When the first Europeans began to s

When the first Europeans began to settle the North American continent, they encountered a completely new culture: the native American tribes of North America. Native Americans, who had a highly developed culture in many respects, must have been as curious about the strange European manners and customs as were the Europeans about Native Americans. As always happens when two cultures come into contact, there was a cultural exchange. Native Americans adopted some of the Europeans’ ways, and the Europeans adopted some of their ways. As a result, Native Americans have made many valuable contributions to American culture, particularly in the areas of language, art, food, and government.

First of all, native Americans left a permanent imprint on the English language. The early settlers borrowed words from several different Native American languages to name the new places and new objects that they had found in their new land. All across the country, one can find cities, towns, rivers, and states with Native American names. For example, the states of Delaware, Iowa, Illinois, and Alabama are named after Native American tribes, as are the cities of Chicago, Miami, and Spokane. In addition to place names, English has adopted many everyday words from various Native American languages. The words chipmunk, moose, raccoon, skunk, moccasin, and potato are just a few examples.

Although the vocabulary of English is the areas that shows the most Native American influence, it is not the only area of American culture that was changed by contact with Native Americans. Art is another area showing the mark of Native American contact. Wool rugs woven by women of the Navajo tribe in Arizona and New Mexico are highly valued works of art in the United States. Also, Native American jewelry made from silver and turquoise is very popular and very expensive. Especially in the western and southwestern regions of the United States, native crafts such pottery, handcrafted leather products, and beadwork can be found in many home. Indeed, native art and handicrafts have become a treasured part of American culture

In addition to language and art, agriculture is another area in which Native American had a great and lasting influence. Being skilled farmers, the Native Americans of North America taught the newcomers many things about farming techniques and crops. Every American school child has heard the story of how Native American taught the first settlers to place a dead fish in a planting hole to provide fertilizer for the growing plant. Furthermore, they taught the settlers irrigation methods and crop rotation. In addition, many of the foods we eat today were introduced to the Europeans by Native Americans. For example, potatoes, corn, chocolate, and peanuts were unknown in Europe. Now they are staples in the American diet.

Finally, it may surprise some people to learn that Americans are also indebted to one tribe for our form of government. The Iroquois, who were an extremely large tribe with many branches and sub-branches (called “nations”), had developed a highly sophisticated system of government to keep the branches of the tribe from fighting one another. Five of the nations had joined together in a confederation called “The League of the Iroquois.” Under the League, each nation was autonomous in running its own internal affairs, but the nations acted as a unit when dealing with outsiders. The League kept the Iroquois from fighting among themselves and was also valuable in diplomatic relations with other tribes. When the thirteen American colonies were considering what kind of government to establish after they won their independence form Britain, someone suggested that they use a system similar to the League of the Iroquois. Under this system, each colony or future state would be autonomous in managing its own affairs but would joining forces with the other states to deal with matters that concerned them all. This is exactly what happened. As a result, the present form of government of the United States can be traced directly back to a Na6ive American model.

In conclusion, we can easily see form these few examples the extent of native American influence on our language, our art forms, our eating habits, and our government. Modern Americans are truly indebted to Native Americans for their contributions to their culture. Hopefully, the cultural exchange will one day prove to be equally positive for them.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อชาวยุโรปแรกเริ่มชำระทวีปอเมริกาเหนือ พวกเขาพบวัฒนธรรมใหม่ทั้งหมด: ชนเผ่าอเมริกันพื้นเมืองของทวีปอเมริกาเหนือ ชนพื้นเมืองอเมริกัน ที่มีวัฒนธรรมสูงพัฒนาหลายประการ ต้องได้เป็นอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับมารยาทแปลกยุโรปและศุลกากรเป็นแหล่งชาวยุโรปเกี่ยวกับชนพื้นเมืองอเมริกัน เคยเกิดขึ้นเมื่อสองวัฒนธรรมมาติดต่อ มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ชาวอเมริกันพื้นเมืองนำมาใช้บางวิธีของชาวยุโรป และชาวยุโรปนำมาใช้วิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดัง ชนพื้นเมืองอเมริกันได้ทำการจัดสรรคุณค่าในวัฒนธรรมอเมริกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านภาษา ศิลปะ อาหาร และรัฐบาลประการแรก ชาวอเมริกันพื้นเมืองซ้าย imprint ถาวรในภาษาอังกฤษ ตั้งถิ่นฐานก่อนยืมคำจากชาวอเมริกันพื้นเมืองภาษาที่แตกต่างในการตั้งชื่อสถานใหม่และวัตถุใหม่ที่พวกเขาได้พบในดินแดนใหม่ ทั้งหมดทั่วประเทศ หนึ่งสามารถค้นหาเมือง เมือง แม่น้ำ และอเมริกากับชื่อชาวอเมริกันพื้นเมือง ตัวอย่าง รัฐเดลาแวร์ รัฐไอโอวา รัฐอิลลินอยส์ และอลาบามาตั้งชื่อหลังจากชาวอเมริกันพื้นเมืองชนเผ่า เป็นเมืองชิคาโก ไมอามี และ Spokane นอกจากชื่อสถานที่ อังกฤษได้นำคำทุกวันจำนวนมากจากภาษาอเมริกันพื้นเมืองต่าง ๆ การคำ chipmunk มู สัตว์คล้ายหมีเล็ก สกั๊งค์ moccasin และมันฝรั่งเป็นตัวอย่างเพียงไม่กี่แม้ว่าคำศัพท์ภาษาอังกฤษเป็นพื้นที่ที่แสดงอิทธิพลสุดชาวอเมริกันพื้นเมือง มันไม่ได้เฉพาะพื้นที่ของวัฒนธรรมอเมริกันที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยติดต่อกับกลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกัน ศิลปะจะแสดงเครื่องหมายของชาวอเมริกันพื้นเมืองติดต่อพื้นที่อื่น พรมขนสัตว์ทอผู้หญิงเผ่า Navajo ในอาริโซน่าและนิวเม็กซิโกมีคุณค่างานศิลปะในสหรัฐอเมริกา ยัง อเมริกันพื้นเมืองเครื่องประดับทำจากเงินและฟ้าอมเขียวเป็นที่นิยมมาก และมีราคาแพงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคตะวันตก และตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา งานฝีมือพื้นเมืองเช่นเครื่องปั้นดินเผา หนังรวม และ beadwork สามารถพบได้ในบ้านจำนวนมาก แน่นอน ศิลปะพื้นเมืองและหัตถกรรมได้กลายเป็น ส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอเมริกันคระภาษาและศิลปะ เกษตรเป็นพื้นที่อื่นที่ชนพื้นเมืองอเมริกันมีอิทธิพลที่ดี และยั่งยืน เป็นเกษตรกรผู้เชี่ยวชาญ ชาวอเมริกันพื้นเมืองทวีปอเมริกาเหนือสอน newcomers หลายสิ่งเกี่ยวกับเกษตรพืชและเทคนิค โรงเรียนเด็กอเมริกันทุกคนได้ยินเรื่องราวของการเมืองอเมริกันสอนตั้งถิ่นฐานแรกไปทำปลาตายในหลุมปลูกเพื่อเป็นปุ๋ยให้พืชเจริญเติบโต นอกจากนี้ พวกเขาสอนวิธีการชลประทานตั้งถิ่นฐานและปลูกพืชหมุนเวียน นอกจากนี้ หลายของอาหารที่เรากินปัจจุบันถูกนำไปชาวยุโรป โดยชาวอเมริกันพื้นเมือง ตัวอย่าง มันฝรั่ง ข้าวโพด รสช็อกโกแลต ถั่วลิสง และถูกรู้จักในยุโรป ตอนนี้ พวกเขามีลวดเย็บกระดาษในอาหารอเมริกันในที่สุด มันอาจแปลกใจบางคนเรียนชาวอเมริกันยังไปถึงเผ่าหนึ่งในแบบฟอร์มของเราของรัฐบาล Iroquois คนเผ่ามีขนาดใหญ่มาก มีหลายสาขาและสาขาย่อย (เรียกว่า "ประชาชาติ"), มีพัฒนาระบบมีความซับซ้อนสูงของรัฐบาลเพื่อให้สาขาของเผ่าต่อสู้กัน ห้าประเทศที่มีรวมกันเป็นสมาพันธ์ที่เรียกว่า "การลี Iroquois" ภายใต้ลี แต่ละชาติมีอิสระในการทำกิจการภายในของตนเอง แต่ชาติดำเนินเป็นหน่วยเมื่อทำงานกับบุคคลภายนอก ลีก Iroquois เก็บไว้จากการต่อสู้ระหว่างกันเอง และยังเป็นประโยชน์ในความสัมพันธ์ทางการทูตกับชนเผ่าอื่น ๆ เมื่ออาณานิคมอเมริกันทั้งสิบสามได้พิจารณาประเภทของรัฐบาลสร้างหลังจากที่พวกเขาชนะฟอร์มอิสระของสหราชอาณาจักร มีคนแนะนำที่ พวกเขาใช้ระบบคล้ายกับลี Iroquois ภายใต้ระบบนี้ แต่ละโคโลนีหรือในอนาคตรัฐจะอิสระในการจัดการกิจการของตนเอง แต่จะเข้าร่วมกองกำลังกับอเมริกาจะจัดการกับเรื่องที่เกี่ยวข้องทั้งหมด นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น ดัง รูปแบบปัจจุบันของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาสามารถติดตามโดยตรงกลับไปแบบอเมริกัน Na6iveIn conclusion, we can easily see form these few examples the extent of native American influence on our language, our art forms, our eating habits, and our government. Modern Americans are truly indebted to Native Americans for their contributions to their culture. Hopefully, the cultural exchange will one day prove to be equally positive for them.