only if the demand for all essential nutrients and for energy is met. Basically,
broilers try to consume an amount of feed that is sufficient to cover their energy
requirements (NRC, 1994). Owing to the limited capacity of the digestive tract and
parallelled by the genetic improvement of broiler hybrids, animal or vegetable fats or
mixtures of these have become commonly used components in broiler diets. Besides
their role as a source of energy, certain (polyunsaturated) fatty acids, of which vegetable
fats contain a higher percentage than animal fats, are essential for both animals and
humans. Diets deficient in these fatty acids will cause metabolic disorders (Whitehead,
1984; Gurr, 1992). Depressed growth (especially in male chickens) may be the first sign
of an inadequate supply of essential fatty acids. Abnormalities in the structure of
membranes, capillaries and skin as well as a general depression of immunity are among
the most important consequences of major deficiencies (Wiseman, 1984). For poultry,
recommendations for the requirements of essential fatty acids usually refer only to
linoleic acid. 10 g kg- ’ of linoleic acid is considered to be sufficient for maximum
performance (NRC, 1994). This amount is expected to be covered by the native
triacylglycerols in the diet.
Because they have been synthesized exclusively in the plants, vegetable fats usually
contain a smaller number of fatty acids as compared to animal fats, which are not only
synthesized through the animal metabolism but are also directly influenced by the diet.
This results in a greater variety of fatty acids as components of the triacylglycerols
(Prabucki, 1977). The composition of animal fat not only reflects the composition of
dietary lipids, also the amount of fat in the diet (and its relation to the lipogenesis in the
liver) plays an important role in this respect (Pinchasov and Nir, 1992).
Differences in the digestibility of various fats will potentially affect animal performance.
Especially in nonruminants, the composition of dietary lipids is an important
factor for the digestibility of the fat and therefore the extent to which it can be used as a
source of metabolizable energy in chickens (Wiseman, 1984). This is especially the case
if the diet contains high amounts of fat. Usually, fats with a high percentage of
unsaturated fatty acids are better absorbed than highly saturated lipids, with the
possibility of synergistic effects between fats of different composition (Freeman, 1984;
Hulan et al., 1984; Ketels and DeGroote, 1989; Bee et al., 1994). In addition, the age of
young broiler chickens is another important factor for the ability to digest fats: initially,
the potential production of liver enzymes is not sufficient (Wiseman, 1984) and the
digestion of animal fat especially improves significantly with increasing age (Krogdahl,
1985).
Nevertheless, the question of whether to feed more highly saturated fats in order to
produce carcasses with more solid fat tissues and with a greater stability against
oxidation is frequently discussed. From this point of view, the fatty acid composition
can be an important criterion of carcass quality and is significantly influenced by the
fatty acid pattern of the diet (Ajuyah et al., 1991a,b; Yau et al., 1991; Pinchasov and
Nir, 1992; Zollitsch et al., 1992a,b; Kirchgessner et al., 1993; Roth et al., 1993; Scaife et
al., 1994). The use of certain fats or of free fatty acids may even have an impact upon
W. Zollitsch et al. /Animal Feed Science Technology 66 (1997) 63-73 65
subjective or organoleptic traits of meat quality (Zollitsch et al., 1992a; Kirchgessner et
al., 1993; Roth et al., 1993). For practical considerations it has to be kept in mind that
the response of intramuscular fat to dietary triacylglycerols is different to that of adipose
tissue (Yau et al., 1991; Hrdinka et al., 1996). Furthermore, the fatty acid pattern in
broiler carcasses may be altered during processes such as cooking, roasting etc. (Youssef
et al., 1989; El-Din and Ibrahim, 1990).
The most important aspects of the decision as to which fat sources to use for the
formulation of broiler diets are the costs and the quality of the respective fats as well as
the effects which can be expected on both animal performance and carcass quality.
