Science is the concerted human effo

Science is the concerted human effort to understand, or to understand better, the history of the natural world and how the natural world works, with observable physical evidence as the basis of that understanding1. It is done through observation of natural phenomena, and/or through experimentation that tries to simulate natural processes under controlled conditions. (There are, of course, more definitions of science.)

Consider some examples. An ecologist observing the territorial behaviors of bluebirds and a geologist examining the distribution of fossils in an outcrop are both scientists making observations in order to find patterns in natural phenomena. They just do it outdoors and thus entertain the general public with their behavior. An astrophysicist photographing distant galaxies and a climatologist sifting data from weather balloons similarly are also scientists making observations, but in more discrete settings.

The examples above are observational science, but there is also experimental science. A chemist observing the rates of one chemical reaction at a variety of temperatures and a nuclear physicist recording the results of bombardment of a particular kind of matter with neutrons are both scientists performing experiments to see what consistent patterns emerge. A biologist observing the reaction of a particular tissue to various stimulants is likewise experimenting to find patterns of behavior. These folks usually do their work in labs and wear impressive white lab coats, which seems to mean they make more money too.

The critical commonality is that all these people are making and recording observations of nature, or of simulations of nature, in order to learn more about how nature, in the broadest sense, works. We'll see below that one of their main goals is to show that old ideas (the ideas of scientists a century ago or perhaps just a year ago) are wrong and that, instead, new ideas may better explain nature.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิทยาศาสตร์เป็นความพยายามของมนุษย์ที่จะเข้าใจร่วมกันหรือดีกว่าที่จะเข้าใจประวัติศาสตร์ของโลกธรรมชาติและวิธีการที่โลกธรรมชาติการทำงานที่มีหลักฐานทางกายภาพที่สังเกตได้เป็นพื้นฐานของการ understanding1 ว่า จะทำผ่านการสังเกตปรากฏการณ์ธรรมชาติและ / หรือผ่านการทดลองที่พยายามที่จะจำลองกระบวนการทางธรรมชาติภายใต้สภาวะควบคุม (มีแน่นอนมากขึ้นคำจำกัดความของวิทยาศาสตร์.) พิจารณาตัวอย่างบางส่วน นิเวศวิทยาการสังเกตพฤติกรรมของดินแดน Bluebirds และนักธรณีวิทยาตรวจสอบการกระจายของฟอสซิลในโผล่ขึ้นมาเป็นนักวิทยาศาสตร์ทั้งการสังเกตเพื่อหารูปแบบในปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ พวกเขาเพียงแค่ทำมันนอกและความบันเทิงให้ประชาชนทั่วไปที่มีพฤติกรรมของพวกเขา การถ่ายภาพดาราศาสตร์กาแล็กซี่ที่ห่างไกลและ climatologist ลอดข้อมูลจากบอลลูนอากาศในทำนองเดียวกันนี้ยังมีนักวิทยาศาสตร์การสังเกต แต่ในการตั้งค่าที่ไม่ต่อเนื่องมากขึ้น. ตัวอย่างข้างต้นเป็นวิทยาศาสตร์เชิง แต่ยังมีการทดลองวิทยาศาสตร์ นักเคมีสังเกตอัตราการเกิดปฏิกิริยาทางเคมีหนึ่งในความหลากหลายของอุณหภูมิและฟิสิกส์นิวเคลียร์บันทึกผลการทิ้งระเบิดของชนิดหนึ่งของเรื่องด้วยนิวตรอนจะมีนักวิทยาศาสตร์ทั้งสองดำเนินการทดลองเพื่อดูว่ารูปแบบที่สอดคล้องกันโผล่ออกมา นักชีววิทยาการสังเกตปฏิกิริยาของเนื้อเยื่อโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการกระตุ้นต่างๆที่มีการทดลองเช่นกันเพื่อหารูปแบบของพฤติกรรม คนเหล่านี้มักจะทำผลงานของพวกเขาในห้องปฏิบัติการที่น่าประทับใจและสวมใส่เสื้อห้องแล็บสีขาวซึ่งดูเหมือนว่าจะหมายความว่าพวกเขาทำเงินได้มากเกินไป. คนธรรมดาสามัญที่สำคัญก็คือว่าคนเหล่านี้มีการทำบันทึกข้อสังเกตของธรรมชาติหรือแบบจำลองของธรรมชาติในการที่จะ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีธรรมชาติในความหมายกว้างทำงาน เราจะเห็นด้านล่างที่เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของพวกเขาคือการแสดงให้เห็นว่าความคิดเก่า (ความคิดของนักวิทยาศาสตร์ศตวรรษที่ผ่านมาหรืออาจจะเพียงแค่ปีที่ผ่านมา) มีความผิดและที่แทนความคิดใหม่ที่ดีกว่าอาจจะอธิบายธรรมชาติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิทยาศาสตร์คือให้ความพยายามของมนุษย์ที่จะเข้าใจ หรือเข้าใจ ประวัติศาสตร์ธรรมชาติของโลกและธรรมชาติของโลก ผลงานมีหลักฐานข้อมูลเป็นพื้นฐานของ understanding1 . เสร็จจากการสังเกตปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ และ / หรือ ผ่านการทดลองที่พยายามจำลองกระบวนการธรรมชาติภายใต้สภาวะควบคุม ( มี แน่นอนความหมายของวิทยาศาสตร์ )

