Even though the city lost the posit

Even though the city lost the position of pre-eminence it had enjoyed during the Uruk Period, it continued to play an important position down through the Ur III Period (2047-1750 BCE). The Third Dynasty of Ur governed in such a way as to give birth to a Sumerian Renaissance and Uruk benefited from this as much as the rest of the region. With the fall of the city of Ur in 1750 BCE and the invasion of Sumer by Elamites, along with the incursions of the Amorites, Uruk went into decline along with the rest of Sumer. The city continued to play a significant role, however, throughout the Seleucid and Parthian periods of Sumer’s late history. This is a substantial point to note in that many other Sumerian cities fared far less well at this same time. The sacred districts continued to be maintained, though to lesser degrees, into the 7th century CE; long past the time when many other Mesopotamian cities had been abandoned. The historian Bertman writes, “Uruk had a life-span of 5,000 years. Its oldest layers lie virtually unexplored, submerged deep in the mud of the alluvial plain from which its life once sprouted” (37. Perhaps buried in the ancient ruins is the answer to why the first city in the world rose as it did, where it did, and remained so important to the people of Mesopotamia for so long. Unlike other cities throughout the region, it was not abandoned until the Muslim Conquest of Mesopotamia in 630 CE.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แม้ว่าเมืองสูญเสียตำแหน่งของเนินก่อนที่จะมีความสุขช่วง Uruk มันยังคงเล่นตำแหน่งสำคัญ ๆ ขององค์กรลงโดยระยะเวลา III (2047-1750 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ราชวงศ์ที่สามของคุณ governed ด้วยวิธีเพื่อให้เกิดโรงแรมเรอเนสซองซ์ซูเมอร์และ Uruk รับประโยชน์จากการนี้รวมถึงส่วนเหลือของภูมิภาค ด้วยการล่มสลายของเมืองของคุณใน 1750 ปีก่อนคริสต์ศักราชและการบุกรุกของชาวซูเมอร์โดย Elamites พร้อมกับการรุกรานของคนอาโมไรต์ Uruk ไปเป็นลดลงส่วนที่เหลือของชาวซูเมอร์ เมืองที่ยังคงเล่นบทบาทสำคัญ แต่ ตลอดรอบ Seleucid และพาร์เทียนของชาวซูเมอร์สายประวัติศาสตร์ นี่คือจุดที่พบการบันทึกที่เมืองซูเมอร์หลายอื่น ๆ fared ดีไกลน้อยพร้อมกันนี้ เขตศักดิ์สิทธิ์ยังคงต้องรักษา แต่องศาน้อยกว่า ในศตวรรษ 7 CE ยาวนานที่ผ่านมาเวลาเมื่อมีการละทิ้งเมือง Mesopotamian อื่น ๆ มากขึ้น นักประวัติศาสตร์เขียน Bertman, "Uruk มีช่วงชีวิตของ 5000 ปี ชั้นของเก่าอยู่แทบ unexplored จมอยู่ใต้น้ำลึกลงไปในโคลนของราบต่ำซึ่งชีวิตหนึ่งครั้งแทน" (37 อาจฝังอยู่ในซากปรักหักพังโบราณได้คำตอบว่าทำไมเมืองแรกในโลกกุหลาบ ตาม ที่มันไม่ได้ และยังคงให้ความสำคัญกับชาว Mesopotamia สำหรับนาน ซึ่งแตกต่างจากเมืองอื่น ๆ ทั่วภูมิภาค มันไม่ถูกระงับชั่วคราวจนกว่าการมุสลิมชนะของ Mesopotamia ใน 630 CE

