Emergent and submergent plants shou

Emergent and submergent plants should be planted into pots. A wide assortment of pots is available, from plastic baskets to pulp planters. Choose pots that are large enough for your plants.

If using baskets with numerous perforations, line the basket with burlap or 2 layers of newspaper to keep the soil from falling out of the holes.

Fill the container about half full with a mixture of good garden topsoil. Do not use potting mixes or peat moss. These are too light and will float out of the pot. Adding aquatic plant fertilizer to this bottom layer of soil is recommended for some species. Follow directions on the label for amount.

Place the plant on top of the soil and fill the container with topsoil within one inch of the top. When planting water lily rhizomes, make a mound of soil in the middle of the pot. Place the rhizome at a 45-degree angle. The crown of the rhizome should be toward the center of the pot. Cover the roots with soil, but not the crown.

In all cases, add a layer of gravel to the top of the pot. This will help keep the soil from floating out and prevent fish from digging in the soil. Slowly place the pots in the pool to keep soil from floating out. Place pots on bricks to get the desired height. Floating species can be placed directly into the pond with no other care needed.

Plants should cover 50 to 70 percent of the water surface. Native plants usually do not need fertilizer. For some exotic water lilies, limited fertilizing once yearly may be required. Check with your nursery on care of plants and how deep to place potted plants. Be aware that over fertilizing may cause unwanted algae blooms, which can rob the water of oxygen. Add fish and scavengers.

Consider stocking your backyard pond with native fish. They are fun to watch and help keep the pond free of unwanted insects. Most small ponds will warm up quickly in the summer, so make sure you stock with fish that can tolerate elevated temperatures.

You'll also need scavengers, such as aquatic snails and tadpoles, to help control algae. In cold climates, a heater may be necessary for fish to survive the winter. However, this uses a significant amount of electricity and, in most cases, probably is not justified. A better option may be to set up an indoor aquarium in which to over winter fish and plants.

Maintenance

An alga is a common problem in many newly established ponds. The water often becomes an unsightly green after a few days. While your first instinct is to drain the pond and start over, this only prolongs the problem. Once a pond is "balanced," algae usually are kept at an acceptable level. A balanced pond is one in which the nutrients are at the appropriate level for the plants present. Excess nutrients and light are needed for algae. Reducing the nutrients and decreasing the amount of light entering the water will help reduce algae. Floating plants or those with broad leaves such as water lilies will help reduce the amount of light available for algae and compete for available nutrients. Scavengers such as snails will help clean up wastes from the bottom of the pond.

Ponds filters can help reduce algae, but require maintenance. Filters need to be cleaned frequently if an alga is a problem. Chemicals can also be used to control algae. Use cautiously as they can be toxic to other plants and aquatic life. The need for algaecides should decrease as plants become established.