Therefore, an experiment was conducted in order to evaluate the effects of four different
fats (two of them commonly used in broiler diets, one alternative vegetable fat and one
fat product which is advertised as promoting certain quality criteria of carcass fat) on the
growth performance and on various carcass characteristics of broiler chickens (Aichinger,
1994).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. บทนำศักยภาพทางพันธุกรรมสำหรับ accretion โปรตีนสูงสุดของโมเด็มออกได้รู้เท่านั้นถ้าเป็นไปตามความต้อง การสารอาหารที่จำเป็นทั้งหมด และพลังงาน โดยทั่วไปออกพยายามกินจำนวนอาหารที่เพียงพอที่จะครอบคลุมพลังงานของพวกเขาความต้องการ (NRC, 1994) เพราะการจำกัดกำลังการผลิตของทางเดินอาหาร และparallelled โดยปรับปรุงพันธุกรรมของไก่เนื้อลูกผสม สัตว์ หรือไขมันผัก หรือส่วนผสมเหล่านี้ได้กลายเป็น ส่วนประกอบที่ใช้กันทั่วไปในอาหารไก่เนื้อ สำรองห้องพักบทบาทของตนเป็นแหล่งของพลังงาน กรดไขมันบาง (ไขมัน) ผักที่ประกอบด้วยเปอร์เซ็นต์สูงกว่าไขมันสัตว์ไขมัน จำเป็นสำหรับสัตว์ทั้งสอง และมนุษย์ อาหารขาดสารในกรดไขมันเหล่านี้จะทำให้เกิดการเผาผลาญผิดปกติ (Whitehead1984 Gurr, 1992) เจริญเติบโตต่ำ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไก่ชาย) อาจเป็นเครื่องแรกการจัดหาที่ไม่เพียงพอของกรดไขมันจำเป็น ความผิดปกติในโครงสร้างของสาร เส้นเลือดฝอย และผิวหนัง ตลอดจนภาวะซึมเศร้าทั่วไปของภูมิคุ้มกันที่นี่ผลกระทบสำคัญที่สุดของทรงใหญ่ (ไวส์ 1984) สำหรับสัตว์ปีกคำแนะนำสำหรับความต้องการของกรดไขมันจำเป็นมักจะหมายถึงเฉพาะกรด linoleic กิโลกรัม 10 กรัม - ' ของกรด linoleic ถือว่าจะเพียงพอมากที่สุดประสิทธิภาพ (NRC, 1994) ยอดเงินนี้คาดว่าจะสามารถครอบคลุมพื้นเมืองtriacylglycerols ในอาหารเนื่องจากพวกเขาได้ถูกสังเคราะห์โดยเฉพาะในพืช พืชเทคโนโลยีของไขมันมักจะประกอบด้วยจำนวนกรดไขมันเมื่อเทียบกับไขมันสัตว์ ที่มีขนาดเล็กไม่เพียงสังเคราะห์ โดยเผาผลาญสัตว์ แต่โดยตรงยังได้รับอิทธิพลจากอาหารนี้เกิดความหลากหลายมากขึ้นของกรดไขมันเป็นส่วนประกอบของ triacylglycerols(Prabucki, 1977) ส่วนประกอบของไขมันสัตว์ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงองค์ประกอบของโครงการอาหาร จำนวนไขมันในอาหาร (lipogenesis ในความสัมพันธ์และการตับ) มีบทบาทสำคัญในนี้ (Pinchasov และ Nir, 1992)ความแตกต่างใน digestibility ไขมันต่าง ๆ อาจจะมีผลต่อประสิทธิภาพสัตว์โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน nonruminants องค์ประกอบของโครงการอาหารเป็นสำคัญตัวคูณสำหรับ digestibility ไขมันและขอบเขตที่สามารถใช้เป็นแหล่งที่มาของพลังงาน metabolizable ในไก่ (ไวส์ 1984) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีนี้ถ้าอาหารประกอบด้วยปริมาณไขมันสูง ไขมันปกติ มีของกรดไขมันในระดับที่สมจะดีกว่าดูดซึมกว่าโครงการอิ่มตัวสูง มีการความเป็นไปได้ของผลพลังระหว่างไขมันขององค์ประกอบต่าง ๆ (Freeman, 1984ผูเทียนฮูหลาน et al., 1984 DeGroote, 1989 และ Ketels บีเอส al., 1994) นอกจากนี้ อายุไก่หนุ่มเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญสำหรับความสามารถในการย่อยไขมัน: ครั้งแรกการผลิตที่มีศักยภาพของเอนไซม์ตับไม่เพียงพอ (ไวส์ 1984) และการย่อยอาหารของสัตว์โดยเฉพาะปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญกับการเพิ่มอายุ (Krogdahl1985)อย่างไรก็ตาม คำถามที่ว่าจะเลี้ยงเพิ่มเติมสูงไขมันอิ่มตัวเพื่อซาก มีเนื้อเยื่อไขมันที่แข็งมากขึ้น และ มีเสถียรภาพมากขึ้นจากผลิตมักมีหารือออกซิเดชัน จากมุมนี้มอง องค์ประกอบของกรดไขมันสามารถเป็นเงื่อนไขสำคัญของคุณภาพซาก และมีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญโดยรูปแบบกรดไขมันของอาหาร (Ajuyah et al., 1991a, b เยาร้อยเอ็ด al., 1991 Pinchasov และNir, 1992 Al. et Zollitsch, 1992a, b Kirchgessner et al., 1993 รอดและ al., 1993 Scaife ร้อยเอ็ดal., 1994) ใช้บางไขมัน หรือกรดไขมันอิสระอาจจะมีผลกระทบเมื่อ /Animal W. Zollitsch et al. อาหารวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี 66 (1997) 65 63-73ลักษณะตามอัตวิสัย หรือ organoleptic คุณภาพเนื้อ (Zollitsch et al., 1992a Kirchgessner ร้อยเอ็ดal., 1993 รอดและ al., 1993) พิจารณาปฏิบัติมันมีจะเก็บไว้ในจิตใจที่การตอบสนองต่อบาดทะยักจากไขมัน triacylglycerols อาหารจะแตกต่างกับ adiposeเนื้อเยื่อ (เยาร้อยเอ็ด al., 1991 Hrdinka et al., 1996) นอกจากนี้ กรดไขมันรูปแบบในซากไก่เนื้ออาจมีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างกระบวนการเช่นการทำอาหาร ปิ้งฯลฯ (Youssefร้อยเอ็ด al., 1989 El-Din และอิบรอฮีม 1990)ลักษณะสำคัญของการตัดสินใจเป็นแหล่งไขมันที่ใช้ในการกำหนดอาหารไก่เนื้อเป็นต้นทุนและคุณภาพของไขมันนั้น ๆ เป็นผลกระทบที่สามารถคาดหวังประสิทธิภาพสัตว์และคุณภาพซากดังนั้น การทดลองได้ดำเนินการประเมินผลกระทบของสี่แตกต่างกันไขมัน (สองนั้นใช้กันทั่วไปในอาหารไก่เนื้อ ไขมันผักอื่นหนึ่ง และหนึ่งผลิตภัณฑ์ไขมันที่โฆษณาเป็นการส่งเสริมเงื่อนไขคุณภาพของซากไขมัน) ในการประสิทธิภาพการเจริญเติบโตและลักษณะซากต่าง ๆ ของไก่ (Aichinger1994)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. บทนำพันธุกรรมที่มีศักยภาพสำหรับการเพิ่มโปรตีนสูงสุดของไก่เนื้อโมเด็มสามารถตระหนักเฉพาะในกรณีที่มีความต้องการสารอาหารที่จำเป็นและให้พลังงานจะพบ โดยทั่วไปไก่พยายามที่จะใช้ปริมาณของอาหารที่จะเพียงพอที่จะครอบคลุมพลังงานของพวกเขาต้องการ(NRC, 1994) เนื่องจากกำลังการผลิตที่ จำกัด ของระบบทางเดินอาหารและparallelled โดยการปรับปรุงพันธุกรรมของไก่เนื้อลูกผสมไขมันสัตว์หรือผักหรือผสมเหล่านี้ได้กลายเป็นที่นิยมใช้ส่วนประกอบในอาหารไก่เนื้อ นอกจากนี้บทบาทของพวกเขาเป็นแหล่งที่มาของพลังงานบางอย่าง (ไม่อิ่มตัว) กรดไขมันซึ่งผักไขมันมีสัดส่วนที่สูงกว่าไขมันสัตว์ที่มีความจำเป็นสำหรับทั้งสัตว์และมนุษย์ อาหารที่ขาดกรดไขมันเหล่านี้จะก่อให้เกิดความผิดปกติของการเผาผลาญ (เฮด1984; Gurr, 1992) การเจริญเติบโตของความสุข (โดยเฉพาะในไก่ชาย) อาจจะเป็นสัญญาณแรกของแหล่งจ่ายไม่เพียงพอของกรดไขมันที่จำเป็น ผิดปกติในโครงสร้างของเยื่อฝอยและผิวเช่นเดียวกับภาวะซึมเศร้าทั่วไปของภูมิคุ้มกันอยู่ในหมู่ผลกระทบที่สำคัญที่สุดของข้อบกพร่องที่สำคัญ(ผู้วิเศษ 1984) สำหรับสัตว์ปีก, คำแนะนำสำหรับความต้องการของกรดไขมันที่จำเป็นมักจะกล่าวถึงเฉพาะกรดไลโนเลอิก 10 กรัม kg- 