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แม้ว่าเมืองสูญเสียตำแหน่งก่อนโดดเด่นก็มีความสุขในช่วงระยะเวลาที่อูรุกก็ยังคงเล่นตำแหน่งที่สำคัญลงไปถึงนายที่สามระยะเวลา (2047-1750 คริสตศักราช) ราชวงศ์ที่สามของนายปกครองในลักษณะที่เป็นไปได้ให้กำเนิดเรเนสซองซูอูรุกและรับประโยชน์จากการนี​​้มากที่สุดเท่าที่เป็นส่วนที่เหลือของภูมิภาค ด้วยการล่มสลายของเมือง Ur ในคริสตศักราช 1750 และการรุกรานของสุเมเรียนโดยลามพร้อมกับการรุกรานของอาโมไรต์ที่อูรุกลงไปพร้อมกับส่วนที่เหลือของสุเมเรียน เมืองที่ยังคงมีบทบาทสำคัญ แต่ตลอดระยะเวลา Seleucid และคู่ปรับของประวัติศาสตร์ช่วงปลายของสุเมเรียน นี้เป็นจุดสำคัญที่จะต้องทราบว่าในหลาย ๆ เมืองซูอื่น ๆ ที่มีอาการน้อยกว่ากันในเวลาเดียวกัน เขตศักดิ์สิทธิ์ยังคงได้รับการรักษา แต่องศาน้อยลงไปในศตวรรษที่ 7 CE; ยาวที่ผ่านมาช่วงเวลาที่หลาย ๆ เมืองเมโสโปเตอื่น ๆ ที่ได้รับการถูกทอดทิ้ง ประวัติศาสตร์เขียน Bertman "อูรุกมีช่วงชีวิต 5,000 ปี ชั้นที่เก่าแก่ที่สุดของมันอยู่ที่ยังมิได้สำรวจแทบจมอยู่ใต้น้ำลึกลงไปในโคลนของที่ราบลุ่มน้ำจากการที่ชีวิตของมันงอกครั้ง "(37 บางทีฝังอยู่ในซากปรักหักพังโบราณคือคำตอบว่าทำไมเมืองแรกในโลกที่เพิ่มขึ้นขณะที่มันทำมันอยู่ที่ไหน ไม่และยังคงให้ความสำคัญต่อคนของโสโปเตเมียเป็นเวลานาน. ซึ่งแตกต่างจากเมืองอื่น ๆ ทั่วทั้งภูมิภาคมันก็ไม่ได้ถูกทิ้งร้างจนมุสลิมพิชิตโสโปเตเมียใน 630 CE

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แม้ว่าเมืองที่สูญเสียตำแหน่ง ก่อนไปมันมีความสุขในช่วง Uruk , มันยังคงเล่นตำแหน่งที่สำคัญ ลงผ่านระยะ III ครับ ( 2047-1750 BCE ) ราชวงศ์ที่สามของ ur บังคับในลักษณะให้กำเนิดชีวิตใหม่ Sumerian Uruk และประโยชน์จากมันเท่าที่ส่วนที่เหลือของภูมิภาคกับการล่มสลายของเมือง ur ใน 1750 ECB และการรุกรานของชาวสุเมเรียนโดยเอลาม พร้อมกับการรุกรานของคนอาโมไรต์ รุกเข้าไปปฏิเสธพร้อมกับส่วนที่เหลือของชาวสุเมเรียน . เมืองยังคงมีบทบาทสําคัญ อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงฤดูร้อนและเซลูซิดคู่ปรับของประวัติศาสตร์แล้วนี้เป็นจุดสำคัญที่จะทราบว่าเมือง Sumerian หลายอื่น ๆอาการน้อยกว่าที่เวลาเดียวกันนี้ เขตศักดิ์สิทธิ์ที่ยังคงได้รับการรักษา แม้ว่าจะน้อยกว่าองศาในศตวรรษที่ CE ยาวที่ผ่านมาเวลาเมื่ออื่น ๆอีกมากมายเมโสโปเตเมียเมืองถูกทิ้ง . นักประวัติศาสตร์ bertman เขียน " รุก มีชีวิตของ 5000 ปี ที่เก่าแก่ที่สุดของชั้นโกหกแทบ unexploredจมลึกลงไปในโคลนของทรายธรรมดาที่ชีวิตเคยแต่งเรื่อง " ( 37 บางทีอาจจะฝังอยู่ในซากปรักหักพังโบราณจะตอบทำไม เมืองแรกในโลก เป็นดอกกุหลาบมันทำ ที่มันทำ และยังคงให้ความสําคัญกับประชาชนของเมโสโปเตเมียนาน ซึ่งแตกต่างจากเมืองอื่น ๆทั่วภูมิภาค ไม่ทิ้งจนกว่าชัยชนะของชาวมุสลิมในเมโสโปเตเมียใน 630 CE