a b s t r a c tPurpose: The purpose

a b s t r a c t
Purpose: The purpose of this article is to highlight some new findings from a qualitative study that havenot been previously considered.
Method: The research was based on a qualitative phenomenological method. Data were collected by semi-structured individual interviews. A purposeful sample was recruited from West Norway of 14 women with a possible risk of developing breast and ovarian cancer. Data collection took place at least one year after prophylactic removal of the ovaries. Data from the study was analyzed according to the
phenomenological method of Amedeo Giorgi.
Key findings: Two themes were revealed as essential factors of the interviewed women’s experiences: “the loss of a mother” and “dealing with genetic cancer risk.” For the most part, these two themes also appeared to be interrelated. When a mother died of ovarian cancer while her daughter was a child or a young woman, this often led to her daughter’s strong desire to find an explanation for her mother’s death, as well as to her efforts to undergo genetic testing and surgery to prevent cancer in her family inthe future.
Conclusion: The study indicates that women’s experiences in families at risk of hereditary cancer are closely related to an understanding of their life stories, particularly their “loss of a mother,” and how this influences how they deal with genetic cancer risk. Health care workers can thus help patients identify
connections and establish coherence through the act of storytelling, by listening to their illness experiences as part of their life stories.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แบบ b s t r c tวัตถุประสงค์: วัตถุประสงค์ของบทความนี้จะเน้นการค้นพบใหม่จากการศึกษาเชิงคุณภาพที่ havenot ก่อนหน้านี้ถือวิธีการ: การวิจัยเป็นไปตามวิธี phenomenological เชิงคุณภาพ ได้รวบรวมข้อมูล โดยการสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างแต่ละ ตัวอย่าง purposeful ถูกพิจารณาจากนอร์เวย์ตะวันตก 14 ผู้หญิงมีความเสี่ยงเป็นไปได้ของการพัฒนาเต้านมและมะเร็งรังไข่ รวบรวมข้อมูลเอาสถานที่อย่างน้อยหนึ่งปีหลังจากเอาทานของรังไข่ มีวิเคราะห์ข้อมูลจากการศึกษาตามAmedeo Giorgi phenomenological วิธีการประเด็น: ชุดรูปแบบที่สองถูกเปิดเผยเป็นปัจจัยสำคัญของประสบการณ์ของสตรี interviewed: "สูญเสียมารดา" และการ "จัดการกับความเสี่ยงโรคมะเร็งทางพันธุกรรม" ส่วนใหญ่ ชุดรูปแบบเหล่านี้สองยังปรากฏจะเชื่อม เมื่อแม่ตายของมะเร็งรังไข่ในขณะที่ลูกสาวเป็นเด็กหรือหญิงสาว นี้มักจะนำ การปรารถนาดีในการค้นหาคำอธิบายสำหรับการตายของแม่ของเธอเป็นลูกสาวของเธอ และ ในความพยายามของเธอเพื่อรับการทดสอบทางพันธุกรรมและการผ่าตัดเพื่อป้องกันโรคมะเร็งในครอบครัวของเธอในอนาคตสรุป: การศึกษาบ่งชี้ว่า ประสบการณ์ของผู้หญิงในครอบครัวที่มีความเสี่ยงของโรคมะเร็งรัชทายาทแห่งที่สัมพันธ์กับความเข้าใจของพวกเขาเรื่องราวชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสูญเสีย"ของแม่ และวิธีนี้มีผลต่อวิธีที่จัดการกับความเสี่ยงโรคมะเร็งทางพันธุกรรม ผู้ปฏิบัติงานดูแลสุขภาพจึงสามารถช่วยให้ผู้ป่วยที่ระบุเชื่อมต่อ และสร้างศักยภาพผ่านการกระทำของ storytelling ฟังประสบการณ์การเจ็บป่วยของพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวชีวิตของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นามธรรม