พิจารณาบางตัวอย่าง แบบสังเกตพฤติกรรมนิเวศวิทยาน่านและนักธรณีวิทยาตรวจสอบนกสีฟ้่การกระจายของซากดึกดำบรรพ์ในหินโผล่ มีทั้งนักวิทยาศาสตร์ทำการสำรวจเพื่อหารูปแบบในปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ พวกเขาทำมันกลางแจ้ง และดังนั้นจึง สร้างความบันเทิงให้ประชาชนทั่วไปกับพฤติกรรมของพวกเขานักดาราศาสตร์ถ่ายภาพกาแลคซีไกลและไคลมาโทโลจิสต์การกลั่นกรองข้อมูลจากบอลลูนตรวจอากาศก็ยังมีนักวิทยาศาสตร์ทำการสังเกตการณ์ แต่ในการตั้งค่าเพิ่มเติมต่อเนื่อง

ตัวอย่างข้างต้นเป็นแบบวิทยาศาสตร์ แต่ยังมีการทดลองวิทยาศาสตร์นักเคมี ) อัตราของปฏิกิริยาทางเคมีที่หลากหลายของอุณหภูมิและนักฟิสิกส์นิวเคลียร์บันทึกผลของการโจมตีของเฉพาะเรื่องแบบนี้กับนิวตรอนเป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์ ทดลอง เพื่อดูว่ารูปแบบที่สอดคล้องกัน ออกมานักชีววิทยาสังเกตปฏิกิริยาของ เนื้อเยื่อโดยเฉพาะสิ่งเร้าต่าง ๆเช่นเดียวกัน ทดลองหารูปแบบของพฤติกรรม คนเหล่านี้มักจะทำงานในแล็บ และสวมเสื้อคลุมสีขาวที่น่าประทับใจ , ซึ่งดูเหมือนว่าจะหมายความว่าพวกเขาทำเงินได้มากขึ้นด้วย

commonality วิกฤตว่า คนเหล่านี้ทั้งหมดจะทำและบันทึกการสังเกตธรรมชาติ หรือของจำลองธรรมชาติเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการธรรมชาติในความรู้สึกที่กว้างใช้ได้ เราจะเห็นด้านล่างว่า หนึ่งในเป้าหมายหลักของพวกเขาคือเพื่อแสดงให้เห็นว่าเก่าความคิด ( ความคิดของนักวิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่แล้ว หรือบางทีเมื่อปีที่แล้ว ) จะผิดและที่แทนความคิดใหม่อาจจะอธิบายได้ดีกว่าธรรมชาติ