Excessive plant growth, especially of free-floating plants, may be a problem. Periodically skim off excess growth of duckweed, water lettuce, and other floating plants. Monthly, prune dying plant material. Clean out some of the decaying plant material that has accumulated in the bottom of the pond in the spring. Remember: a natural pond is not a swimming pool and too much cleaning can do more harm than good.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โผล่ออกมา และ submergent พืชควรปลูกในกระถาง ของกระถางได้ จากตะกร้าพลาสติกเยื่อกระดาษแพลนเตอร์ เลือกกระถางที่มีขนาดใหญ่พอสำหรับพืชของคุณหากใช้ตะกร้า perforations จำนวนมาก บรรทัดตะกร้ากับพื้นที่ชั้น 2 ของหนังสือพิมพ์เพื่อป้องกันไม่ให้ดินล้มออกจากหลุมใส่ภาชนะประมาณครึ่งหนึ่งเต็ม ด้วย topsoil ดีสวน ใช้ออกแบบผสมผสานหรือพรุตะไคร่ potting เหล่านี้จะสว่างเกินไป และจะลอยออกจากหม้อ เพิ่มปุ๋ยพืชน้ำนี้ชั้นล่างของดินแนะนำสำหรับบางชนิด ทำตามคำแนะนำบนฉลากสำหรับยอดเงินวางพืชบนดิน และเติมภาชนะ topsoil ในหนึ่งนิ้วในด้าน เมื่อปลูกเหง้าอุบล ทำ mound ของดินกลางหม้อ เหง้าที่เป็นมุม 45 องศา มงกุฎ เหง้าควรจะไปทางกลางหม้อ ครอบคลุมรากกับดิน แต่ไม่มงกุฎในทุกกรณี เพิ่มชั้นของกรวดที่ด้านบนของหม้อ นี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ดินน้ำออก และป้องกันไม่ให้ปลาขุดในดิน ช้าวางหม้อน้ำเพื่อป้องกันดินไม่ให้ลอยออก วางหม้อบนอิฐจะต้องสูง น้ำชนิดสามารถถูกวางลงในบ่อโดยตรงกับไม่ดูแลอื่น ๆ ที่จำเป็น พืชควรครอบคลุมร้อยละ 50 ถึง 70 ของผิวน้ำ พืชพื้นเมืองมักจะไม่ได้ปุ๋ย สำหรับบางแปลกน้ำลิลลี่ fertilizing จำกัดเมื่อปีอาจจะต้อง ตรวจสอบกับเรือนเพาะชำการดูแลพืช และลึกการวางต้นไม้ โปรดทราบว่า ผ่าน fertilizing อาจทำให้สาหร่ายที่ไม่พึงประสงค์บลูมส์ ซึ่งสามารถปล้นน้ำออกซิเจน เพิ่มปลาและ scavengersพิจารณาสร้างบ่อบ้านของปลาพื้นเมือง พวกเขามีความสนุกสนานในการชม และช่วยให้บ่อฟรีของแมลงที่ไม่พึงประสงค์ บ่อขนาดเล็กส่วนใหญ่จะอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็วในฤดูร้อน เพื่อ ให้แน่ใจว่า ซื้อปลาที่สามารถทนอุณหภูมินอกจากนี้คุณยังจะต้อง scavengers หอยน้ำและ tadpoles ช่วยควบคุมสาหร่าย ในสภาพอากาศที่เย็น ฮีตเตอร์ที่อาจจำเป็นสำหรับปลาเพื่อความอยู่รอดในฤดูหนาว อย่างไรก็ตาม นี้ใช้จำนวนเงินสำคัญของไฟฟ้า ก ใหญ่ อาจจะไม่ชิดขอบ ตัวเลือกที่ดีอาจจะตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำภายในจะหนาวปลาและพืชบำรุงรักษาAlga เป็นปัญหาทั่วไปในบ่อใหม่ขึ้นมากมาย น้ำกลายเป็น สีเขียวไม่น่าดูมักจะหลังจากไม่กี่วัน ในขณะที่สัญชาตญาณแรกของคุณคือการ ระบายน้ำบ่อ และเริ่มต้น นี้เฉพาะยืดปัญหา เมื่อบ่อถูก "สมดุล สาหร่ายมักจะอยู่ในระดับยอมรับ บ่อสมดุลเป็นหนึ่งในสารอาหารอยู่ในระดับที่เหมาะสมสำหรับพืชอยู่ สารอาหารส่วนเกินและแสงมีความจำเป็นสำหรับสาหร่าย สารอาหารลดลง และลดจำนวนแสงที่ป้อนน้ำจะช่วยลดสาหร่าย ลอยพืชหรือผู้ที่ มีใบกว้างเช่นลิลลี่น้ำจะช่วยลดปริมาณของแสงสำหรับสาหร่าย และแย่งสารอาหารว่าง Scavengers เช่นหอยจะช่วยล้างขยะจากด้านล่างของบ่อกรองบ่อสามารถช่วยลดสาหร่าย แต่ต้องการการบำรุงรักษาได้ ตัวกรองต้องทำความสะอาดให้บ่อยถ้า alga มี ปัญหา นอกจากนี้ยังสามารถใช้สารเคมีควบคุมสาหร่าย ใช้เดินเท่าที่จะเป็นพิษกับพืชและสัตว์น้ำอื่น ๆ ต้อง algaecides ควรลดเป็นพืชกลายเป็นก่อตั้งขึ้นเจริญเติบโตพืชมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งของพืช free-floating อาจเกิดปัญหา เป็นระยะ ๆ อ่านอย่างคร่าว ๆ ออกเจริญเติบโตส่วนเกินของ duckweed ดอกจอก และพืชน้ำอื่น ๆ รายเดือน บ๊วยตาย วัสดุโรงงาน ล้างบางวัสดุ decaying พืชที่มีสะสมในด้านล่างของบ่อในฤดูใบไม้ผลิ จำ: บ่อน้ำธรรมชาติไม่มีสระว่ายน้ำ และทำความสะอาดมากเกินไปสามารถทำอันตรายมากกว่าดีกว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พืชใต้น้ำฉุกเฉินและควรปลูกในกระถาง หลากหลายของหม้อสามารถใช้ได้จากตะกร้าพลาสติกเครื่องปลูกอ้อย เลือกกระถางที่มีขนาดใหญ่พอสำหรับพืชของคุณถ้าใช้ตะกร้าที่มีรูหลายสายตะกร้าผ้าใบหรือ 2 ชั้นของหนังสือพิมพ์เพื่อให้ดินจากการล้มออกจากหลุมกรอกภาชนะประมาณครึ่งหนึ่งเต็มรูปแบบที่มีส่วนผสมของสวนที่ดี ดิน อย่าใช้ผสมปลูกหรือพีทมอส เหล่านี้มีน้ำหนักเบาเกินไปและจะลอยออกมาจากหม้อ การเพิ่มปุ๋ยพืชน้ำที่ชั้นล่างของดินเหมาะสำหรับบางชนิด ทำตามคำแนะนำบนฉลากสำหรับจำนวนเงินที่วางพืชบนดินและกรอกภาชนะที่มีดินภายในหนึ่งนิ้วด้านบน เมื่อปลูกเหง้าดอกลิลลี่น้ำทำให้เนินดินที่อยู่ตรงกลางของหม้อ วางเหง้าที่มุม 45 องศา มงกุฎของเหง้าควรจะเข้าหาศูนย์กลางของหม้อ ครอบคลุมรากกับพื้นดิน แต่ไม่มงกุฎในทุกกรณีเพิ่มชั้นของกรวดไปด้านบนของหม้อ นี้จะช่วยให้ดินจากลอยออกและป้องกันไม่ให้ปลาจากการขุดในดิน ค่อยๆวางกระถางในสระว่ายน้ำเพื่อให้ดินที่ลอยออกมา กระถางวางบนอิฐเพื่อให้ได้ความสูงที่ต้องการ ชนิดลอยสามารถวางโดยตรงลงไปในสระกับการดูแลไม่ต้องอื่น ๆพืชควรจะครอบคลุม 50-70 เปอร์เซ็นต์ของพื้นผิวของน้ำ พืชพื้นเมืองมักจะไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ย สำหรับบางน้ำดอกบัวที่แปลกใหม่, การใส่ปุ๋ย จำกัด เมื่อปีอาจจะต้อง ตรวจสอบกับสถานรับเลี้ยงเด็กของคุณเกี่ยวกับการดูแลของพืชและวิธีการที่ลึกที่จะวางไม้กระถาง ทราบว่าในช่วงการใส่ปุ๋ยอาจทำให้เกิดบุปผาสาหร่ายที่ไม่พึงประสงค์ซึ่งสามารถปล้นน้ำของออกซิเจน เพิ่มปลาและขยะพิจารณาปล่อยบ่อสนามหลังบ้านของคุณด้วยปลาพื้นเมือง พวกเขาจะสนุกในการชมและช่วยให้บ่อฟรีของแมลงที่ไม่พึงประสงค์ บ่อขนาดเล็กส่วนใหญ่จะอบอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงฤดูร้อนเพื่อให้แน่ใจว่าคุณสต็อกที่มีปลาที่สามารถทนต่ออุณหภูมิที่สูงขึ้นนอกจากนี้คุณยังจะต้องแตกตื่นเช่นหอยทากน้ำและลูกอ๊อดที่จะช่วยให้การควบคุมสาหร่าย ในสภาพอากาศเย็น, เครื่องทำความร้อนอาจจะเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับปลาเพื่อความอยู่รอดในฤดูหนาว แต่นี้จะใช้เป็นจำนวนมากของกระแสไฟฟ้าและในกรณีส่วนใหญ่อาจจะไม่เป็นธรรม ตัวเลือกที่ดีอาจจะมีการตั้งค่าการพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในร่มในการที่จะฝูงปลาในฤดูหนาวและพืชบำรุงรักษาสาหร่ายเป็นปัญหาที่พบบ่อยในหลายบ่อที่จัดตั้งขึ้นใหม่ น้ำมักจะกลายเป็นสีเขียวน่าเกลียดหลังจากไม่กี่วัน ในขณะที่สัญชาตญาณแรกของคุณคือการระบายน้ำออกจากบ่อและเริ่มต้นนี้เพียงยืดปัญหา เมื่อบ่อคือ "สมดุล" สาหร่ายมักจะถูกเก็บไว้ในระดับที่ยอมรับ บ่อสมดุลซึ่งเป็นหนึ่งในสารอาหารที่อยู่ในระดับที่เหมาะสมสำหรับพืชปัจจุบัน สารอาหารและไฟเกินกว่าที่จำเป็นสำหรับสาหร่าย ลดสารอาหารและลดปริมาณแสงลงสู่แหล่งน้ำจะช่วยลดสาหร่าย พืชหรือผู้ที่มีใบกว้างเช่นดอกบัวลอยน้ำจะช่วยลดปริมาณของแสงสำหรับสาหร่ายและแข่งขันกันเพื่อให้สารอาหารที่มีอยู่ ขยะเช่นหอยทากจะช่วยทำความสะอาดของเสียจากด้านล่างของบ่อกรองสระน้ำสามารถช่วยลดสาหร่าย แต่ต้องการการบำรุงรักษา ตัวกรองจะต้องมีการทำความสะอาดบ่อยครั้งถ้าสาหร่ายเป็นปัญหา สารเคมีนอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการควบคุมสาหร่าย ใช้ความระมัดระวังขณะที่พวกเขาสามารถเป็นพิษกับพืชอื่น ๆ และสัตว์น้ำ จำเป็นที่จะต้อง algaecides จะลดลงเป็นพืชกลายเป็นที่ยอมรับเจริญเติบโตของพืชมากเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งของพืชฟรีลอยอาจจะมีปัญหา ระยะหางออกเติบโตเกินแหนผักกาดหอมน้ำและพืชลอยน้ำอื่น ๆ รายเดือน, ลูกพรุนตายวัสดุปลูก ทำความสะอาดออกบางส่วนของวัสดุปลูกเนื้อที่ที่มีการสะสมในด้านล่างของบ่อในฤดูใบไม้ผลิ โปรดจำไว้ว่าบ่อธรรมชาติไม่ได้สระว่ายน้ำและการทำความสะอาดมากเกินไปสามารถทำอันตรายมากกว่าดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พืชเร่งด่วนและ submergent ควรปลูกลงกระถาง การแบ่งประเภทกว้างของหม้อ พร้อมตะกร้าพลาสติกเพื่อผลิตจากเกษตรกรชาวสวน เลือกกระถางที่มีขนาดใหญ่พอสำหรับพืชของคุณ .

ถ้าใช้ตะกร้าด้วยปรุหลายสายตะกร้าผ้าใบหรือ 2 ชั้นของหนังสือพิมพ์ไปเก็บดินจากการล้มออกจากหลุม .

เติมภาชนะประมาณครึ่งหนึ่งที่มีส่วนผสมที่ดีสวนด้านบนของพื้น ไม่ใช้ potting ผสมหรือ peat moss เหล่านี้จะเบาเกินไปและจะลอยออกมาจากหม้อ การเพิ่มปุ๋ยไม้น้ำด้านล่างของดินชั้นนี้เป็นที่แนะนำสำหรับบางชนิด ทำตามคำแนะนำบนฉลากปริมาณ

สถานที่ที่ปลูกบนดินและถมดินในภาชนะที่มีหนึ่งนิ้วจากด้านบน เมื่อปลูกเหง้า ดอกบัว ให้เนินดินกลางหม้อ สถานที่เหง้าที่มุม 45 องศา มงกุฎของเหง้า ควรต่อศูนย์กลางของหม้อ คลุมรากด้วยดิน แต่ไม่ใช่มงกุฎ

ในทุกกรณี เพิ่มชั้นของกรวดที่จะด้านบนของหม้อนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ดินลอยออกมา และป้องกันปลาจากขุดดิน ค่อยๆ วางกระถางในสระว่ายน้ำเพื่อให้ดินที่ลอยออกมา วางหม้อบนอิฐให้สูงที่ต้องการ ชนิดลอยสามารถวางโดยตรงลงในบ่ออื่นไม่มีการดูแลที่จำเป็น

พืชควรครอบคลุม 50 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของน้ำผิวดิน พืชพื้นเมือง มักจะไม่ต้องใส่ปุ๋ยบางน้ำดอกบัวที่แปลกใหม่ , จำกัด การเมื่อปีอาจต้อง ตรวจสอบกับสถานรับเลี้ยงเด็กของคุณในการดูแลของพืชและลึกวิธีการวางไม้กระถาง โปรดทราบว่าการใส่ปุ๋ยที่ไม่พึงประสงค์มากกว่าอาจทำให้เกิดสาหร่ายเบ่งบาน ซึ่งสามารถปล้นน้ำออกซิเจน เพิ่มปลาและจับ

พิจารณาจัดเก็บบ่อหลังบ้านของคุณกับปลาพื้นเมือง .พวกเขาจะสนุกที่จะดู และช่วยให้บ่อฟรีของแมลงที่ไม่พึงประสงค์ บ่อขนาดเล็กส่วนใหญ่จะอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงฤดูร้อนเพื่อให้แน่ใจว่าคุณหุ้นกับปลาที่สามารถทนต่ออุณหภูมิสูง .

คุณจะต้องจับ เช่น หอยทากน้ำ และลูกอ๊อด ให้สาหร่ายการควบคุม ในสภาพอากาศเย็น , เครื่องทำน้ำอุ่น อาจเป็นปลาที่จะอยู่รอดในฤดูหนาว อย่างไรก็ตามนี้จะใช้ปริมาณไฟฟ้าและในกรณีส่วนใหญ่อาจจะไม่ชอบธรรม ตัวเลือกที่ดีอาจจะตั้งค่าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในร่มซึ่งจะผ่านฤดูหนาวปลาและพืช



เป็นสาหร่ายรักษาเป็นปัญหาทั่วไปมาก เพิ่งสร้างบ่อ น้ำมักจะกลายเป็นสีเขียวน่าดู หลังจากไม่กี่วัน ในขณะที่สัญชาตญาณแรกของคุณคือการระบายน้ำออกจากบ่อและเริ่มต้นใหม่นี้เท่านั้นยืดปัญหา เมื่อบ่อคือ " สมดุล " สาหร่ายมักจะอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ บ่อสมดุลเป็นหนึ่งในสารอาหารอยู่ในระดับที่เหมาะสมสำหรับพืชในปัจจุบัน สารอาหารส่วนเกินและแสงที่จำเป็นสำหรับสาหร่าย การลดปริมาณสารอาหารและลดปริมาณของแสงที่ป้อนน้ำจะช่วยลดการเกิดสาหร่ายพืชลอยน้ำหรือผู้ที่มีใบกว้าง เช่น ดอกบัว จะช่วยลดปริมาณแสงของสาหร่าย และการแข่งขันสำหรับสารอาหารที่สามารถใช้ได้ จับ เช่น หอยทากจะช่วยล้างของเสียจากด้านล่างของบ่อ บ่อตัวกรองสามารถช่วยลด

สาหร่าย แต่ต้องมีการบำรุงรักษา ตัวกรองที่จะต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ ถ้าเป็นสาหร่ายที่เป็นปัญหาสารเคมีที่สามารถใช้ควบคุมสาหร่าย ใช้ความระมัดระวังเท่าที่พวกเขาสามารถเป็นพิษต่อพืชอื่น ๆและชีวิตสัตว์น้ำ ต้องการ algaecides ควรจะลดลงเป็นพืชกลายเป็นก่อตั้งขึ้น

มากเกินไปการเจริญเติบโตของพืช โดยเฉพาะพืชฟรีลอย , อาจเป็นปัญหา ระยะหางจากการเจริญเติบโตของแหนน้ำส่วนเกิน , ผักและพืชอื่น ๆลอย รายเดือน , ตัดตายวัสดุพืชล้างออกบางส่วนของวัสดุพืชที่เน่าเปื่อยได้สะสมในก้นบ่อ ในฤดูใบไม้ผลิ จำ : บ่อธรรมชาติไม่ใช่สระว่ายน้ำมากเกินไปและทำความสะอาดสามารถทำอันตรายมากกว่าดี