วัตถุประสงค์: วัตถุประสงค์ของบทความนี้คือการเน้นการค้นพบใหม่จากการศึกษาเชิงคุณภาพที่ havenot รับการพิจารณาก่อนหน้านี้
วิธีการ: การวิจัยก็ขึ้นอยู่กับวิธีปรากฏการณ์วิทยาเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์บุคคลแบบกึ่งโครงสร้าง ตัวอย่างจุดมุ่งหมายได้รับคัดเลือกจากทางตะวันตกของนอร์เวย์ 14 ผู้หญิงที่มีความเสี่ยงที่เป็นไปได้ของการพัฒนาและเต้านมมะเร็งรังไข่ การเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกิดขึ้นอย่างน้อยหนึ่งปีหลังจากการกำจัดป้องกันโรคของรังไข่ ข้อมูลจากการศึกษาวิเคราะห์ตาม
วิธีปรากฏการณ์วิทยาของ Amedeo Giorgi
ค้นพบที่สำคัญ: สองรูปแบบที่ถูกเปิดเผยเป็นปัจจัยที่สำคัญของประสบการณ์ที่ผู้หญิงให้สัมภาษณ์ว่า "การสูญเสียของแม่" และ "การรับมือกับความเสี่ยงโรคมะเร็งทางพันธุกรรม." สำหรับส่วนใหญ่ ส่วนทั้งสองรูปแบบก็ปรากฏตัวขึ้นที่จะสัมพันธ์ เมื่อแม่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งรังไข่ในขณะที่ลูกสาวของเธอยังเป็นเด็กหรือหญิงสาวคนนี้มักจะนำไปสู่ความปรารถนาดีของลูกสาวของเธอที่จะหาคำอธิบายสำหรับการตายของแม่ของเธอเช่นเดียวกับความพยายามของเธอที่จะผ่านการทดสอบทางพันธุกรรมและการผ่าตัดเพื่อป้องกันการเกิดมะเร็ง ในครอบครัวของเธอ inthe อนาคต
สรุป: การศึกษาแสดงให้เห็นว่าประสบการณ์ของผู้หญิงในครอบครัวที่มีความเสี่ยงของโรคมะเร็งทางพันธุกรรมที่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับความเข้าใจในเรื่องราวชีวิตของพวกเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งของพวกเขา "การสูญเสียของแม่" และวิธีการนี้มีอิทธิพลต่อวิธีที่พวกเขาจัดการกับพันธุกรรม ความเสี่ยงของมะเร็ง ดูแลสุขภาพคนงานจึงสามารถช่วยให้ผู้ป่วยระบุ
การเชื่อมต่อและสร้างการเชื่อมโยงกันผ่านการกระทำของการเล่าเรื่องโดยการฟังประสบการณ์ความเจ็บป่วยของพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวชีวิตของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

B S T R A C T
วัตถุประสงค์ : วัตถุประสงค์ของบทความนี้จะเน้นบางส่วนใหม่ ข้อมูลจากการศึกษาเชิงคุณภาพ ที่ havenot ถูกก่อนหน้านี้ถือว่า
วิธีการ : การวิจัยเชิงคุณภาพ เชิงปรากฏการณ์วิทยาตามวิธี เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์บุคคลอย่างเด็ดเดี่ยวถูกว่าจ้างจากตะวันตกนอร์เวย์ 14 ผู้หญิงที่มีความเสี่ยงของการพัฒนามะเร็งเต้านมและรังไข่ เก็บข้อมูลสถานที่อย่างน้อยหนึ่งปีหลังจากการกำจัดการป้องกันโรคของรังไข่ ข้อมูลจากการศึกษาวิเคราะห์ตามวิธีการเชิงปรากฏการณ์วิทยาของอาเมเดโอ Giorgi
.
พบคีย์ :สองรูปแบบที่ถูกเปิดเผยเป็นปัจจัยสําคัญของการสัมภาษณ์ประสบการณ์ของสตรี : " การสูญเสียของแม่ " และ " การจัดการกับความเสี่ยงโรคมะเร็งทางพันธุกรรม " โดยส่วนใหญ่ทั้งสองรูปแบบก็ปรากฏเป็นคาบ เมื่อแม่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งรังไข่ในขณะที่ลูกสาวของเธอเป็นเด็กหรือผู้หญิงนี้มักจะนำไปสู่ลูกสาวแข็งแรง ความปรารถนาที่จะหาคำอธิบายสำหรับการตายของแม่ของเธอ ตลอดจนความพยายามของเธอที่จะได้รับการทดสอบทางพันธุกรรม และการผ่าตัดเพื่อป้องกันโรคมะเร็งในครอบครัวของเธอในอนาคต .
สรุป : จากการศึกษาพบว่า ประสบการณ์ของสตรีในครอบครัวที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับความเข้าใจของ เรื่องราวชีวิตของพวกเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งของพวกเขา " การสูญเสียของแม่ " และวิธีการนี้มีผลต่อวิธีที่พวกเขาจัดการกับความเสี่ยงโรคมะเร็งทางพันธุกรรม การดูแลสุขภาพจึงสามารถช่วยให้ผู้ป่วยระบุ
การเชื่อมต่อและสร้างการกระทำโดยผ่านการเล่านิทาน ฟังประสบการณ์การเจ็บป่วยของพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวชีวิต