The theory give emphasizes the list

The theory give emphasizes the listening-speaking-reading-writing order.

Listening is important in developing speaking proficiency and so receives particular emphasis. There are strong arguments, both physiological and psychological, for combiming speaking practice with training in listening comprehension.

Speaking is effective through listening. By hearing the sounds, articulation is more accurate, with differentiation of sounds, memorization and internalization of proper auditory sounds images. Development of a feel for the new language gains interest for the language.

There has been practically no much study or experiments to determine how much time should be taken between listening experience and speaking practice.

Listening comprehension is most neglected in language learning. It is generally treated as incidental to speaking rather than as a foundation for it. Texts, guides and course of study contain tests for evaluating progress in listening comprehension, but they rarely contain specific learning materials designed for the systematic development of this skill.

Here are some materials that can be adapted for improving listening comprehension:
The dialogue should be presented as a story, in the foreign language, using simple language.
The meaning of some of the new words and expressions that will appear in the dialogue should be explained through gestures, visual aids, synonyms, etc. The idea is to teach the content in the story.
Different roleplays can be used to present the dialogue.
Without stopping, the dialogue can be gone through to hear how the entire conversation sounds at normal speed.
True and false activity can improve comprehension.
The entire dialogue can be repeatef at normal rate speed. The student can close his eyes to eliminate distractions and increase his listening concentration.
A listening comprehension test can be given.
Listening comprehension practice can be given using dialogues from other courses of

study or recorded materials that contain most of the language that has previously been learned by the students. The speaking practice would begin after listening comprehension. The students will be ready to speak at this time. Speaking practice can proceed according to sequence.
1.Pattern practice can be based on material taken from the dialogue.
2.Mimicking can practice the dialogue itself.
3.Performance of the dialogue in front of class and at the seats with the tudents changing roles and partners from time to time.
4.Dialogue can be adaptated.