'ของกรดไลโนเลอิกจะถือเป็นสูงสุดเพียงพอสำหรับผลการดำเนินงาน(NRC, 1994) เงินจำนวนนี้คาดว่าจะได้รับการคุ้มครองโดยพื้นเมืองtriacylglycerols ในอาหาร. เพราะพวกเขาได้รับการสังเคราะห์เฉพาะในพืชไขมันพืชมักจะมีขนาดเล็กจำนวนมากของกรดไขมันเมื่อเทียบกับไขมันสัตว์ซึ่งไม่เพียงแต่การสังเคราะห์ผ่านการเผาผลาญอาหารสัตว์แต่ยังได้รับอิทธิพลโดยตรงจากการรับประทานอาหาร. นี้ส่งผลในความหลากหลายมากขึ้นของกรดไขมันเป็นส่วนประกอบของ triacylglycerols (Prabucki, 1977) องค์ประกอบของไขมันสัตว์ไม่เพียง แต่สะท้อนให้เห็นถึงองค์ประกอบของกรดไขมันในอาหารยังปริมาณของไขมันในอาหาร(และความสัมพันธ์กับ lipogenesis ในที่ตับ) มีบทบาทสำคัญในแง่นี้ (Pinchasov และ Nir, 1992). ความแตกต่างใน การย่อยของไขมันต่างๆที่อาจเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของสัตว์. โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน nonruminants องค์ประกอบของกรดไขมันในอาหารเป็นสิ่งสำคัญปัจจัยสำหรับการย่อยไขมันและดังนั้นจึงมีขอบเขตเพื่อที่จะสามารถนำมาใช้เป็นแหล่งที่มาของพลังงานที่ในไก่(ผู้วิเศษ , 1984) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ถ้าอาหารที่มีปริมาณสูงของไขมัน โดยปกติไขมันที่มีเปอร์เซ็นต์สูงของกรดไขมันไม่อิ่มตัวจะถูกดูดซึมได้ดีกว่าไขมันอิ่มตัวสูงที่มีความเป็นไปได้ของผลการทำงานร่วมกันระหว่างไขมันขององค์ประกอบที่แตกต่างกัน(ฟรีแมน 1984;. Hulan et al, 1984; Ketels และ DeGroote 1989; ผึ้งและ al., 1994) นอกจากนี้อายุของไก่หนุ่มเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญสำหรับความสามารถในการย่อยไขมัน: เริ่มต้นการผลิตที่มีศักยภาพของเอนไซม์ในตับไม่เพียงพอ(ผู้วิเศษ 1984) และการย่อยไขมันสัตว์โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญกับอายุที่เพิ่มขึ้น(Krogdahl , 1985). แต่คำถามที่ว่าจะกินอาหารไขมันอิ่มตัวสูงขึ้นเพื่อผลิตซากกับเนื้อเยื่อไขมันที่มั่นคงมากขึ้นและมีเสถียรภาพมากขึ้นกับการเกิดออกซิเดชันจะกล่าวถึงบ่อย จากมุมมองนี้องค์ประกอบของกรดไขมันสามารถใช้เป็นเกณฑ์ที่สำคัญของคุณภาพซากและมีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญโดยรูปแบบของกรดไขมันในอาหาร(Ajuyah, et ​​al, 1991a, ข. เหยา et al, 1991;. Pinchasov และNir 1992; Zollitsch, et ​​al, 1992a, ข. KIRCHGESSNER et al, 1993;. Roth, et ​​al, 1993;. Scaife et. al, 1994) การใช้ไขมันบางอย่างหรือของกรดไขมันอิสระอาจมีผลกระทบต่อดับบลิว Zollitsch et al, / อาหารสัตว์วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี 66 (1997) 63-73 65 ลักษณะส่วนตัวหรือทางประสาทสัมผัสของเนื้อสัตว์ที่มีคุณภาพ (Zollitsch, et ​​al, 1992a. KIRCHGESSNER et al, 1993;. Roth, et ​​al, 1993). สำหรับการพิจารณาการปฏิบัติก็จะต้องมีเก็บไว้ในใจว่าการตอบสนองของไขมันที่จะเข้ากล้าม triacylglycerols อาหารที่แตกต่างกันกับที่ของไขมันเนื้อเยื่อ(เหยา et al, 1991;. Hrdinka et al, 1996). นอกจากนี้รูปแบบของกรดไขมันในซากไก่เนื้ออาจมีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างกระบวนการต่าง ๆ เช่นการปรุงอาหารย่าง ฯลฯ (Youssef et al, 1989;. เอดินและอิบราฮิม, 1990). ด้านที่สำคัญที่สุดของการตัดสินใจเป็นที่แหล่งไขมัน