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อครั้งแรกที่ชาวยุโรปเริ่มที่จะชำระทวีปอเมริกาเหนือพวกเขาพบกับวัฒนธรรมใหม่ที่สมบูรณ์แบบ: ชนเผ่าอเมริกันพื้นเมืองของทวีปอเมริกาเหนือ ชาวพื้นเมืองอเมริกันที่มีวัฒนธรรมการพัฒนาอย่างมากในหลายประการจะต้องได้รับเป็นอยากรู้เกี่ยวกับมารยาทยุโรปที่แปลกและศุลกากรเช่นเดียวกับชาวยุโรปเกี่ยวกับชนพื้นเมืองอเมริกัน และเช่นเคยที่เกิดขึ้นเมื่อสองวัฒนธรรมที่เข้ามาติดต่อมีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ชาวอเมริกันพื้นเมืองนำมาใช้บางส่วนของวิธีการที่ชาวยุโรป 'และชาวยุโรปนำมาใช้บางส่วนของวิธีของพวกเขา เป็นผลให้ชาวอเมริกันพื้นเมืองได้ทำผลงานที่มีคุณค่าจำนวนมากเพื่อวัฒนธรรมของชาวอเมริกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ของภาษาศิลปะอาหารและรัฐบาล. แรกของทุกคนอเมริกันพื้นเมืองซ้ายประทับถาวรในภาษาอังกฤษ เข้ามาตั้งถิ่นฐานในช่วงต้นยืมคำจากภาษาที่แตกต่างกันหลายอเมริกันพื้นเมืองที่จะตั้งชื่อสถานที่ใหม่และวัตถุใหม่ที่พวกเขาได้พบในดินแดนใหม่ของพวกเขา ทั่วประเทศหนึ่งสามารถหาเมืองเมือง, แม่น้ำ, และรัฐที่มีชื่อพื้นเมืองอเมริกัน ตัวอย่างเช่นรัฐเดลาแวร์ไอโอวาอิลลินอยส์และอลาบามาได้รับการตั้งชื่อตามชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันเช่นเดียวกับเมืองชิคาโก, ไมอามี่, และโป นอกจากจะวางชื่อภาษาอังกฤษได้นำคำพูดในชีวิตประจำวันจำนวนมากจากภาษาอเมริกันพื้นเมืองต่างๆ The Chipmunk คำกวางแรคคูนเสนียดแตะและมันฝรั่งเป็นเพียงตัวอย่างไม่กี่. แม้ว่าคำศัพท์ภาษาอังกฤษเป็นพื้นที่ที่แสดงพื้นเมืองส่วนใหญ่มีอิทธิพลต่อชาวอเมริกันก็ไม่ได้เป็นพื้นที่เฉพาะของวัฒนธรรมอเมริกันที่เปลี่ยนจากการสัมผัส กับชาวอเมริกันพื้นเมือง ศิลปะเป็นพื้นที่แสดงเครื่องหมายของการติดต่ออเมริกันพื้นเมือง พรมขนสัตว์ทอโดยผู้หญิงของชนเผ่านาวาโฮในรัฐแอริโซนาและนิวเม็กซิโกมีมูลค่าสูงผลงานศิลปะในประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้เครื่องประดับอเมริกันพื้นเมืองที่ทำจากเงินและสีฟ้าครามเป็นที่นิยมมากและมีราคาแพงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกา, งานฝีมือพื้นเมืองเครื่องปั้นดินเผาดังกล่าวในแบบฉบับผลิตภัณฑ์เครื่องหนังและลูกปัดสามารถพบได้ในบ้านจำนวนมาก อันที่จริงงานศิลปะและงานหัตถกรรมพื้นเมืองได้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่รักของวัฒนธรรมอเมริกันนอกจากภาษาและศิลปะการเกษตรเป็นพื้นที่ที่ชนพื้นเมืองอเมริกันมีอิทธิพลมากและยาวนาน เป็นเกษตรกรที่มีทักษะอเมริกันพื้นเมืองของทวีปอเมริกาเหนือสอนมาใหม่หลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับเทคนิคการทำการเกษตรและพืช เด็กทุกคนในโรงเรียนอเมริกันได้เคยได้ยินเรื่องราวของวิธีการสอนพื้นเมืองอเมริกันเข้ามาตั้งถิ่นฐานครั้งแรกที่จะวางปลาตายในหลุมปลูกที่จะให้ปุ๋ยสำหรับปลูกพืช นอกจากนี้พวกเขาสอนมาตั้งถิ่นฐานชลประทานวิธีการและการปลูกพืชหมุนเวียน นอกจากนี้หลายของอาหารที่เรากินในวันนี้ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับชาวยุโรปอเมริกันพื้นเมือง ยกตัวอย่างเช่นมันฝรั่ง, ข้าวโพด, ช็อคโกแลตและถั่วลิสงเป็นที่รู้จักในยุโรป ตอนนี้พวกเขามีลวดเย็บกระดาษในอาหารอเมริกัน. ในที่สุดก็อาจจะแปลกใจบางคนที่จะเรียนรู้ว่าชาวอเมริกันนอกจากนี้ยังเป็นหนี้บุญคุณตระกูลหนึ่งสำหรับแบบฟอร์มของเราของรัฐบาล อิโรควัวส์ซึ่งเป็นชนเผ่าที่มีขนาดใหญ่มากกับหลายสาขาและสาขาย่อย (เรียกว่า "ประเทศ") ได้พัฒนาระบบที่มีความซับซ้อนสูงของรัฐบาลที่จะให้สาขาของชนเผ่าจากการต่อสู้กับอีกคนหนึ่ง ประการที่ห้าของประเทศที่เข้ามาร่วมกันในการรวมกลุ่มกันที่เรียกว่า "ลีกของอิโรควัวส์." ภายใต้ลีกแต่ละประเทศเป็นอิสระในการดำเนินกิจการภายในของตัวเอง แต่ประเทศที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยเมื่อจัดการกับบุคคลภายนอก ลีกเก็บ Iroquois จากการสู้รบในตัวเองและยังมีคุณค่าในความสัมพันธ์ทางการทูตกับชนเผ่าอื่น ๆ เมื่อสิบสามอาณานิคมอเมริกันกำลังพิจารณาสิ่งที่ชนิดของรัฐบาลที่จะสร้างหลังจากที่พวกเขาได้รับรางวัลอิสระของพวกเขารูปแบบของสหราชอาณาจักรคนบอกว่าพวกเขาใช้ระบบคล้ายกับลีกของอิโรควัวส์ ภายใต้ระบบนี้แต่ละอาณานิคมหรือรัฐในอนาคตจะเป็นอิสระในการบริหารกิจการของตัวเอง แต่จะเข้าร่วมกับกองกำลังรัฐอื่น ๆ ในการจัดการกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาทั้งหมด ตรงนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นผลให้รูปแบบปัจจุบันของรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกาสามารถตรวจสอบได้โดยตรงกลับไป Na6ive แบบอเมริกัน. โดยสรุปเราสามารถเห็นรูปแบบตัวอย่างเหล่านี้ไม่กี่ขอบเขตของการมีอิทธิพลต่อชาวอเมริกันพื้นเมืองในภาษาของเราในรูปแบบงานศิลปะของเราของเรา นิสัยการกินและรัฐบาลของเรา โมเดิร์นชาวอเมริกันเป็นหนี้อย่างแท้จริงที่จะชนพื้นเมืองอเมริกันสำหรับผลงานของพวกเขาเพื่อวัฒนธรรมของพวกเขา หวังว่าการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่วันหนึ่งจะพิสูจน์ให้เป็นบวกอย่างเท่าเทียมกันสำหรับพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อแรกที่ชาวยุโรปเริ่มตั้งถิ่นฐานทวีปอเมริกาเหนือ พวกเขาพบกับวัฒนธรรมใหม่ที่สมบูรณ์ : อเมริกันชนเผ่าพื้นเมืองของทวีปอเมริกาเหนือ ชาวอเมริกันพื้นเมืองที่ได้มีการพัฒนาวัฒนธรรมในหลายประการ คงอยากรู้เกี่ยวกับมารยาทและประเพณีแปลกยุโรปเป็นชาวยุโรปเกี่ยวกับชาวอเมริกันพื้นเมืองที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อสองวัฒนธรรมมาติดต่อ มีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ชาวอเมริกันพื้นเมืองนำบางส่วนของวิธีการของชาวยุโรปและชาวยุโรปนำบางส่วนของวิธีการของพวกเขา เป็นผลให้ชาวอเมริกันได้สร้างผลงานที่มีคุณค่ามากในวัฒนธรรมอเมริกัน โดยเฉพาะในด้านภาษา ศิลปะ อาหาร และรัฐบาล

ครั้งแรกของทั้งหมดชาวอเมริกันพื้นเมืองซ้ายประทับถาวรในภาษาอังกฤษ ตั้งถิ่นฐานก่อนคำยืมจากหลายภาษาพื้นเมืองอเมริกันคนใหม่ชื่อ สถานที่ และวัตถุใหม่ที่พวกเขาได้พบในที่ดินของตนเองใหม่ ทั่วประเทศ , หนึ่งสามารถหา เมือง เมือง แม่น้ำ และรัฐที่มีชื่อชาวอเมริกันพื้นเมือง ตัวอย่างเช่น รัฐเดลาแวร์ไอโอวา อิลลินอยส์อลาบามาและถูกตั้งชื่อตามชนเผ่าอเมริกันพื้นเมือง เป็นเมืองแห่งชิคาโก และไมอามี่ สโปกเคน นอกจากสถานที่ชื่อภาษาอังกฤษมีใช้หลายคำทุกวันจากหลายพื้นเมืองอเมริกันภาษา คำพูดที่กระแต มูส , แรคคูน , ตัวเหม็น , รองเท้า , และมันฝรั่งเป็นเพียงไม่กี่ตัวอย่าง

ถึงแม้ว่าคำศัพท์ภาษาอังกฤษเป็นส่วนที่แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของชาวอเมริกันพื้นเมืองมากที่สุดมันไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่ของวัฒนธรรมอเมริกันที่ถูกเปลี่ยน โดยการติดต่อกับชาวอเมริกันพื้นเมือง ศิลปะเป็นอีกพื้นที่ที่แสดงเครื่องหมายของการติดต่อของชาวอเมริกันพื้นเมือง พรมขนสัตว์ทอโดยหญิงของเผ่านาวาโฮใน Arizona และเม็กซิโกมีมูลค่าสูง ผลงานศิลปะในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ชาวอเมริกันพื้นเมืองที่ทำจากเงินและเครื่องประดับสีเขียวขุ่นเป็นที่นิยมมากและแพงมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา พื้นเมือง งานฝีมือ เช่น เครื่องปั้นดินเผา ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง ผลิตภัณฑ์ และ อันดับ สามารถพบได้ใน หลายบ้าน แน่นอน , ศิลปะพื้นเมืองและงานหัตถกรรมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอเมริกันนี่เอง

นอกจากศิลปะภาษาและการเกษตรเป็นอีกพื้นที่ที่ชาวอเมริกันมีที่ดีและยั่งยืนอีกด้วยเป็นเกษตรกรที่มีทักษะ ชาวอเมริกันพื้นเมืองของทวีปอเมริกาเหนือ สอนมาหลายเรื่องเกี่ยวกับเทคนิค และพืชผลการเกษตร ทุกโรงเรียนเด็กมีได้ยินเรื่องราวของชาวอเมริกันพื้นเมืองที่ได้รับการตั้งถิ่นฐานครั้งแรกที่ปลาที่ตายในหลุมปลูกให้ปุ๋ยสำหรับการปลูกพืช นอกจากนี้ พวกเขาสอนวิธีการตั้งถิ่นฐานชลประทานและการปลูกพืชหมุนเวียนนอกจากนี้ วันนี้หลายของอาหารที่เรากินจะถูกนำในยุโรป โดยชาวอเมริกันพื้นเมือง ตัวอย่างเช่น มันฝรั่ง ข้าวโพด ถั่ว ช็อกโกแลต และไม่รู้จักในยุโรป ตอนนี้พวกเขามีลวดเย็บกระดาษในอาหารอเมริกัน .

ในที่สุดมันอาจจะแปลกใจที่จะเรียนรู้ว่าคนอเมริกันยังเป็นหนี้บุญคุณ ตระกูลหนึ่งในรูปแบบของรัฐบาล ( NY ) ,ซึ่งเป็นตระกูลที่ใหญ่มาก มีหลายสาขา และสาขาย่อย ( เรียกว่า " ประเทศ " ) ได้พัฒนาระบบที่มีความซับซ้อนสูงของรัฐบาลเพื่อให้สาขาของเผ่าที่ต่อสู้กัน ห้าของประเทศที่ได้เข้าร่วมกันในสมาพันธ์ ที่เรียกว่า " ลีกของ Iroquois " ภายใต้ลีก แต่ละชาติ มีอิสระในการวิ่ง กิจการภายในของตนเอง