Memorization of techniques suggested represent an approach that will enable student to memorize larger segments at a time and perform dialogues as a whole with more confidence. In the meantime, if teachers are willing to use their imagination and experiment with new techniques, many ways can be found to emphasize the audio in the method.[6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ให้ทฤษฎีเน้นฟังพูดอ่านเขียนใบสั่งฟังเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาประสิทธิภาพในการพูด และเพื่อให้ ได้รับการเน้นเฉพาะ แข็งแกร่งอาร์กิวเมนต์ สรีรวิทยา และ จิตวิทยา combiming ปฏิบัติ ด้วยการฝึกอบรมในการทำความเข้าใจฟังพูดได้การพูดมีประสิทธิภาพผ่านการฟัง โดยการฟังเสียง วิคิวลาร์ถูกต้องมากขึ้น พร้อมสร้างความแตกต่างของเสียง สะท้อน และ internalization ภาพหูเสียงเหมาะสม พัฒนาความรู้สึกภาษาใหม่กำไรดอกเบี้ยสำหรับภาษาได้มีการศึกษาจริงไม่มาก หรือควรดำเนินการทดลองเพื่อกำหนดเวลาระหว่างฟังประสบการณ์ และการฝึกพูดความเข้าใจที่ฟังมากที่สุดที่ไม่มีกิจกรรมในการเรียนรู้ภาษา มันโดยทั่วไปถือว่า เป็นเบ็ดเตล็ดพูดแทนที่ จะ เป็นพื้นฐานสำหรับการ ข้อความ คำแนะนำ และการเรียนการสอนประกอบด้วยการทดสอบการประเมินความคืบหน้าในการทำความเข้าใจฟัง แต่ไม่ค่อยประกอบด้วยอุปกรณ์การเรียนสำหรับการพัฒนาระบบของทักษะนี้นี่คือวัสดุบางอย่างที่สามารถดัดแปลงเพื่อปรับปรุงความเข้าใจฟัง:ควรนำเสนอบทสนทนาที่เป็นเรื่องราว ภาษาต่างประเทศ การใช้ภาษาที่เรียบง่ายควรจะอธิบายความหมายของคำใหม่และนิพจน์ที่จะปรากฏในกล่องโต้ตอบโดยใช้รูปแบบลายเส้น visual พื้นฐาน คำเหมือน ฯลฯ ความคิดเป็นการ สอนเนื้อหาในเรื่องบทบาทต่าง ๆ สามารถใช้กล่องโต้ตอบการนำเสนอโดยไม่หยุด สามารถไปผ่านบทสนทนาที่ฟังเสียงการสนทนาทั้งหมดที่ความเร็วปกติจริง และเท็จสามารถปรับปรุงความเข้าใจบทสนทนาทั้งหมดได้ repeatef ที่ความเร็วปกติอัตรา นักเรียนสามารถปิดตาของเขาเพื่อกำจัดการรบกวน และเพิ่มความเข้มข้นของเขาฟังสามารถได้รับการทดสอบความเข้าใจฟังจะได้รับฟังทำความเข้าใจฝึกการใช้ประเด็นจากหลักสูตรอื่น ๆ ของศึกษาหรือสื่อบันทึกที่ประกอบด้วยทั้งภาษาที่ได้เรียนรู้ก่อนหน้านี้ โดยนักเรียน การฝึกพูดจะเริ่มหลังจากการฟังทำความเข้าใจ นักเรียนจะพร้อมที่จะพูดในขณะนี้ ฝึกพูดสามารถดำเนินตามลำดับ1.รูปแบบแบบฝึกหัดสามารถยึดตามวัสดุที่นำมาจากกล่องโต้ตอบ2. mimicking เองเจรจาเองได้3.ประสิทธิภาพของบทสนทนา หน้าชั้นเรียน และ ที่นั่งกับ tudents เปลี่ยนบทบาทและพันธมิตรครั้ง4.พูดคุยได้ adaptatedสะท้อนของเทคนิคที่แนะนำแสดงวิธีการที่จะช่วยให้นักเรียนท่องจำส่วนใหญ่ในแต่ละครั้ง และทำประเด็นทั้งหมดด้วยความมั่นใจมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ถ้าครูเต็มใจที่จะใช้จินตนาการ และทดลองเทคนิคใหม่ หลายวิธีสามารถพบการเน้นเสียงในวิธีการ [6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ให้ทฤษฎีที่เน้นการฟังพูดอ่านเขียนเพื่อ. ฟังเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาความสามารถในการพูดและเพื่อให้ได้รับการเน้นเฉพาะ มีข้อโต้แย้งที่แข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจสำหรับ combiming ฝึกการพูดกับการฝึกอบรมในการฟังเข้าใจ. การพูดที่มีประสิทธิภาพผ่านการฟัง โดยการได้ยินเสียงที่เปล่งออกมามีความถูกต้องมากขึ้นด้วยความแตกต่างของเสียงและความจำของ internalization ได้ยินเสียงภาพที่เหมาะสม การพัฒนาความรู้สึกสำหรับกำไรภาษาใหม่ที่น่าสนใจสำหรับภาษา. มีจริงไม่มีการศึกษามากหรือการทดลองเพื่อตรวจสอบเท่าใดเวลาที่จะต้องดำเนินการระหว่างการฟังประสบการณ์และการปฏิบัติที่พูด. เข้าใจการฟังที่ถูกทอดทิ้งมากที่สุดในการเรียนรู้ภาษา มันได้รับการปฏิบัติโดยทั่วไปเป็นที่เกี่ยวข้องกับการพูดมากกว่าที่จะเป็นรากฐานสำหรับมัน ตำราคู่มือและหลักสูตรการศึกษาที่มีการทดสอบสำหรับการประเมินความคืบหน้าในการฟังเข้าใจ แต่พวกเขาไม่ค่อยมีสื่อการเรียนรู้ที่เฉพาะเจาะจงได้รับการออกแบบสำหรับการพัฒนาระบบของสกิลนี้. นี่คือวัสดุบางอย่างที่สามารถนำไปปรับใช้ในการปรับปรุงการฟังคือบทสนทนาควรจะนำเสนอเป็นเรื่องราวในภาษาต่างประเทศที่ใช้ภาษาง่ายๆ. ความหมายของคำบางคำใหม่และการแสดงออกที่จะปรากฏในการเจรจาควรจะอธิบายผ่านท่าทางโสตทัศนูปกรณ์พ้อง ฯลฯ ความคิดที่จะสอนเนื้อหาใน เรื่อง. roleplays แตกต่างกันสามารถนำมาใช้เพื่อนำเสนอบทสนทนา. โดยไม่ต้องหยุดการสนทนาที่สามารถผ่านไปแล้วจะได้ยินว่าเสียงสนทนาทั้งหมดที่ความเร็วปกติ. กิจกรรมทรูและเท็จสามารถปรับปรุงความเข้าใจ. บทสนทนาทั้งหมดสามารถ repeatef ในอัตราปกติ ความเร็ว. นักเรียนสามารถปิดตาของเขาที่จะกำจัดการรบกวนและเพิ่มความเข้มข้นของการฟังเพลงของเขา. การทดสอบการฟังจะได้รับ. ฟังฝึกทักษะการจะได้รับโดยใช้การหารือจากหลักสูตรอื่น ๆ ของการศึกษาหรือวัสดุบันทึกที่มีมากที่สุดของภาษาที่ได้รับการเรียนรู้ก่อนหน้านี้โดยนักเรียน การปฏิบัติที่พูดจะเริ่มหลังจากที่ฟังเข้าใจ นักเรียนจะพร้อมที่จะพูดในเวลานี้ การปฏิบัติที่พูดสามารถดำเนินการต่อไปตามลำดับ. ปฏิบัติ 1.Pattern อาจขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาจากการเจรจา. 2.Mimicking สามารถฝึกการสนทนาของตัวเอง. 3.Performance ของการสนทนาในด้านหน้าของชั้นเรียนและในที่นั่งที่มี tudents เปลี่ยนบทบาท และคู่ค้าเป็นครั้งคราว. 4.Dialogue สามารถ adaptated. ท่องจำแนะนำเทคนิคการเป็นตัวแทนของวิธีการที่จะช่วยให้นักเรียนที่จะจดจำส่วนที่มีขนาดใหญ่ในเวลาและดำเนินการหารือในภาพรวมมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ในขณะเดียวกันถ้าครูมีความยินดีที่จะใช้จินตนาการและการทดลองของพวกเขาด้วยเทคนิคใหม่ ๆ หลายวิธีที่สามารถพบได้ที่จะเน้นเสียงในวิธีการที่. [6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทฤษฎีให้เน้นการฟัง พูด อ่าน เขียน คำสั่ง

ฟังเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาความสามารถในการพูด และรับเฉพาะเพื่อเน้น มีอาร์กิวเมนต์ที่แข็งแกร่งทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อ combiming ฝึกการพูดฝึกในการฟัง

พูดที่มีประสิทธิภาพผ่านการฟัง โดยได้ยินเสียงการออกเสียงที่ถูกต้องมากขึ้นด้วยการเสียงและการได้ยินเสียงสะท้อน internalization ที่เหมาะสมของภาพ การพัฒนาความรู้สึกสำหรับดอกเบี้ยเพิ่มภาษาใหม่สำหรับภาษา

มีจริงไม่มีการศึกษาหรือการทดลองเพื่อศึกษามากเท่าใดเวลาที่ควรถ่ายระหว่างประสบการณ์การฟังและการพูดการปฏิบัติ .

การฟังเพื่อความเข้าใจที่ถูกทอดทิ้งมากที่สุดในการเรียนรู้ภาษา มันเป็นโดยทั่วไปถือว่าเป็นอุบัติเหตุในการพูดมากกว่าที่จะเป็นรากฐานสำหรับมัน ข้อความ , คู่มือและหลักสูตรการศึกษาประกอบด้วยการทดสอบเพื่อประเมินความก้าวหน้าในการฟัง แต่พวกเขามักจะมีเฉพาะวัสดุการเรียนรู้ที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาระบบของทักษะนี้

นี่คือบางส่วนของวัสดุที่สามารถนำมาปรับเพื่อปรับปรุงการฟัง :
บทสนทนา ควรมีการนำเสนอเรื่องราวในภาษาต่างประเทศ ใช้ภาษาง่ายๆ
ความหมายของถ้อยคำสำนวนใหม่ซึ่งจะปรากฏอยู่ในบทสนทนา ควรอธิบายด้วยท่าทาง , โสตทัศนูปกรณ์ , คําพ้องความหมาย ฯลฯ ความคิดคือ สอนเนื้อหาในเรื่อง
roleplays ที่แตกต่างกันสามารถใช้นำเสนอบทสนทนา
โดยไม่หยุดบทสนทนาสามารถไปฟังวิธีการสนทนาทั้งหมดเสียงที่ความเร็วปกติ .
กิจกรรมจริงและเท็จสามารถปรับปรุงความเข้าใจ
บทสนทนาทั้งหมดสามารถ repeatef ที่ความเร็ว อัตราปกติ นักเรียนสามารถปิดตาของเขาเพื่อขจัดสิ่งรบกวนสมาธิและเพิ่มความเข้มข้น
การฟังของเขา .แบบทดสอบวัดความเข้าใจในการฟังจะได้รับ .
ฟังเพลงการปฏิบัติสามารถได้รับโดยใช้บทสนทนาจากหลักสูตรอื่น ๆของ

เรียนหรือบันทึกวัสดุที่ประกอบด้วยส่วนใหญ่ของ ภาษา ที่ก่อนหน้านี้ได้ถูกเรียนรู้โดยนักเรียน การฝึกการพูดจะเริ่มหลังจากที่ฟังเพื่อจับใจความ นักเรียนจะต้องพร้อมที่จะพูดในเวลานี้ฝึกการพูดสามารถดำเนินการตามลำดับ ฝึก
1.pattern สามารถขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาจากบทสนทนา
2.mimicking สามารถฝึกบทสนทนาเอง
3.performance ของการสนทนาหน้าห้องที่ที่นั่งกับ tudents เปลี่ยนแปลงบทบาทและคู่ค้าได้ตลอดเวลา 4.dialogue สามารถ adaptated
.

การสะท้อนเทคนิควิธีการแนะนำของที่จะช่วยให้นักเรียนจดจำส่วนใหญ่ในเวลาและดำเนินการสนทนาโดยรวมที่มีความมั่นใจมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ถ้าครูยินดีที่จะใช้จินตนาการและทดลองเทคนิคใหม่ หลายวิธีที่สามารถพบได้ในการเน้นเสียงใน [ 6 ]
วิธี