ที่จะใช้สำหรับการกำหนดอาหารไก่เนื้อมีค่าใช้จ่ายและคุณภาพของไขมันตามลำดับเช่นเดียวกับผลกระทบที่คาดว่าจะสามารถต่อประสิทธิภาพการทำงานทั้งในสัตว์และคุณภาพซาก. ดังนั้นการทดลองได้ดำเนินการเพื่อประเมินผลกระทบของสี่ที่แตกต่างกันไขมัน (สองของพวกเขาที่ใช้กันทั่วไปในอาหารไก่เนื้อ, ไขมันพืชทางเลือกหนึ่งและเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ไขมันซึ่งเป็นโฆษณาที่ส่งเสริมเกณฑ์คุณภาพบางอย่างของไขมันซาก) ในการเจริญเติบโตและลักษณะซากต่างๆของไก่เนื้อ (Aichinger, 1994)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . บทนำ
ศักยภาพทางพันธุกรรมสำหรับการเพิ่มโปรตีนสูงสุดโดยใช้โมเด็มสามารถ
รับรู้ หากมีความต้องการสารอาหารและพลังงานจะพบ โดย
ไก่ลองกินปริมาณอาหารที่เพียงพอที่จะครอบคลุมความต้องการพลังงาน
( NRC , 1994 ) เนื่องจากความจุของระบบทางเดินอาหารและ
จำกัดparallelled โดยการปรับปรุงพันธุกรรมของไก่เนื้อลูกผสม สัตว์ หรือไขมันพืชหรือ
ผสมเหล่านี้ได้กลายเป็นองค์ประกอบที่ใช้กันทั่วไปในอาหารไก่เนื้อ นอกเหนือจากบทบาทของพวกเขาเป็นแหล่งของพลังงานบางอย่าง ( polyunsaturated ) กรดไขมัน ซึ่งผักไขมัน
มีเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่าไขมันสัตว์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ
ทั้งสัตว์และมนุษย์อาหารที่ขาดกรดไขมันเหล่านี้จะทำให้เกิดการเผาผลาญผิดปกติ ( whitehead
1984 ; เกอร์ , 1992 ) หดหู่การเจริญเติบโต ( โดยเฉพาะในชายไก่ ) อาจเป็นเครื่องหมาย
ครั้งแรกของอุปทานที่ไม่เพียงพอของกรดไขมันที่จำเป็น . ความผิดปกติในโครงสร้างของ
เยื่อ เส้นเลือดและผิวหนังรวมทั้งภาวะซึมเศร้าทั่วไปของภูมิคุ้มกันของ
ผลที่สำคัญที่สุดของข้อบกพร่องที่สำคัญ ( Wiseman , 1984 ) สำหรับสัตว์ปีก
แนวทางความต้องการของกรดไขมันที่จำเป็นมักจะอ้างถึงเฉพาะ
กรดไลโนเลอิก 10 กรัมต่อกิโลกรัมของกรด linoleic ถือว่าเพียงพอสำหรับประสิทธิภาพสูงสุด
( NRC , 1994 ) เงินจำนวนนี้คาดว่าจะถูกปกคลุมโดยไตรกลีเซอรอลในอาหารพื้นเมือง
.
เนื่องจากพวกเขาได้ถูกสังเคราะห์โดยเฉพาะในพืช , ผักไขมันมักจะ
ประกอบด้วยตัวเลขขนาดเล็กของกรดไขมันเมื่อเทียบกับไขมันสัตว์ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะ
สังเคราะห์ผ่านสัตว์เมแทบอลิซึม แต่ยังได้รับอิทธิพลโดยตรงจากอาหาร .
ผลลัพธ์นี้ในหลากหลายมากขึ้นของกรดไขมันที่เป็นส่วนประกอบของไตรกลีเซอรอล
( prabucki 1977 )องค์ประกอบของไขมันสัตว์ไม่เพียง แต่สะท้อนให้เห็นถึงองค์ประกอบของ
อาหารไขมัน นอกจากนี้ปริมาณของไขมันในอาหาร ( และความสัมพันธ์กับไลโปจีเนซีสใน
ตับมีบทบาทสำคัญในส่วนนี้ ( และ pinchasov เนียร์ , 1992 ) .
ความแตกต่างในการย่อยไขมันต่าง ๆที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน nonruminants
,องค์ประกอบของไขมันที่เสริมในอาหารเป็นปัจจัยสําคัญ
สำหรับการย่อยไขมัน ดังนั้นขอบเขตที่สามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานใช้ในไก่
( Wiseman , 1984 ) เป็นกรณีนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ถ้าอาหารมีปริมาณสูงของไขมัน โดยปกติ ไขมันที่มีเปอร์เซ็นต์สูงของกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวดีกว่า
ดูดซึมมากกว่ากรดไขมันอิ่มตัวสูงไขมัน กับ